รีวิวหนัง Deadpool & Wolverine – เมื่อศาสดามาร์เวลมาโปรดให้แฟนๆ

จำไม่ได้ว่าความรู้สึกแบบนี้กับการรับชมภาพยนตร์แนวซูเปอร์ฮีโร่ครั้งล่าสุดมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ หรือว่ามันจางหายไปตอนไหน เรื่องหลังๆ ที่ได้ผ่านเข้าไปรับชมมันจะเป็นความรู้สึกที่แบบ “ก็สนุกนะ… แต่” คือออกจากโรงภาพยนตร์มาแล้วก็ต้องมาพยายามนั่งหาเหตุผลว่าเรื่องที่เพิ่งดูไปนี่มันสนุกเพราะอะไรกันนะ

ส่วนหนึ่งก็คงมาจากการพยายามจะเป็นบางสิ่งบางอย่างที่มากกว่าการเป็นภาพยนตร์ฮีโร่สักเรื่องของหนังเรื่องนั้นๆ ไม่ว่าการจะพยายามเป็นภาคต่อ ภาคปิดตำนาน ภาคปิดจักรวาล หรือกระทั่งภาคปิดค่าย ทั้งหมดทั้งมวลจึงทำให้ภาพยนตร์เหล่านั้นมีบางองค์ประกอบต้องถูกใส่เข้าไปด้วยจนมันกลายเป็นไม่กลมกล่อมเสียอย่างนั้น

ในแง่หนึ่ง Deadpool ภาคนี้ก็คงไม่ต่าง มันเต็มไปด้วยองค์ประกอบของความกดดันและความยุ่งเหยิงแวดล้อมมากมาย การควบรวมสองจักรวาลเข้าด้วยกันมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็อีกนั่นแหละ เพราะว่านี่คือ Deadpool ตัวละครยียวนที่หันมาคุยกับคนดู และได้รับอภิสิทธ์ในการใช้เรต R รวมถึงไฟเขียวในการแซะได้ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ไม่เว้นแม้แต่คนออกเงินหรือค่ายคู่แข่ง ดังนั้นแล้วทุกๆ อย่างมันจึงดูง่ายในทางของมันและผู้ชมรู้สึกว่ายอมรับได้โดยไม่ตะขิดตะขวงหรือยอมหลับตาให้ข้างหนึ่ง

ดั่งศาสดามาร์เวลมาโปรด หลังออกจากโรงภาพยนตร์ กับเรื่องนี้ผมไม่ต้องคิดหาเหตุผลของความสนุกให้ปวดหัว เพราะหนังทำให้ผมได้ยิ้มตั้งแต่เริ่มฉายยันกลับถึงบ้านเลยแหละ

Deadpool & Wolverine

Deadpool & Wolverine เป็นภาคที่ 3 ของ Deadpool แต่เป็นภาคแรกภายใต้ชายคา Disney หลังจากซื้อ Fox เข้ามาอยู่ใต้ชายคาพร้อมกวาดเอาเหล่า X-Men กลับบ้าน ทั้งนี้แฟนๆ ก็ตั้งข้อสงสัยว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่กำลังจะถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ แม้หนังเรื่องนี้จะไม่ได้ให้คำตอบถึงหนังเรื่องถัดๆ ไปได้ชัดเจนนัก แต่ก็พอเห็นเค้าลางๆ อยู่บ้าง เพราะหนังเรื่องนี้เหมือนเป็นการพาเหล่า X-Men มาให้เราได้รู้จักกันอีกครั้ง พร้อมๆ กับการทริบิวต์และบอกลาจักรวาลฮีโร่เก่าของ Fox ไปในตัว ดังนั้นแล้ว Deadpool & Wolverine จึงเต็มไปด้วยแฟนเซอร์วิสระดับมหกรรม ไอ้ที่ไม่คิดว่ามาก็มา ไอ้ที่ไม่คิดว่าจะมีก็มี จนคนที่เติบโตมากับหนังของ Fox ตั้งแต่ยุคแรกๆ นั้นฟูลฟีลคววามรู้สึกตั้งแต่เริ่มจนจบแน่นอน

