Two Point Museum เกมแนว Simulation ภาคใหม่จากแฟรนไชส์ Two Point ที่กำลังจะวางจำหน่ายให้ได้เล่นกันในไม่กี่อึดใจนับจากนี้ โดยหลังจากแฟรนไชส์ Two Point เปิดตัวได้สวยงามกับภาคแรกอย่าง Hospital ซึ่งเป็นเกมสร้างและบริหารจัดการโรงพยาบาลแล้ว พวกเขาก็ต่อยอดความสำเร็จด้วยเกมภาคถัดมาแนวมหาวิทยาลัยอย่าง Campus และล่าสุดในปีนี้กับ Museum ที่ตัวเกมจะพาเราไปสร้างและบริหารอาณาจักรแห่งพิพิธภัณฑ์ให้กลายเป็นระดับชั้นนำของโลกให้จงได้
สร้างอาณาจักรพิพิธภัณฑ์ให้ยิ่งใหญ่
ใน Two Point Museum ผู้เล่นจะได้รับมอบหมายให้จัดการกับพิพิธภัณฑ์ที่กระจายตัวอยู่ทั่วทุกมุมโลก โดยมีทั้งสถานที่ที่ต้องการการฟื้นฟู และสถานที่ที่จำเป็นต้องสร้างขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ต้น ความพิเศษของแต่ละที่คือจะมีธีมหลักของตัวเองแตกต่างกันไป มีทั้งพิพิธภันฑ์ก่อนประวัติศาสตร์, พิพิธภันฑ์สัตว์น้ำ, พิพิธภันฑ์สิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ, พิพิธภันฑ์สิ่งประดิษฐ์จากโลกเก่า รวมไปถึงพิพิธภันฑ์อวกาศ เหล่านี้จะมีวิธีดูแลรักษา ลูกเล่น และการสร้างความนิยมแบบเฉพาะตัว ทำให้ตัวเกมมีคอนเทนต์ที่ลึกขึ้นจนน่าตกใจ แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเล่นยากไป เพราะผู้เล่นสามารถเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับการเล่นโหมดเนื้อเรื่องได้เลย เนื่องจากตัวเกมจะสอนไปเรื่อยๆ ในทุกๆ ครั้งที่มีระบบเปิดใหม่ ไม่ว่าจะเคยมีประสบการณ์หรือไม่ ผู้เล่นจะกลายเป็นมือเก๋าได้แน่นอน และจะบอกอะไรให้อย่าง ถ้าพรุ่งนี้มีงานหรือมีเรียนเช้าก็อย่ากดเข้าเกม เพราะมันคืออีกเกมที่มันทำให้ติดพันจนลืมวันลืมคืนได้ไม่ยากเลย
อควาเรี่ยมที่ต้องฟื้นฟู
1 ในพิพิธภันฑ์ที่ผู้เล่นจะได้พบเจอในโหมดแคมเปญก็คือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหรืออควาเรี่ยมนั่นเอง โดยเกมจะปลดล็อคให้เล่นหลังจากผู้เล่นสามารถทำให้พิพิธภัณฑ์ก่อนประวัติศาสตร์กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ระดับ 1 ดาวได้เรียบร้อย ดังนั้นแล้วในตอนที่ผู้เล่นได้แตะพิพิธภัณฑ์นี้ก็จะมีความรู้พื้นฐานในการเล่นมาพอสมควร แต่นั่นก็ไม่ใช่ว่าผู้เล่นจะสามารถจัดการกับมันได้โดยสะดวก เพราะก็อย่างที่บอกครับ เกมนี้คอนเทนต์ลึกกว่าที่คิด และอวาเรี่ยมแห่งนี้ก็มีการจัดการในแบบของมัน
อารยธรรมและสัตว์ใต้น้ำ
ใน Two Point Museum การหาของมาลงในพิพิธภัณฑ์นั้นมีอยู่ไม่กี่วิธี แต่วิธีที่น่าจะได้ใช้กันบ่อยที่สุดก็คือการส่งคณะสำรวจลงพื้นที่จริงเพื่อหาไอเทมต่างๆ ครับ โดยการสำรวจแต่ละครั้งแต่ละพื้นที่ก็จะมีเงื่อนไขที่ต้องการแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะคลาสของพนักงาน ไอเทมที่จำเป็น เงินที่ต้องจ่าย หรือแม้กระทั่งอีเวนต์แบบสุ่มที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา บางครั้งรุนแรงถึงขั้นว่าคนที่ส่งไปสูญหายกลางทางก็มี ดังนั้นจำเป็นต้องเลือกคนและเตรียมความพร้อมให้ดีครับ
สำหรับอวาเรี่ยมผู้เล่นจะต้องไปสำรวจพื้นที่ใต้ทะเลเป็นหลัก ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญประจำพิพิธภันฑ์ที่ต้องพิจารณาในการจ้างเป็นหลักก็คือ “Marine Professor” ครับ โดยอาจมีสกิลสายสำรวจหรือเอาตัวรอดติดมาด้วยสักหน่อยเพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้สิ่งที่มักจะได้เอามาโชว์ในพิพิธภันฑ์ก็จะเป็นพวกพันธุ์ปลาหายาก หรือถ้าหากไปเจออารยธรรมที่จมน้ำอย่าง “Wetlantis” ก็นำมาโชว์ได้เช่นกัน ทำให้ผู้เล่นอาจต้องพิจารณาจ้าง “Prehistory Professor” เข้ามาช่วยดูแลบำรุงรักษาเพิ่ม
