Ragnarok Online : Biochemist : นักปาขวดทีมชาติ

[img=46176]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img][b][color=red]Biochemist : นักปาขวดทีมชาติ[/color][/b][p]นักปรุงยามืออาชีพที่ไม่ได้มีความสามารถเพียงแค่สร้างยาเท่านั้น แต่ความร้ายกาจในกิลด์วอร์ ทำให้หลายอาชีพต้องพบจุดจบกันมานักต่อนัก มันเกิดมาเพื่อขว้าง มันเกิดมาเพื่อปา ขนาดพี่ปุ๊ระเบิดขวดยังต้องอาย นอกจากนี้ยังเป็นที่รักของเพื่อนๆ ในกิลด์ เพราะสามารถปกป้องบรรดาอาวุธและชุดเกราะให้ไม่เสียหายได้ด้วย ใครว่าอาชีพนี้ไม่เก่งคงต้องกลับไปคิดใหม่… หรือนายจะหักกับเรา… ปุ๊[b][color=blue]บทบาทของ Biochemist ในกิลด์วอร์[/color][/b][p]เมื่ออยู่ในกิลด์วอร์ทุกอาชีพต่างมีลูกเล่นเป็นของตัวเอง และสกิลประเภททำลายอาวุธกับชุดเกราะของคู่ต่อสู้ก็มีอยู่ไม่น้อย แถมยังเป็นที่นิยมใช้กันมากอีกด้วย มีเพียง [b]Biochemist[/b] เท่านั้นที่จะช่วยให้พ้นภัยจากสกิลเหล่านั้นได้ ด้วยความสามารถในการเคลือบอุปกรณ์ทั้งอาวุธและชุดเกราะให้ไม่ถูกทำลายด้วยผลของสกิลใดๆ ทั้งปวงทำให้ [b]Biochemist[/b] ถือเป็นตัวสำคัญในกิลด์วอร์เป็นอย่างยิ่ง[p]นอกจากนี้ [b]Biochemist[/b] ยังเลือกเล่นได้หลายสายทั้งสายสนับสนุนเพื่อนแบบเต็มรูปแบบ และสายปาขวดที่ทำให้ศัตรูไม่อยากยุ่งด้วย ทำให้[b] Biochemist[/b] มีหน้าที่เป็นได้ทั้งหน่วยสนับสนุนและหน่วยจู่โจม นอกจากนี้ยังมีสกิลที่สามารถใช้พลิกแพลงตามสถาณการณ์ต่างๆ ได้อีก หากเป็นคนที่เล่น [b]Biochemist[/b] รับรองได้ว่าต้องสนุกแน่ๆ[img]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img]เกิดมาเพื่อปาขวด[b][color=blue]สายการเล่น[/color][/b][p]หากจะแบ่งสายการเล่นที่ดูจะเข้าท่าในกิลด์วอร์แล้วจะเหลือเพียงแค่ 2 สายคือ สายสนับสนุนและสายปากรดไฟที่หลายคนเรียกกัน ซึ่งทั้ง 2 สายนี้มีจุดมุ่งหมายต่างกันชัดเจน ก่อนที่เพื่อนๆ จะเริ่มเล่น [b]Biochemist[/b] ควรจะรู้ตัวเองก่อนว่าต้องการจะเล่นไปเพื่ออะไร อยากทำหน้าที่อะไรในกิลด์วอร์ หากต้องการช่วยเหลือเพื่อนในกิลด์ให้เล่นสายสนับสนุน แต่ถ้าหากอยากก่อกวนศัตรูหรือฆ่าคนได้ด้วยให้เลือกเล่นสายปากรดไฟ ทั้ง 2 สายนี้จะแตกต่างกันตรงสกิล เนื่องจากจำนวนสกิลพ้อยท์ของไฮคลาสที่ได้มาทั้งหมดจำนวน 69 พ้อยท์ที่จ็อบเลเวล 70 นั้นไม่เพียงพอต่อการอัพให้สามารถใช้สกิลได้ทั้ง 2 สายอย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้นจึงต้องมีการเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถเล่นทั้ง 