Bloodhound เป็นตัวละครสาย Scout หรือ Tracker ที่ในขณะนี้มีอยู่ตัวเดียวภายในเกม Apex Legends ซึ่งมีสกิลสามารถแกะรอยศัตรูได้ และสามารถล่วงรู้ได้เกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นศัตรูวิ่งไปทางไหน เปิดประตูนี้มานานแค่ไหน และมีเหตุการณ์อะไรบ้างเกิดขึ้น ทำให้ Bloodhound เป็นนักล่าที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบเหมาะแก่สายลุยเป็นอย่างมาก
Passive – Tracker
สำหรับสกิล Passive นี้จะทำให้ Bloodhound เห็นร่องรอยบนพื้น ซึ่งเราสามารถดูได้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรมาก่อนตรงนี้และระยะเวลาผ่านไปนานแค่ไหน (ร่องรอยจะหายไปในระยะเวลาประมาณ 1 นาที) ส่วนมากจะใช้เพื่อทำให้รู้ว่ามีศัตรูอยู่แถวนี้ หรือจะใช้เพื่อแกะรอยตามล่าศัตรูก็ได้เช่นกัน เป็นสกิลที่เหมาะกับสายไล่ฆ่าในเกม Apex Legends เป็นอย่างมาก โดยสิ่งที่เราสามารถมองเห็นจากสกิล Tracker ได้นั้นมีมากมายได้แก่ รอยเท้าและรอยสไลด์ของศัตรู, ประตูเปิดปิด, ศัตรูถูกยิงถูกฆ่า, ร่องรอยการเปลี่ยนกระสุน, การปีนกำแพง และการใช้สกิลของศัตรูบางประเภท
Tactical – Eye of the Allfather
เป็นอีกสกิลที่ทำให้ Bloodhound เหมาะกับการเป็นนักล่ามากยิ่งขึ้น เมื่อกดใช้จะทำการ Scan พื้นที่ ซึ่งหากมีศัตรูอยู่ในระยะจะทำการ Mark จุดศัตรู รวมไปถึงร่องรอยรอบๆ อีกด้วย ส่วนมากจะเป็นสกิลที่ไว้ใช้ภายในบ้านเพราะระยะไม่ได้ไกลมาก หรือใช้เวลาได้ยินเสียงเท้าศัตรูแต่ยังไม่รู้ว่าศัตรูอยู่ที่ไหน ข้อควรระวังก็คือเวลาใช้งานสกิลนี้ ศัตรูก็จะเห็นม่านบาเรียที่ใช้ Scan เช่นกัน เป็นสกิลที่เมื่อใช้งานแล้วศัตรูก็จะรู้ได้ทันทีว่ามี Bloodhound ไล่อยู่
Ultimate – Beast of the Hunt
สุดยอดสกิลสำหรับนักล่า โดยเมื่อกดใช้สกิลนี้ Bloodhound จะเข้าสู่โหมดนักล่าเต็มตัว ซึ่งจอของผู้เล่นจะกลายเป็นสีขาวดำ แต่จะเห็นรอยเท้าศัตรูรวมไปถึงตัวศัตรู Highlight เป็นสีแดง ทำให้เห็นเด่นชัดกว่าเดิม รวมไปถึงตัว Bloodhound เองจะวิ่งไวขึ้นอีกด้วย แม้จะเป็นสกิลที่เหมาะในการใช้ล่าศัตรู แต่ในบางจังหวะก็สามารถนำมาใช้เป็นสกิลหนีได้เช่นกัน
แนวทางการเล่น Bloodhound
สกิลส่วนใหญ่ของ Bloodhound นั้นค่อนข้างเอื้อไปในด้านการเล่นปะทะซะส่วนใหญ่ ด้วยสกิลการแกะรอยที่ไม่มีตัวละครอื่นๆ ในเกม Apex Legends ทำได้เลย ทำให้ Bloodhound เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ค่อนข้างพิเศษมากในการเล่นสไตล์นี้ ซึ่งข้อดีของสกิล Passive โดยมากจะเป็นการที่ทำให้เราล่วงรู้ว่าศัตรูอยู่แถวนี้ และทำให้เราและเพื่อนร่วมทีมเตรียมพร้อมในการปะทะมากกว่าเดิม อีกทั้งสกิล Eye of the Allfather ก็ยังช่วยปิดจุดอ่อนในกรณีที่หาศัตรูไม่เจอภายในพื้นที่แคบต่างๆ ถึงแม้ศัตรูจะรับรู้ถึงการมาของเรา แต่อย่างน้อยก็ทำให้ฝ่ายเราไม่โดนเซอไพรส์โจมตีก่อนเช่นกัน
การใช้สกิล Eye of the Allfather ในจังหวะปะทะก็จะช่วย Mark ตำแหน่งศัตรูให้กับทีมของเราด้วย
จุดเด่นที่สุดของ Bloodhound นอกจากการแกะรอย ก็มีสกิล Beast of the Hunt ที่ทีเด็ดสุดก็คือการ Highlight ศัตรูเป็นสีแดง ทำให้เราสามารถมองศัตรูทะลุควันได้ ไม่ว่าจะเป็นระเบิดควันของ Bangalore หรือแก๊สพิษของ Caustic ซึ่งก็ทำให้ Bloodhound เหมาะกับคอมโบกับตัวเหล่านี้เป็นอย่างมาก แต่จุดอ่อนของ Bloodhound ก็คือการที่ไม่มีสกิลหนีจากสถานการณ์ลำบากยกเว้นสกิลอัลติเมทสกิลเดียว ทำให้การแกะรอยบางทีอาจพาตัวหรือหรือเพื่อนร่วมทีมตกไปอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากได้เช่นกัน ในระหว่างตามรอยจึงต้องคอยระวังศัตรูที่อาจจะรู้ตัวและดักรอเราอีกด้วย
ใช้เวลาเจอควันของ Bangalore จะเป็นการแก้ทางตัวเธอได้เป็นอย่างดี
ปืนที่เหมาะกับ Bloodhound
Bloodhound นั้นค่อนข้างจะเหมาะกับปืนหลากหลายประเภท หากเน้นเล่นสายปะทะเน้นเปิดอัลติเมทวิ่งลุย ปืนประเภท Shotgun หรือ SMG ก็เป็นตัวเลือกในการสู้ระยะใกล้ที่ดี แต่หากเสริมความสามารถของสกิล Tracker ให้ดีขึ้น การเล่นปืนประเภท Sniper ที่ติดกล้องไกลๆ ได้ ก็จะเพิ่มระยะให้เราเห็นร่องรอยศัตรูได้ไกลขึ้นเช่นกัน ซึ่งเปิดโอกาสในบางสถานการณ์ให้ตัวเราไม่ต้องเข้าไปในจุดเสี่ยงด้วยตัวเองได้
หากติดกล้องส่องทางไกล จะทำให้เราใช้สกิล Tracker ในระยะที่ปกติมองไม่เห็นได้ด้วย
Bloodhound นั้นถือเป็นตัวที่มีความสามารถค่อนข้างพิเศษในเกม Apex Legends ยิ่งอยู่ในมือของคนที่เล่นเก่งแล้ว จะทำให้ตัวนี้น่ากลัวขึ้นหลายเท่าเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่เหมาะกับทีมสายลุยอย่างแท้จริง
