รีวิวหนัง A Minecraft Movie – ภาพยนตร์จากเกมเพื่อคนเล่นเกมที่แท้ทรู

A Minecraft Movie น่าจะเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ความหวังของ Warner ในปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัยครับ ด้วยจำนวนผู้เล่นเกมมากมายมหาศาล ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกคาดหมายว่าต้องประสบความสำเร็จได้อย่างไม่ยากไม่เย็น ซึ่งหลังจากฉายสัปดาห์แรกไปก็ต้องบอกว่าตัวหนังแววดีมากๆ จากกระแสความไฮป์ของแฟนๆ ที่ออกมาชมฉ่ำกันไม่ขาดปาก หรือคลิปความไฮป์ในโรงหนังที่หลายๆ คนอาจจะผ่านตามาบ้าง

ทำให้ตอนนี้เพียงแค่เปิดตัว 3 วันแรก A Minecraft Movie กวาดรายรับในอเมริกาไปกว่า 162 ล้านเหรียญ และรายรับรวมทั่วโลกไปมากกว่า 320 ล้านเหรียญเรียบร้อย จากทุนสร้าง 150 ล้านเหรียญไปแล้วเรียบร้อย เรียกได้ว่าโอกาสกำไรล้นมีสูงมากทีเดียวครับ แต่แรงไฮป์จากคอเกมก็ไม่ได้แปลว่าหนังจะโดนจริตทุกคน และหนังที่โดนจริตหลายคนก็ใช่ว่าจะถูกใจคอเกม ฉันใดก็ฉันนั้น ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าผลงานชิ้นนี้ดูจะถูกใจคอเกมมากเป็นพิเศษ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะภาพยนตร์นั้นประเคนอีสเตอร์เอ้กที่รีเลทกับเกมมาแบบไม่พักไม่ผ่อน แต่กับมุมมองของคนดูหนังที่รู้จักกับ Minecraft เพียงผิวเผินและไม่เคยลองแตะมันเช่นผมนั้นจะเป็นอย่างไร รีวิวชิ้นนี้อาจให้คำตอบกับคุณได้ครับ

A Minecraft Movie จะเล่าถึง สตีฟ ชายนักขุดผู้เผอิญไปเจอกับลูกบาศก์สีฟ้าโดยบังเอิญ และมันดึงเขาเข้าไปในโลกซึ่งสามารถสร้างสรรค์สรรพสิ่งได้จากบล็อก 4 เหลี่ยม แต่อยู่มาวันหนึ่งเขาถูกจอมมารจับตัว จึงให้สัตว์เลี้ยงนำลูกบาศก์ดังกล่าวกลับมาซ่อนในโลกความจริงเพื่อป้องกันจอมมารไม่ให้ออกมาระรานผู้คนได้ แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป เฮนรี่เด็กชายผู้มีความคิดสร้างสรรค์ก็ได้มาพบกับลูกบาศก์นี้เข้าและเปิดประตูสู่โลกแห่งบล็อก 4 เหลี่ยมอีกครั้งพร้อมด้วยผู้คนที่จับพลัดจับผลูตามมาด้วยอย่างไม่เต็มใจนัก แต่นั่นแหละ การผจญภัยครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

ขอพูดข้อดีที่เด่นชัดสุดก่อนเลยก็คือ A Minecraft Movie เป็นหนังที่ภาพสวยเอามากๆ แล้วคือตอนดูดูบนจอ IMAX ยิ่งชัดเจนว่าทีมงานสร้างโลกของ Minecraft ขึ้นมาได้ดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ ตัวละคร หรือสัตว์ต่างๆ คือมันมีคุณภาพสูงเอามากๆ จนมั่นใจเลยว่าเด็กๆ หรือแฟนๆ เดนตายจะต้องอยากลองเข้าไปอยู่เองบ้างแน่นอน หลายๆ ซีนก็ให้ภาพที่ดี สวยงาม ล้อไปกับเรื่องราวขณะนั้นได้อย่างไม่ติดขัด ถ่ายทอดสาส์นที่หนังต้องการจะสื่อ ณ ชั่วขณะนั้นได้อย่างยอดเยี่ยม ในแบบแทบจะไร้ที่ติเลย