2 สายไปด้วยกันได้ หากอัพครึ่งกลางๆ เอามันทั้ง 2 สายก็จะไม่เก่งเลยสักทาง[b][color=blue]สกิลของสายสนับสนุน[/color][/b] สายสนับสนุนจะเน้นไปที่ 2 สกิลคือ สกิลตระกูลเคลือบทั้งหลายแหล่ และสกิล [b]Slim Potion Pitcher[/b] สำหรับสกิลตระกูลเคลือบนั้นในเมื่อก้าวเข้าสู่สายนี้แล้วคงหนีไม่พ้น [b]Full Chemical Protection[/b] ที่ใช้เคลือบได้ทุกอย่างในการร่ายเพียงครั้งเดียวทั้งอาวุธ หมวก เกราะ และโล่ สกิลนี้แนะนำให้อัพเต็มไปเลย ถ้าจะเป็นสายสนับสนุนก็ต้องเอาให้สุด[img]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img]เคลือบอุปกรณ์ทุกอย่าง[p]ส่วนสกิล [b]Slim Potion Pitcher[/b] เป็นสกิลที่ใช้ขว้างยาเพิ่ม [b]HP[/b] ซึ่งจะมีผลเป็นกลุ่ม แถมยังเพิ่ม [b]HP[/b] ได้มากกว่าประสิทธิภาพของยาปกติด้วย แต่ในกิลด์วอร์คงไม่มีใครมานั่งใช้ [b]Red Potion[/b] หรือ [b]Yellow Potion[/b] กัน จึงต้องอัพสกิลถึงเลเวล 10 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปา [b]White Potion เป็น 200%[/b] นอกจากนี้สิ่งที่ควรต้องรู้ไว้ก็คือความแรงของยาซึ่งจะขึ้นอยู่กับสกิลเลเวลของ [b]Slim Potion Pitcher[/b] และ [b]Learning Potion[/b] แล้วยังขึ้นกับค่า [b]VIT[/b] ของเป้าหมายด้วย ยิ่งเป้าหมายมีค่า [b]VIT[/b] สูงประสิทธิภาพในการขว้างยาก็สูงขึ้นตามไปด้วย[img]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img]ขว้าง Slim Potion[p]เมื่อรู้ปลายทางของสกิลแล้วคราวนี้ก็ย้อนมาดูว่าทางผ่านที่ต้องอัพมีอะไรบ้าง [b]Learning Potion [/b]แน่นอนว่าต้องเอาให้เต็ม 10 อยู่แล้วเพื่อความแรงของยาเวลาใช้ขว้างเพื่อเพิ่ม [b]HP[/b] ให้กับเพื่อน [b]Pharmacy[/b] เอาแค่เป็นทางผ่านไปยังสกิล [b]Potion Pitcher[/b] ดังนั้นให้อัพไปแค่เลเวล 3 พอครับ ส่วน [b]Potion Pitcher[/b] ต้องเอาให้เต็มเลเวล 5 เพื่อเป็นทางผ่านไปยังสกิลต่อไปคือ [b]Slim Potion Pitcher[/b] ซึ่งเป็นสกิลที่สำคัญมากๆ ของสายนี้ต้องเอาเต็ม 10 แน่นอน[p]ส่วนสกิลตระกูลเคลือบอุปกรณ์ก็อัพเต็มให้หมดเพื่อเป็นทางผ่านจนได้สกิล [b]Full Chemical Protection[/b] เพื่อใช้เคลือบทุกอย่างแบบเสร็จสรรพเต็มเลเวล 5 กินเวลานาน 600 วินาที เจ๋งไปเลยดังนั้นสกิลที่จำเป็นจะมีดังนี้ครับ[p][b]Learning Potion[/b] เลเวล 10[p][b]Pharmacy[/b] เลเวล 3[p][b]Potion Pitcher[/b] เลเวล 5[p][b]Slim Potion Pitcher[/b] เลเวล 10[p][b]Chemical