ว่ากันตามตรงเนื้อเรื่องของ Deadpool ภาคนี้เป็นจุดอ่อนสุดใน 3 ภาคเลย ตรงๆ สั้นๆ ตามสูตรเป๊ะๆ ไม่มีพลิกแพลง แต่ทุกสิ่งอย่างก็เหมือนเป็นข้อยกเว้นเหมือนเจ้าของชื่อเรื่อง เพราะมันจะสำคัญขนาดไหนกันถ้าแค่เนื้อเรื่องพอประคับประคอง แต่ส่วนๆ อื่นๆ ล้วนจัดสิ่งที่แฟนๆ อยากได้มาให้แบบถูกทุกข้อ คำหยาบก็มี เลือดก็มา คามิโอแบบจุกๆ แม้จำนวนจะน้อยกว่าแต่อัตราคาดไม่ถึงผมให้เหนือกว่า End Game และแน่นอนมุกตลกระยำตำบอน จิกกัดไปทั่วแบบไม่กลัวโดนฟ้อง ทั้งค่ายเก่า ค่ายใหม่ ค่ายคู่แข่งก็ไม่มียกเว้น

Deadpool & Wolverine

สิ่งที่ชอบอีกอย่างของ Deadpool คือแม้เขาจะใช้ความเกรียนและปากมากของตัวละครในการเดินเรื่องและขับเคลื่อนไดอาล็อก แต่ก็ยังมีซีนขายโมเมนต์ดีๆ ทางอารมณ์ของคู่ตัวเอกได้อย่างเหลือเชื่อแม้ว่าเนื้อเรื่องจะเบาบางก็ตาม โอเคแหละว่าผมอาจจะติดหงุดหงิดในบทพูดตัดรำคาญหยาบๆ ของ Wolverine ที่คิดว่ามันถูกเน้นย้ำบ่อยไปสักหน่อย แต่ท้ายที่สุดทั้งหมดทั้งมวลมันก็นำไปสู่การคารวะทั้งตัว Wolverine, ผู้สวมบทบาทอย่าง ฮิวจ์ แจ็คแมน รวมไปถึงฮีโร่ทั้งองคาภยพของ Fox ที่ไม่ว่าจะเคยประสบความสำเร็จ หรือเคยล้มเหลวกับหลายๆ บทบาท เมื่อคุณเคยใส่ชุดเหล่านั้น แฟนๆ ล้วนจดจำคุณได้แน่นอน

ตอนแรกก็นึกว่าประโยคอย่าง “กูเป็นศาสดามาร์เวล” จะเป็นอะไรที่ถูกพูดกันเล่นๆ ในซีนหนึ่งของหนังเท่านั้น แต่แล้วมันกลับดูเป็นความจริงเสียยิ่งกว่าจริง เพราะในช่วงเวลากราฟดิ่งของค่าย ในช่วงเวลาที่แฟนๆ เสื่อมศรัทธา ในช่วงเวลาที่ไม่อาจมั่นใจได้ว่าหนังฮีโร่เรื่องหนึ่งจะมอบความสนุกให้เราได้หรือไม่ Deadpool ก็ดูจะเป็นชื่อเดียวที่สามารถมอบสิ่งเหล่านี้ให้เราแบบเกินเบอร์ไปเยอะมากๆ ไม่มีเหตุผลอะไรจริงๆ สำหรับแฟนหนังฮีโร่ทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่จะไม่ลองเข้าไปชม Deadpool & Wolverine กันในโรงภาพยนตร์ครับ อาจจะไม่อยากพูดประโยคนี้เท่าไหร่ แต่มันชัดเจนในความรู้สึกจริงๆ

Deadpool & Wolverine

Deadpool & Wolverine คือประสบการณ์รับชมภาพยนตร์จาก Marvel ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ End Game Saga ครับ

Deadpool & Wolverine

Verdict
9/10

ดูรอบและสำรองที่นั่งได้ที่ – https://majorcineplex.com/movie/deadpool-wolverine

ขอขอบคุณ Major Cineplex สนับสนุนการรับชมภาพยนตร์


ติดตามข่าวหนังอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ Online Station

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้