อีกข้อที่แม้ผมอาจจะไม่เจนจัดนักแต่ก็รู้สึกได้คือ A Minecraft Movie เป็นหนังเพื่อคนเล่นเกมของเขาจริงๆ อีสเตอร์เอ้กยิงมาแบบไม่ยั้ง คือผมที่ไม่เคยเล่นก็พอจะเก็ตบ้างไม่เก็ตบ้าง แต่คิดว่าคนเล่นเกมคงว้าวมากๆ แน่นอน ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็คงแนวๆ Deadpool & Wolverine ที่เป็นหนังเส้นเรื่องง่ายๆ แต่อุดมอีสเตอร์เอ้กสำหรับแฟนๆ มาร์เวลและเอ็กซ์เมน เสิร์ฟไม่พักกันจนฟินไปข้าง

แต่เพราะเสิร์ฟอีสเตอร์เอ้กจุกๆ นั่นเอง ทำให้คนที่ไม่คุ้นเคยกับเกมอาจจะรู้สึกว่าโดนถีบออกมาจากหนัง อีกทั้งมุขและความสนุกส่วนใหญ่ของหนังก็ราวกับพึ่งพาของเหล่านั้น มันทำให้พอมาลองกระเทาะถึงตัวเรื่องจริงๆ แล้วมันแทบไม่มีอะไรเลย เส้นเรื่องง่ายๆ เป็นเส้นตรง การแสดงแบบล้นๆ ของตัวนำอย่างแจ็ค แบล็ค และ เจสัน โมโมอา เพซการเดินเรื่องที่ดูติดขัดไปหมด และสำคัญที่สุดคือหนังไม่อาจส่งสาส์นหลักของเรื่องราวได้ชัดเจนพอ ตัวละครอย่างเฮนรี่ที่ถูกปูมาเป็นตัวแทนของความสร้างสรรค์กลับไม่ได้ถูกโฟกัสขนาดนั้น เขาไม่ได้สร้างอะไรที่มันดูเป็นคีย์สำคัญของเรื่อง หรือว่าสร้างมากพอที่ผู้ชมจะเห็นคุณค่าในความคิดสร้างสรรค์ของเขา ส่งผลให้เราไม่ได้รู้สึกเอาใจช่วยสักเท่าไหร่ และเพราะแบบนั้น ผมรู้สึกว่าหนังไม่ได้แสดงให้เห็นเลยว่า เราสามารถสร้างความมหัศจรรย์จากบล็อก 4 เหลี่ยมนี้ได้อย่างไรบ้าง ทั้งๆ ที่ในโลกจริงเราต่างก็เห็นคอนเทนต์เจ๋งๆ จากเกมมานักต่อนัก ซึ่งผมรู้สึกว่าเป็นอะไรที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง

ในภาพรวม A Minecraft Movie เป็นหนังที่แม้อาจจะมีไดเรคชั่นที่ไม่ค่อยชัดเจนจนพลาดหลายๆ อย่าง แต่ที่สุดแล้วมันก็ดูจะเป็นผลงานที่ทำมาเสิร์ฟลูกค้าได้ถูกคน ซึ่งในมุมหนึ่งมันอาจจะถูกต้องแล้วก็ได้ แค่เสียดายนิดหน่อยที่เราเองก็อยากเกาะขบวนสนุกสนานไปกับเขาได้บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นการได้เห็นคอมมิวนิตี้ของเกมแฮปปี้กับงานภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากสิ่งที่พวกเขารักนั้นมันก็เป็นภาพที่สวยงามไม่หยอกเช่นกัน และเป็นหลักฐานว่า A Minecraft Movie ประสบความสำเร็จในแบบของมันเองไปแล้วเรียบร้อย