วันที่ 6 เมษายน 1990 หรือวันนี้เมื่อ 35 ปีที่แล้ว เป็นวันวางจำหน่ายของเกม Ninja Ryukenden 2: The Dark Sword of Chaos บนเครื่อง Famicom ที่ประเทศญี่ปุ่นครับ โดยซีรีส์นินจาริวเคนเด็นนั้นมีอีกชื่อที่นำไปจำหน่ายในประเทศฝั่งตะวันตกก็คือ นินจาไกเด็น (Ninja Gaiden) นั่นเอง ซึ่งต่อมาหลังจากจบไตรภาคที่ลง Famicom แล้ว ก็ได้คุณโทโมโนบุ อิตางาคิ (Tomonobu Itagaki) หรือที่เหล่าเกมเมอร์ชอบเรียกเจ้าตัวว่า “พรี่แว่นดำ” เป็นคนนำซีรีส์นี้มารีบูตใหม่แล้วขายทั่วโลกในชื่อเดียวคือนินจาไกเด็นมาจนถึงปัจจุบัน
ทว่าด้วยความที่เกมเมอร์ในไทย ณ เวลานั้นมักเรียกเกมนี้ติดปากว่า “นินจาริวเคนเด็น” เราก็เลยขอเรียกแบบนั้นในบทความนี้นะครับ
(ล่าง) ปกเกมเวอร์ชั่นญี่ปุ่นและเวอร์ชั่นตะวันตก
เนื้อหาของเกมภาคนี้จะเป็นเหตุการณ์ 1 ปีให้หลังถัดจากเกมนินจาริวเคนเด็นภาคแรก เมื่อ ริว ฮายาบุสะ (Ryu Hayabusa) พระเอกของเกมได้ปราบฌักคิโอ (Jaquio) วายร้ายที่สังหารพ่อของเขาได้สำเร็จ ไม่นานนัก แอชตาร์ (Ashtar) ผู้เป็นจักรพรรดิปีศาจก็ได้วางแผนชั่วร้ายที่หวังจะยึดครองโลกและต้องการให้โลกตกอยู่ในพลังอำนาจอันมืดมิดของดาบมารที่มีชื่อเต็ม ๆ ว่า The Dark Sword of Chaos ตามชื่อภาคนี้เลย ดังนั้นริวจึงต้องออกไปทำภารกิจใหม่ นั่นคือการปกป้องโลกและหยุดแผนการของแอชตาร์ให้ได้
เกมเพลย์ของภาค 2 มีการพัฒนาปรับปรุงจากภาคแรกหลายด้าน อย่างแรกเลยคือ ริวในภาค 2 สามารถไต่กำแพงขึ้น-ลงเป็นแนวดิ่งได้แล้ว จากเดิมที่ริวในภาคแรกจะทำได้แค่เกาะกำแพงแล้วต้องชิ่งไปมากับกำแพงอีกด้านที่อยู่ใกล้กันเท่านั้น ถัดมาคือการเพิ่มอาวุธพิเศษที่หาเก็บได้ระหว่างผจญภัย หนึ่งในนั้นก็คือวิชาแยกร่าง ที่พอเก็บมาแล้วริวจะเพิ่มร่างโคลนที่มีสีส้ม คอยเคลื่อนไหวตามริวและโจมตีศัตรูในจังหวะเดียวกับที่เรากดปุ่มโจมตีได้ โดยร่างโคลนจะสามารถมีได้มากที่สุด 2 ตัว (รวมริวเป็น 3) และถ้าเราฝึกจัดระเบียบการยืนของริวกับร่างโคลนทั้ง 2 ดี ๆ ตอนสู้กับบอส จะทำให้เวลาเรากดโจมตีทีเดียว เลือดของบอสจะลดทีละ 3 ช่องได้เลย
แม้ว่าเกมนินจาริวเคนเด็นทั้ง 3 ภาคบน Famicom จะไม่มีให้ปรับระดับความยากก็จริง แต่ที่เกมเซ็ตมาให้แต่แรกก็ถือว่าค่อนข้างยากอยู่ ยิ่งลุยถึงสักด่าน 4 เป็นต้นไป ศัตรูจะค่อนข้างตึงมือ และบรรดาเหวหรือกับดักจะชวนหัวร้อนหลายจุด ขนาดที่กล่องเกมเวอร์ชั่นตะวันตกยังมีระบุไว้บนหน้ากล่องว่า Hard to Beat ที่มีความหมายว่า “จบเกมได้ยาก” นะจะบอกให้
เกร็ดเล็กน้อยของเกม
- ช่วงท้ายของด่าน 4-2 จะมีไอเทม 1UP ที่มีคุณสมบัติเพิ่มจำนวนชีวิตของริวอยู่ หากเก็บมาแล้วให้ย้อนกลับไปทางเดิมแล้วปีนบันไดไปยังฉากก่อนหน้า จากนั้นให้กลับไปยังโซนที่มี 1UP ใหม่ จะเห็นว่ามีไอเทม 1UP โผล่มาที่เดิมอีกครั้ง เราสามารถใช้ทริคนี้ฟาร์มจำนวนชีวิตได้แบบไม่จำกัดจำนวนครับ
- ในด่าน 3-1 นั้น ตัวฉากจะค่อนข้างมืดและเราจะเห็นสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวได้ก็ต่อเมื่อมีฟ้าแลบเท่านั้น ตรงนี้จะมีทริคอยู่คือถ้าเราไม่มั่นใจทางเดินหรือตำแหน่งเหวข้างหน้า ให้กดปุ่ม Start เพื่อ Pause เกมไว้ แล้วรอดูฟ้าแลบในช่วง Pause ได้เลย ระหว่างนี้ศัตรูจะไม่ขยับตัวด้วย ซึ่งจะง่ายกว่ารอดูฟ้าแลบเฉย ๆ แบบไม่ Pause ครับ
- สำหรับตัวเกมเวอร์ชั่นญี่ปุ่น (ที่ใช้ชื่อ Ninja Ryukenden 2) เมื่อเราจบเกมแล้ว และรอดูเครดิตขึ้นมาจนครบ และปรากฏข้อความ THE END ตรงกลางจอ ให้กดปุ่มขวา ปุ่ม B และปุ่ม Select พร้อมกัน จะมีฉากจบลับให้ดูเพิ่มอีกนิดหน่อย ซึ่งเกมเวอร์ชั่นตะวันตกจะไม่มีการใส่ฉากลับนี้เข้ามา
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station