Protection Helm[/b] เลเวล 5[p][b]Chemical Protection Shield[/b] เลเวล 5[p][b]Chemical Protection Armor[/b] เลเวล 5[p][b]Chemical Protection Weapon[/b] เลเวล 5[p][b]Full Chemical Protection[/b] เลเวล 5และเหลือสกิลพ้อยท์อีก 16 พ้อยท์[p]สกิลพ้อยท์ที่เหลืออีก 16 พ้อยท์นั้นจะเอาไปอัพอะไรก็ได้ แต่ไม่แนะนำให้อัพ [b]Pharmacy[/b] เพิ่มเพราะสกิล [b]Pharmacy[/b] เหมาะกับสายสร้างยาเท่านั้น ต่อให้เราอัพไปก็ไม่ได้ใช้สร้างยาอยู่ดีเพราะค่าสเตตัสเราจะเหมาะกับกิลด์วอร์มากกว่า หากใครไม่รู้จะอัพอะไรก็อาจจะอัพ [b]Sphere Min[/b]e ไว้ก็ได้ครับ เพราะในกิลด์วอร์จริงๆ แล้วสกิลนี้แหละที่จะใช้แบบประยุกต์ตามสถานการณ์ได้ ถึงแม้ว่าบางคนอาจจะมองว่ามันไร้ประโยชน์แต่มันขึ้นกับสถานการณ์และการเลือกใช้งานของแต่ละคนว่าจุดประสงค์ในการใช้นั้นเพื่ออะไร[p]อีกสกิลหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ เลยคือ[b] Bio Cannibalize[/b] ครับ ซึ่งใช้เรียกมอนสเตอร์ออกมาได้ หากจะเล่นสกิลนี้แนะนำให้อัพเพียงเลเวล 4 พอ เพราะที่เลเวล 4 จะสามารถเรียก [b]Parasite[/b] ออกมาได้จำนวน 5 ตัว[img]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img]เรียก Parasite [p]เจ้า [b]Parasite[/b] นี่แหละครับทีเด็ด เพราะถึงแม้มันจะโจมตีไม่แรง แต่การโจมตีของมันเป็นระยะไกลแถมยังทำให้ฝ่ายตรงข้ามเคลื่อนที่ได้ไม่สะดวกเพราะมันแต่สะดุด แต่ถ้าจะอัพ [b]Bio Cannibalize[/b] จะต้องเสีย 7 สกิลพ้อยท์ เพราะต้องอัพ [b]Pharmacy[/b] เพิ่มเป็นเลเวล 6 ก่อนแล้วจึงสามารถอัพ[b] Bio Cannibalize[/b] อีก 4 เลเวลได้ แต่ก็ไม่ต้องกลัวครับเพราะสกิลพ้อยท์เหลือเยอะอยู่แล้ว[p]สำหรับเทคนิคของสายนี้คงไม่มีอะไรมาก เพราะยังไงก็เป็นการเล่นแบบสนับสนุนเพื่อนในกิลด์อยู่แล้ว คอยขว้างยาให้และเคลือบตัวอยู่ตลอด หรือใครอัพ [b]Sphere Mine[/b] และ [b]Bio Cannibalize[/b] มาอันนี้ก็คงต้องแล้วแต่การใช้ความคิดและออกแบบการใช้งานในแต่ละสถานที่และสถานการณ์[b][color=blue]สเตตัสของสายสนับสนุน[/color][/b][p]หากดูจากสกิลทั้งหมดที่จำเป็นแล้วพูดได้เลยว่าสายนี้ไม่มีสกิลใดเลยที่ความแรงหรือประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับค่าสเตตัสของผู้ใช้ แม้กระทั่งสกิลขว้างยาอย่าง [b]Slim Potion Pitcher[/b] ก็ยังไปขึ้นกับค่าสเตตัสของเป้าหมายแต่ไม่เกี่ยวกับสเตตัสของผู้ใช้เลบยสักนิด ดังนั้นอาจบอกได้ว่าสายนี้สามารถอัพสเตตัสได้ค่อนข้างอิสระมากๆ เลยครับ[img]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img]ขว้างยาเป็นหมู่[p]ถึงแม้ว่าจะอัพสเตตัสยังไงก็ได้ แต่มันก็พอมีแนวทางอยู่บ้าง ไม่เช่นนั้นคงจะกลายเป็นหน่วยสนับสนุนในกิลด์วอร์ได้ไม่ดีแน่ๆ ค่าสเตตัสที่จำเป็นในกิลด์วอร์ของสายนี้มี 3 อย่างด้วยกันครับ ดังนี้[p][b]VIT[/b] – จำเป็นอย่างมากในกิลด์วอร์ เพราะเป็นที่รู้กันถึงความรุนแรงและความโหดร้ายของมนุษยชนในสงครามว่ามันมากมายแค่ไหน สกิลแต่ละสกิลที่ถูกใช้ออกมา หากคุณมีค่า [b]VIT[/b] น้อยนั่นหมายความว่า [b]HP[/b] คุณน้อย เมื่อ [b]HP[/b] น้อยก็มีโอกาสตายได้ง่ายกว่าคนอื่น ดังนั้นอัพ [b]VIT[/b] เข้าไว้ครับ ซึ่งผมแนะนำว่าอัพให้ [b]HP[/b] ถึงหมื่นน่าจะดี ในกิลด์วอร์ถ้าเป็นไฮคลาสแล้วเลือดไม่ถึงหมื่นนี่ดูยังไงๆ ชอบกล[p][b]DEX[/b] – ค่า [b]DEX[/b] ดูจะเป็นอย่างเดียวที่น่าอัพมากที่สุดสำหรับสายนี้ เพราะว่าส่งผลต่อความเร็วในการร่ายสกิล ถึงแม้ว่าสกิลที่เราใช้จะเป็นพวกสนับสนุนก็ยังคงต้องการความรวดเร็วอยู่ อย่าลืมว่าในกิลด์วอร์การใช้สกิลเร็วๆ ทำอะไรเร็วๆ ย่อมได้เปรียบกว่า[img]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img]ร่ายเร็วย่อมได้เปรียบ[p][b]INT[/b] – อันนี้เป็นทางเลือกครับ จุดประสงค์ที่อัพ [b]INT[/b] เพื่อเอา [b]SP[/b] ให้เยอะขึ้นจะได้ขว้างยาให้เพื่อนได้หลายๆ ครั้ง ก็แค่นั้นไม่มีอะไรอื่นเลยจริงๆ = =” เพราะฉะนั้นไม่ต้องอัพเยอะก็ได้ครับ[p][b]Biochemist[/b] สายสนับสนุนมีให้เห็นน้อยมากๆ ครับ นั่นก็เพราะว่าสกิลยังไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ และอีกสายหนึ่งก็น่าเล่นกว่ามากๆ เลยล่ะ มีประโยชน์ในกิลด์วอร์กว่าสายนี้เยอะเลย[b][color=blue]สกิลของสายปากรดไฟ[/color][/b][p]ในเมื่อเราเรียกกันว่าสายปากรดไฟแล้ว สกิลที่จำเป็นถึงขั้นขาดไม่ได้เด็ดขาดก็ต้องเป็นสกิล [b]Acid Demonstration[/b] ซึ่งมีผลทำให้อาวุธและเกราะของเป้าหมายเสียหาย โดยมีโอกาสสำเร็จ 10% ที่เลเวล 10 นอกจากนี้ยังไม่คิด [b]DEF[/b] ของเป้าหมายจึงสามารถสร้างความเสียหายได้รุนแรงมากๆ เช่นกัน (ถึงเรียกปุ๊ระเบิดขวดไง) ดังนั้นแน่นอนว่า[b] Acid Demonstration[/b] ต้องเต็ม 10 ไว้ก่อน สิ่งที่ควรรู้ไว้เกี่ยวกับ [b]Acid Demonstration[/b] คือมันเป็นการโจมตีธาตุไฟเสมอ แม้จะถืออาวุธธาตุอื่นก็ไม่ทำให้การโจมตีด้วย [b]Acid Demonstration[/b] เปลี่ยนธาตุแต่อย่างใด ดังนั้นหากเป้าหมายใส่การ์ด [b]Jakk[/b] ก็จะลดความเสียหายลงได้[img=46174]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img] Acid Demonstration[p]นอกจากสกิล [b]Acid Demonstration[/b] แล้ว เพื่อให้การก่อกวนเราถึงที่สุดจึงไม่อาจพลาดสกิลเด็ดๆ อย่าง [b]Bio Cannibalize[/b] ได้ เหมือนเดิมครับ อัพไว้ที่เลเวล 4 พอเพื่อเรียก [b]Parasite[/b] ออกมาคอยก่อกวนให้ฝ่ายตรงข้ามเพลิดเพลิน *0*[p]ความจริงแล้วสกิลที่สำคัญของสายนี้จะมีเพียงเท่านี้ แต่ว่าในเมื่อสกิลพ้อยท์เราเหลือเยอะมากๆ จึงเอาไปอัพสกิลอื่นที่เป็นประโยชน์ในกิลด์วอร์ได้อีกครับ ผมเลยแนะนำว่าให้อัพ[b] Full Chemical Protection[/b] เต็มเลเวล 5 ไปด้วยเลยเพื่อการกิลด์วอร์แบบครบสูตร[p]ถึงกระนั้นก็ยังมีสกิลเหลืออีก ซึ่งคราวนี้แล้วแต่ล่ะครับ ว่าใครจะเอาไปอะไร แต่ที่น่าสนใจมีอยู่ไม่กี่สกิล คืออัพ [b]Learning Potion[/b] เพิ่มหรือจะเอาไปอัพ [b]Sphere Mine[/b] ให้เต็มก็ได้[p]สำหรับผมแล้วอยากจะแนะนำให้อัพ [b]Learning Potion[/b] ต่อจากเดิมให้เต็มไปเลย เพื่อเหตุผลในการปั๊มยา สกิล [b]Learning Potion[/b] จะมีผลต่อประสิทธิภาพยาที่เราใช้ หมายความว่าการปั๊มยา 1 ขวดของเราจะเพิ่ม [b]HP[/b] มากกว่าเดิม ดังนั้นจึงน่าเอาสกิลที่เหลือมาลง และจะเหลือสกิลอีกนิดหน่อย สรุปสกิลทั้งหมดที่แนะนำจะเป็นดังนี้ครับ[img]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img]Learning Potion มีผลต่อการปั๊มยาเองและขว้างยา[p][b]Learning Potion[/b] เลเวล 10[p] [b]Pharmacy[/b] เลเวล 6[p] [b]Demonstration[/b] เลเวล 5[p] [b]Acid Terror[/b] เลเวล 5[p] [b]Acid Demonstration[/b] เลเวล 10[p] [b]Bio Cannibalize[/b] เลเวล 4[p] [b]Chemical Protection Helm[/b] เลเวล 5[p] [b]Chemical Protection Shield[/b] เลเวล 5[p] [b]Chemical Protection Armor[/b] เลเวล 5[p] [b]Chemical Protection Weapon[/b] เลเวล 5[p] [b]Full Chemical Protection[/b] เลเวล 5และเหลือสกิลพ้อยท์อีก 4 พ้อยท์[img]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img]ก่อกวน + ปาขวด ฮ่าๆ[p]การอัพสกิลแบบนี้จะเป็นการทำให้ [b]Biochemist[/b] ของเรากลายเป็นสายกิลด์วอร์เต็มรูปแบบครับ สาเหตุที่สายนี้น่าเล่นกว่าสายสนับสนุนและคนนิยมเล่นเยอะกว่าก็เพราะว่ามันค่อนข้างครบสูตรในตัวเดียว เพียงแต่ว่าจะขาดสกิล [b]Slim Potion Pitcher[/b] ที่ช่วยเพิ่ม [b]HP[/b] ให้เพื่อนไปเท่านั้น แต่ในกิลด์วอร์สกิล [b]Slim Potion