ใช่แล้วครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพ หัวข้อข่าวนี่ไม่ผิดแน่นอนแต่อย่างใด “Final Fantasy XIII จะมาลงให้กับเครื่อง Xbox 360 ด้วยครับ” แถมไม่ได้ย้ายมากระจอกๆ ยังถูกกำหนดให้วางจำหน่ายในแถบอเมริกาและยุโรปไล่เลี่ยกับเวอร์ชั่น PS3 ซะด้วย แต่สำหรับตอนนี้สิ่งอื่นใดก็คือความรู้สึกเหมือนโดนแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจของชาว PS3 แฟนบอย ในขณะเดียวกันแฟนบอย Microsoft ก็พร้อมใจกันยินดีต้อนรับเกียรตินี้และนำไปอวดบนเวทีประชุม Microsoft’s E3 2008 Press Conference เว็บบอร์ดต่างๆบนโลกอินเตอร์เน็ตต่างร้อนระอุเต็มไปด้วยข้อถกเถียงในหัวข้อดังกล่าว ดูเหมือนว่า E3 ปีนี้ จะมีเล็กก็แค่ขนาดงานเท่านั้นแล….
แต่จริงๆแล้วข่าวการเปลี่ยนแปลงของ FFXIII ที่ดำเนินการมายาวนานนี้น่าตกใจจริงๆหรือ อันที่จริงเรื่องแบบนี้ก็ส่อเค้ามาตั้งแต่งาน GDC ที่ผ่านมาแล้ว ย้อนกลับไปตอนนั้น ทาง Square Enix ได้ประกาศไว้ว่าเทคโนโลยี Crystal Tools ของพวกเขาจะถูกนำไปใช้กับอีกหลายแพลตฟอร์ม ไม่ใช่เพียงแค่กับโปรเจ็กซ์บน PS3 เท่านั้น ในนามเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการสร้างเกมส์หลายเกมส์พร้อมกันทั้งบน PS3 และ Xbox 360 (รวมทั้ง Wii ในอีกไม่ช้า) Crystal Tools ถือเป็นเครื่องมือสำหรับการสร้างภาพสุดอลังการของหนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ที่แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย แต่เกมส์ที่มุ่งเน้นตีตลาดตะวันตกอย่าง The Lost Remnant นั้นเป็นผลงานจากแผนกหนึ่งของบริษัท Enix ซึ่งหมายความว่าถูกพัฒนาโดยสตูดิโอนอกด้วย Unreal Engine 3 จึงกลายเป็นว่า Crystal Tools นั้นถูกพัฒนามาเพื่อทีมงานภายใน ฝ่าย Square ซะมากกว่า เพื่อนำไปใช้สร้างสรรค์ผลงานแบบฉบับ “Square’s style” การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีที่ทันสมัย และเทคโนโลยีสร้างตัวละครให้สวยสมจริงนี่ทำให้วงการวีดีโอเกมส์และโลกดูสดใสขึ้นเยอะครับ จากที่เราได้เห็นกันมา แต่ในขณะเดียวกัน ผลงานสำหรับเจเนเรชั่นนี้ที่กำลังจะมาสร้างชื่อเสียงในอนาคตแก่บริษัทอย่าง FFXIII, FF Versus XIII และเกมส์ MMORPG ลึกลับที่ยังไม่เปิดเผย ก็กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ด้วยสมัยนี้ค่าใช้จ่ายต่างๆในขั้นตอนพัฒนาสูงลิบลิ่วกว่าแต่ก่อน อีกทั้งเสียงเรียกร้องจากแฟนๆที่ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยตั้งแต่ E3 2006 ของเกมส์ FFXIII ถ้าเดาจากตรงนี้จริงๆก็น่าจะรู้กันตั้งแต่แรกแล้วว่า “FFXIII จะมาเป็นมัลติแพลตฟอร์มในไม่ช้า” ชัวร์! เพื่อขจัดปัญหาด้านเงินทุนพัฒนา
กลับมาที่ปัจจุบัน ทันทีที่ Microsoft ประกาศถึงการเพิ่มแพลตฟอร์มลงให้กับ FFXIII คุณ Shinji Hashimoto ผู้บริหารฝ่ายบุคลากร และนาย Yoshinori Kitase โปรดิวเซอร์ของเกมส์ FFXIII ก็ปรากฏตัวขึ้นในงานประชุมดังกล่าวเพื่อการตอบคำถามต่างๆเกี่ยวกับตัวเกมส์ในครั้งนี้ ซึ่งประเด็นหลักที่จับใจความได้และถือเป็นปัญหาสำคัญของบริษัท ก็คือ การขาดทรัพยากรทุนในการพัฒนาเกมส์ FFXIII ของบริษัท ทาง Square Enix เองก็อยากจะจัดการชี้แจงเรื่องราวครั้งนี้ให้ทุกคนหมดข้อสงสัยและจบลงภายในงาน E3 ครั้งนี้เลย ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับเกมส์เพลย์และตัวละครใหม่ๆก็จะขอยังไม่เปิดเผย ณ ตอนนี้ เพราะตั้งใจไว้ว่าจะไปเปิดเผยข้อมูลส่วนนั้นที่ Tokyo ในงานใหญ่ของ Final Fantasy เร็วๆนี้แทน แต่ถึงกระนั้น ข้อมูลทั้งหมดก็กระจ่างดังต่อไปนี้แล….
บางที ก็อาจเป็นไปได้ว่าการที่ FFXIII ย้ายไปลง Xbox 360 ด้วยของ FFXIII อาจจะเป็นแผนพัฒนาขั้นตอนหนึ่งสำหรับอุตสาหกรรมฝั่งตะวันตกด้วยเช่นกัน “แผนการดำเนินงานของพวกเราสำหรับ 360 จะยังไม่มีการเปลี่ยนประการใดครับ” คุณ Hashimoto กล่าวอธิบายอย่างแน่วแน่ “เราพิจารณาจากสถานการณ์ของบริษัทเราแล้ว เราเลยอยากจะหาทางขยายวงของเกมส์ให้กว้างออกไปทางฝั่งฮาร์ดแวร์ที่มีคนเล่นมากที่สุด” ซึ่งก็หมายถึง Xbox 360 ครับ ที่เป็นเครื่องคอนโซลที่ฮิตสุดๆในฝั่งตะวันตก แต่พูดได้ว่าดับในญี่ปุ่นเอง ยิ่งไปกว่านั้น หากมองจากการขยายวงกว้างของความนิยมในตัว 360 ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆก็ถือเป็นการตัดสินใจที่ดีอีกเช่นกัน ต่างกับ PS3 ที่โตทีละนิดทีละหน่อย (มีแค่ช่วงวางจำหน่าย MGS4 ที่ผ่านมา ซึ่งบูมเกินเท่าตัว แต่นั่นเกมส์ Exclusive นะ….) ซึ่งถ้าหากทำสำเร็จ กำไรที่ทาง Square Enix ได้จะมหาศาลไม่ใช่น้อย เพราะสาวกชาวตะวันตกก็คือครึ่งต่อครึ่งของยอดขายทั้งหมดในภาคที่ผ่านๆมาเช่นกัน ต่อจากนั้น คุณ Hashimoto ก็เริ่มอธิบายว่าตอนนี้แผนการพัฒนา FFXIII สำหรับ Xbox 360 ก็เริ่มร่างเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาแล้ว “ตอนนี้เราพร้อมที่จะพัฒนา FFXIII สำหรับ 360 แล้วครับ ทุกอย่างเหลือแค่รอเวลา” เขากล่าว “ขั้นแรก เราจะจัดการพัฒนา FFXIII สำหรับภายในญี่ปุ่นให้เสร็จก่อน แล้วหลังจากนั้นจึงค่อยดำเนินการทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับอเมริกาและยุโรป ทั้งการตลาดและการกำหนดพื้นที่ ในช่วงเวลาเดียวกับการเริ่มพัฒนาเวอร์ชั่น 360 ถ้าถามว่าเวอร์ชั่น PS3 และ 360 จะวางจำหน่ายพร้อมกันในต่างประเทศมั้ย…. ผมคิดเราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้นะครับ ด้วยเหตุผลของภาษาและเงื่อนไขอื่นๆ” ก็หมายความว่ายังไงก็ต้องรอเวอร์ชั่นอังกฤษนานอยู่ดี
เขายังพูดปลอบใจชาวตะวันตกสาวก RPG ญี่ปุ่น กลุ่มซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการตลาด ว่าเขาสัญญาที่จะนำ FF ภาคนี้สู่ตลาดต่างประเทศให้เร็วกว่าที่เคยทำมาในอดีตทุกภาค ซึ่งเคยใช้เวลาถึง 9 หรือ 10 เดือน กว่าจะเข้าตลาด U.S. ได้ แล้วก็นานกว่านั้นกว่าจะเข้าถึงยุโรป ถึงจะฟังเป็นคำสัญญาที่น่าเชื่อถือ แต่นี่ถือเป็นการแบ่งแยกฟังก์ชั่นทางการใช้งานของ Crystal Tools ระหว่าง 2 แพลตฟอร์ม น่าจับตามองว่า Square จะทำอย่างไรต่อไปเมื่อใกล้ถึงเวลาวางจำหน่าย งานทั้งหมดจะเสร็จได้ทันและสมบูรณ์ตามที่สัญญาไว้หรือเปล่า ผลงานจาก Crystal Tools จะเป็นอย่างไรกันแน่ หรือจะเป็นเพียงแค่คำพูดที่มีไว้เพียงประดับข่าวดีข่าวนี้กันแน่ อย่าลืมว่า Square ยังต้องจัดการฝั่งตลาดเอเชียให้เสร็จสิ้นก่อนถึงจะเริ่มทุกอย่างได้ และตลาดเอเชียนี้ก็แตกต่างกับตลาดฝั่งชาวตะวันตกโดยสิ้นเชิงเสียด้วย หนำซ้ำดูงานของ Square Enix แต่ละชิ้นก็ละเอียดอ่อนมาก ถ้าไม่เสร็จคงไม่ยอมปล่อยออกมาสั่วๆแน่นอนครับ
เหตุผลที่สาม ในการเป็นมัลติแพลตฟอร์มของ FFXIII ก็คือ การทดลองตีตลาดฝั่งตะวันตกในเจเนเรชั่นนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตอนนี้บริษัทกำลังอยู่ในสภาวะมืดมน จึงต้องหันมาหาทางออกเพิ่ม คุณ Hashimoto ยอมรับว่าเขาก็ยังไม่ทราบว่าการตัดสินใจทำลงหลายแพลตฟอร์มนี้ผลออกมาจะเป็นยังไง “เราอยากจะถามความเห็นจากคุณ (ผู้เล่นทุกคน) นะครับ” เขากล่าว “เราเองก็เพิ่งจะประกาศข่าวไป และตอนนี้เราก็เพิ่งเริ่มทำการสำรวจตลาด การตัดสินใจในอนาคตจะเกิดขึ้นหลังจากเราสำรวจไปได้สักพักนึงครับ” ในอีกไม่ช้าเราอาจจะได้เห็นเกมส์ใหม่จากซีรี่ส์ FF ลง Xbox 360 ก็ได้นะครับ
แม้กระทั่งด้านเทคนิคก็ยังไม่เว้น ซึ่งก็มีผลมาจากภาวะมืดมนทางทุนทรัพย์ “คอนเท็นต์ภายในจะเหมือนกันทั้ง 2 เวอร์ชั่นครับ” คุณ Kitase กล่าวย้ำว่าต่างกันแค่แพลตฟอร์มเท่านั้น “ยังไงก็แล้วแต่ เราต้องกำหนดอีกด้วยว่าเวอร์ชั่น 360 จะต้องใช้ทั้งหมดกี่แผ่น เรายังต้องพิจารณาถึงความต่างระหว่าง 2 ฟอร์แมต ในตอนนี้เกมส์ถูกพัฒนาอยู่บนเครื่อง PC ซึ่งยังใช้ได้ในเวลานี้ เรายังคงเล็งเป้าหมายไปที่ตลาด PS3 มันเลยยากที่จะพูดว่าการทำงานบนเวอร์ชั่น 360 จะต้องใช้เวลานานแค่ไหน” พัฒนามาหลายปี จำนวนแผ่นก็อาจจะเหมือน Lost Odyssey ก็ได้ หรืออาจจะมากกว่านั้น เพราะด้วยคุณภาพกราฟิก และคอนเท็นต์ภายในที่รู้ๆกันว่าซีรี่ส์นี้ความลับเยอะกันแค่ไหน
แต่อย่าเพิ่งหมดหวังครับสาวก FF จากเครื่อง Xbox 360 ทั้งหลาย งานประชุมนี้ไม่ได้มีแต่การปิดข่าวเงียบและข่าวร้าย คือ การเปลี่ยนไปใช้ Crystal Tools นอกจากจะทำเพื่อมาลงให้ Xbox 360 แล้ว ยังทำเพื่อความความเร็วในการพัฒนาเกมส์นี้ด้วย “ตอนนี้เราพัฒนาเกมส์อยู่บนฐานของ PC ทำให้งานของพวกเราเดินเร็วขึ้นเล็กน้อย เรายังไม่ได้นำเสนอฟุตเทจใหม่ๆในเกมส์เลย แต่เราจะสามารถนำเสนออะไรใหม่ๆให้ชมกันเร็วๆนี้ได้แน่นอนครับ” คุณ Kitase บอกถึงข่าวดีที่จะมีในเร็ววัน รวมถึงอธิบายเป็นนัยๆว่าเทคโนโลยี Crystal Tools ใช้งานได้กว้างและง่ายแค่ไหน (สำหรับมืออาชีพ)
สำหรับตอนนี้ FFXIII ก็ยังไม่มีอะไรนอกจากวีดีโอพรีเรนเดอร์สวยๆงามๆที่เคยดูกัน ถ้าโชคดี หรือว่าอย่างน้อย Square จะยอมเปิดเผยสักนิด เราก็จะได้เห็นอะไรใหม่ๆเร็วๆนี้แน่นอนครับ