Pitcher[/b] ก็ไม่ค่อยจำเป็นสำหรับหลายๆ คน เพราะทุกคนก็ต้องพก [b]White Potion[/b] เข้าไปกันอยู่แล้ว และการปั๊มเองก็เร็วกกว่าหลายเท่า[b][color=blue]สเตตัสของสายปากรดไฟ[/color][/b][p]ค่าสเตตัสที่สำคัญของสายนี้มี 3 อย่าง ดังนี้[p][b]VIT[/b] – แน่นอนครับ ถ้าอยากอึด อยากอยู่ทนนานในกิลด์วอ ก็ต้องอัพ [b]VIT[/b] กันหน่อย สำหรับค่า [b]VIT[/b] นี้แนะนำให้อัพให้ [b]HP[/b] ถึงหมื่นเอาไว้[p][b]DEX[/b] – ไว้ลดเวลาในการร่ายให้สั้นลง เพราะการที่เราจะใช้สกิล [b]Acid Demonstration[/b] ได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่โดนยกเลิกการร่ายเอาง่ายๆ นั้นต้องพึ่งค่า [b]DEX[/b] เป็นอย่างมาก เพื่อให้ร่ายเร็ว จนบางคนอัพถึงขั้น “ไร้หลอด” ซึ่งความจริงแล้วต่อให้อัพ [b]DEX[/b] เยอะๆ จนถึงข้นไม่มีหลอดร่ายเวทย์คือเร็วจัดๆ แต่ก็ยังถูกยกเลิกเวทย์ได้อยู่ดี แต่ถึงกระนั้นก็ยังเป็นการยากที่จะถูกยกเลิกได้เพราะใครจะไปกดทันล่ะ จริงมะ[p]ดังนั้นควรอัพ [b]DEX[/b] ไว้ให้มากๆ แนะนำว่า [b]DEX[/b] รวมทั้งหมดน่าจะประมาณ 90 – 110 กำลังดี เพราะสเตตัสที่เหลือยังต้องไปลงที่ค่าสเตตัสอีกอันหนึ่งจำนวนมาก[p][b]INT[/b] – อัพให้สุดๆ ไปเลย เพราะว่าสกิลที่ใช้เผด็จศึกของเราคือ Acid Demonstration ซึ่งมีสูตรคำนวณความเสียหายดังนี้[p][b]Acid Demonstration Damage = Skill Level x 0.5 x (1 – A) x (1 – B) x 0.6 x [C x 0.7 x INT x INT x (VIT / (INT + VIT))] [/b] [p][b]A[/b] = ตัวแปรที่ลดค่าความเสียหาย เช่น ถ้าเป้าหมายใส่โล่กบแดง [b]A[/b] จะเป็น 0.3 ถ้าใส่ [b]Poo Poo Hat A[/b] ก็จะเป็น 0.1 (คิดรวมกันทั้งหมด คือถ้าใส่ 2 อย่างก็เป็น [b]A[/b] = 0.3 + 0.1 = 0.4)[p][b]B[/b] = ตัวแปรที่ลดค่าความเสียหายจากธาตุ เช่น เป้าหมายใส่การ์ด [b]Jakk[/b] ซึ่งมีความสามารถป้องกันการโจมตีธาตุไฟ 30% ค่า [b]B[/b] จะเป็น 0.3 เป็นต้น[p][b]C[/b] = ผลของ [b]Lex Aeterna[/b] คือถ้าเป้าหมายโดน [b]Lex Aeterna[/b] [b]C[/b] จะเท่ากับ 2 ถ้าเป้าหมายเป็นปกติ [b]C[/b] เป็น 1[p][b]INT[/b] = ค่า [b]INT[/b] ของผู้ใช้สกิล[p][b]VIT[/b] = ค่า [b]VIT[/b] ของเป้าหมาย[p]จากสูตรจะเห็นว่าค่าที่มีผลต่อความรุนแรงของสกิลนี้คือ [b]INT[/b] ของผู้ใช้และ [b]VIT[/b] ของเป้าหมาย ซึ่งสูตรนี้จะใช้คำนวณเฉพาะในกิลด์วอร์เท่านั้น นั่นหมายความว่าหากเราเน้น [b]INT[/b] มากๆ ก็จะทำให้สกิลแรงขึ้น และยิ่งถ้าใช้กับเป้าหมายประเภทถึกๆ [b]VIT[/b] เยอะๆ รับรองความรุนแรงไม่ต้องพูดถึง เพราะสกิลนี้จะไม่คิด [b]DE[/b]F และ [b]M. DEF[/b] ของเป้าหมายด้วย ดังนั้นแนะนำว่าควรอัพ [b]INT[/b] ให้ถึง 99 เพื่อความแรงในการปากรดไฟแบบโหดๆ และใส่ไอเทมเพิ่ม [b]INT[/b] รวมทั้งการ์ดต่างๆ ให้มากที่สุด[p]ลองคำนวณง่ายๆ ถ้าเรามี [b]INT[/b] รวมประมาณ 120 หน่วย ปาใส่อาชีพ [b]Lord Knight[/b] ที่มี [b]VIT[/b] รวมประมาณ 100 และใส่หมวก [b]Poo Poo Ha[/b]t, โล่ใส่การ์ด [b]Thara Frog[/b] และมีการ์ด[b] Raydric[/b] ด้วย หากไม่โดน [b]Lex Aeterna[/b] แล้วเข้าสูตรคำนวณเสร็จสรรพจะได้[p][b]Acid Demonstration Damage[/b] = 10 x 0.5 x (1 – 0.4) x (1 -0.3) x 0.6 x [1 x 0.7 x 120 x 120 x (100 / (120 + 100))] = 5,715.36 หรือประมาณ 5,700 กว่าๆ ปาใส่สัก 3 – 4 ทีก็คงนอนตายตาหลับแล้ว[p]สรุปแล้วค่าสเตตัสของสายนี้จะเน้น [b]INT[/b] นำเป็นอันดับแรก ตามด้วย [b]DEX[/b] ซึ่งรวมแล้วควรจะอยู่ที่ประมาณ 90-110 หรือใครจะเอามากกว่านี้ก็ไม่ผิด สุดท้ายคือ [b]VIT[/b] ซึ่งแนะนำว่ารวมแล้วควรจะประมาณ 60-70 ซึ่งจะทำให้มีค่า [b]HP[/b] เพียงพอในกิลด์วอร์ครับ[b][color=blue]แล้วถ้าเป็นแค่ Alchemist ล่ะ…[/color][/b][p]เมื่อมีคำถามนี้ผุดขึ้นมาในสมองตารางสกิลก็พลันปรากฏขึ้นในหัวทันทีเลยครับ สกิลที่จำใจต้องพรากจากมันไปก็คือ [b]Acid Demonstration[/b] เพราะไม่มีให้ใช้ จะเหลือสกิลในเทือกเดียวกันก็เพียงแค่[b] Acid Terror[/b] และ[b] Demonstration[/b] แต่ก็ใช้งานได้ไม่ดีเท่า [b]Acid Demonstration[/b] เนื่องจากต้องใช้ทั้ง 2 สกิลจึงจะทำลายครบทั้งอาวุธและชุดเกราะ ส่วนความรุนแรงก็น้อยกว่า แต่ก็ยังดียังพอป่วนในกิลด์วอร์ได้อยู่[img]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img]ต้องมาใช้สกิล Demonstration แทน T^T[p]สำหรับสกิลอื่นๆ นั้นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในการกิลด์วอร์ก็คือพวกเคลือบทั้งหลาย ซึ่งถ้าใครไม่อยากอัพเต็มหมดเพราะกลัวเปลืองสกิลพ้อยท์ก็เลือกอัพเฉพาะส่วนที่เค้านิยมทำลายกันบ่อยๆ อย่างพวกอาวุธ ชุดเกราะ อะไรแบบนี้ ส่วนอันอื่นถ้าไม่อยากอัพก็เอาไว้พอเป็นแค่ทางผ่าน[p]แต่ถ้าใครอยากจะเป็นสายกิลด์วอร์สมบูรณ์แบบแนะนำให้อัพเต็มให้หมดครับ เพราะมีประโยชน์มากจริงๆ แต่ก็อย่างที่บอกถ้าอัพหมดจะทำให้สกิลพ้อยท์เหลือไม่มาก อย่าลืมว่าต้องอัพ [b]Bio Cannibalize[/b] ไว้ที่เลเวล 4 ด้วย พลาดไม่ได้เลยจริงๆ สกิลนี้[p]เมื่ออัพตามนี้จะเหลือเพียง 4 สกิลพ้อยท์เท่านั้น ผมแนะนำให้อัพ [b]Learning Potion[/b] เพื่อใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการกดยาเพิ่ม [b]HP[/b] แต่จะได้เพียงเลเวล 9 เท่านั้น[p]หรือบางคนอาจจะต้องการความแปลกใหม่หันไปอัพสาย [b]Homunculus[/b] มาใช้ในกิลด์วอร์ก็พอจะมีให้เห็นกันบ้าง พวก [b]Homunculus[/b] จริงๆ แล้วก็เก่งพอตัว แต่หากจะอัพสาย[b] Homunculus[/b] คงต้องยอมเสียสกิลบางสกิลไป[p]บทบาทของ [b]Alchemist[/b] ในกิลด์วอร์จะต่างจาก [b]Biochemist[/b] พอสมควรครับ เพราะความสามารถในการฆ่าพวกอาชีพที่อึดๆ ได้หายไปแล้ว สกิลที่มีก็ไม่แรงเหมือนตอนเป็น [b]Biochemist[/b]ดังนั้นจึงกลายเป็นตัวเสริมมากกว่า แต่ไม่ใช่สนับสนับนะครับ จะออกแนวเป็นตัวเสริมต่างๆ คอยปาขวดให้อาวุธหรือเกราะชาวบ้านแตก หรือก่อกวนด้วย [b]Parasite[/b] ซึ่งบางทีก็ช่วยฆ่าอาชีพอื่นได้เช่นกันแม้ความเสียหายจะไม่แรงเท่าเดิมก็ตาม [p]สุดท้ายผมอยากจะพูดถึงสกิล [b]Sphere Mine[/b] สักหน่อย เพราะใช้ได้ทั้งตอนเป็น [b]Alchemist[/b] และ [b]Biochemist[/b] ความจริงแล้วสกิลนี้มีความดีอยู่ครับ แต่ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้งานของแต่ละคน ซึ่งมันใช้ได้หลากหลายมากๆ ผมจะยกตัวอย่างที่เคยเจอมาในงานแข่งขันระดับใหญ่แล้วกัน[img=46179]//online-station.net/wp-content/uploads/2020/03/default-image.jpg[/img] Sphere Mine ก็มีประโยชน์นะ[p]เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่กำลังสู้กันได้ที่เลย แต่ละคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง แน่นอนครับฝ่ายตรงข้ามมี [b]Paladin[/b] ใช้ [b]Devotion[/b] ให้เพื่อนอีก 5 คน ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งมี [b]Biochemist[/b] ใช้ [b]Sphere Mine[/b] ปล่อยไว้หลายจุด หลายคนมักมองข้าม และก็เป็นอย่างที่คิดครับ ฝ่ายตรงข้ามโดน [b]Sphere Mine[/b] เพราะด้วยความที่คิดว่ามี [b]Paladin Devotion[/b] อยู่ไม่น่าจะเป็นอะไร แต่ลองคิดดูว่า [b]Devotion[/b] 5 คน โดน [b]Sphere Mine[/b] ทั้ง 5 คน [b]Paladin[/b] ถึงกับนอนเลย สกิล [b]Sphere Mine[/b] นั้นจะไม่คิด [b]DEF[/b] ซะด้วยโดนกันไปเต็มๆ [p]นอกจากนี้ยังสามารถใช้พลิกแพลงกับสถานการณ์อื่นๆ ได้อีกเยอะเลยโดยเฉพาะในการป้องกันบ้านของเราเอง เอาเป็นว่า [b]Biochemist[/b] เป็นอาชีพที่น่าเล่นมากๆ อีกอาชีพหนึ่งเลยจริงๆ ครับ

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้