อย่างไรก็ตามเมื่อสำรวจลึกขึ้นก็จะเจอพื้นที่บางจุดซึ่งต้องการผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม เช่น พืชใต้น้ำ ก็อาจต้องการ “Botany Professor” มาช่วยสำรวจ หรือเจอพื้่นที่อาถรรพ์สมบัติโจรสลัด ก็จะต้องมี “Supernatural Professor” มาช่วยดูแลเช่นกัน จะเห็นได้ว่ายิ่งเล่นไปเรื่อยๆ คอนเทนต์ก็เริ่มจะลึกขึ้น และแม้แต่ละพิพิธภัณฑ์จะมีธีมหลักของตัวเอง แต่ไอเทมบางชิ้นก็มีความคาบเกี่ยวกันอยากหลีกเลี่ยงไม่ได้ และผู้เล่นจะต้องจัดการกับความแตกต่างรวมถึงคอยดูแลรักษาของที่โชว์นั้นอย่างถูกต้องครับ



พนักงานพิพิธภัณฑ์ ฟันเฟืองสำคัญสู่การจัดการที่ราบรื่น
แต่แน่นอนว่าแม้จะเป็นคนกุมบังเหียนก็ยังไม่อาจดูแลพิพิธภันฑ์ได้ทุกภาคส่วน ผู้เล่นจึงต้องจ้างพนักงานมาดูแลในแต่ละส่วนครับ โดนใน Two Point Museum นั้นจะมีไทป์ของพนักงานอยู่ 4 แบบด้วยกันคือ
- Professor – ผู้เชี่ยวชาญองค์ความรู้ในด้านต่างๆ มีหน้าที่ในการถูกส่งไปออกสำรวจ, ดูแลรักษาไอเทมและสิ่งมีชีวิตที่ถูกโชว์ในพิพิธภันฑ์, วิจัยไอเทมจากการสำรวจเพื่อเพิ่มองค์ความรู้ ฯลฯ
- Associate – พนักงานทั่วไป ดูแลเรื่องการจำหน่ายตั๋ว, ขายกาแฟ, ขายอาหาร, ขายของที่ระสึก, ทำแคมเปญประชาสัมพันธ์
- Janitor – ผู้ดูแลทั่วไป จัดการเรื่องทำความสะอาดของสถานที่, เอาขยะไปทิ้ง, ดับไฟ, บำรุงรักษาอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ รวมไปถึงสร้างโปรเจ็กต์ต่างๆ
- Security – รักษาความปลอดภัย, เฝ้าระวังขโมย, คอยเก็บรวบรวมเงินบริจาคตามจุดต่างๆ ฯลฯ
ทั้งนี้พนักงานทั้ง 4 คลาสก็จะมีชุดสกิลและอุปนิสัยทั้งด้านบวกและลบแตกต่างกันออกไป ก่อนจ้างก็ต้องพยายามดูให้ดีครับ ถึงอย่างนั้นก็ต้องจ้างให้เพียงพอเพื่อการบริหารงานทั้งองคาภยพอันราบรื่น ไม่ควรมีคนน้อยเกินไปเพราะจะส่งผลกับความนิยมหรือเรตติ้งของพิพิธภัณฑ์ได้ แต่ก็ไม่ควรเยอะเกินไปเช่นกัน เพราะผู้เล่นต้องจ่ายเงินเดือนให้พนักงานในทุกๆ เดือนที่เกมดำเนินไปครับ ดังนั้นก็จ้างแต่พอดี และอย่าลืมหมั่นดูความพึงพอใจด้านรายได้และสวัสดิการพนักงานด้วย เพราะเมื่อไหร่ที่เขาไม่มีความสุขขึ้นมา คุณอาจจะเสียพนักงานคนเก่งเลเวลสูงเพราะเขาตัดสินใจลาออกก็ได้ครับ
ทำพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำให้ปัง
มีของดีแต่จัดวางไม่ปังก็อาจจะพังไม่เป็นท่า แน่นอนว่าการจัดวางของพิพิธภันฑ์ก็มีความสำคัญ ในกรณีของอควาเรี่ยมนั้นจะมีเงื่อนไขเพิ่มเข้ามามากกว่าพิพิธภัณฑ์ยุคก่อนประวัติศาสตร์นั่นก็คือการต้องสร้างแทงก์น้ำให้ปลาหรือสัตว์น้ำที่ไปหามาครับ ซึ่งมันจะกินพื้นที่พิพิธภัณฑ์มากยิ่งกว่า โดยเรามีข้อแนะนำเบื้องต้นในการสร้างอควาเรี่ยมมาฝากกัน
- สร้างแทงก์ให้ใหญ่เพียงพอ เพราะขนาดของแทงก์มีผลกับปริมาณสัตว์น้ำที่นำมาบรรจุได้
- วางถังบริจาคให้ทั่วถึง ควรให้เห็นได้ง่าย เพิ่มอัตราการควักกระเป๋าตังค์ของผู้ชม ถ้าวางในที่อับสายตาเกินไป พวกเขาจะมองไม่เห็นหรือไม่อยากบริจาค
- แบ่งประเภทให้ชัดเจน เพราะเกมจะมีทั้งสัตว์น้ำที่ถูกกับน้ำเย็นและน้ำอุ่น พวกมันไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ ทั้งยังมีสัตว์น้ำที่ดุร้ายกับศัตว์น้ำที่ไม่มีพิษภัย ซึ่งก็อยู่ด้วยกันไม่ได้อีก ดังนั้นควรอ่านเงื่อนไขสัตว์น้ำเหล่านั้นให้ดีก่อนโยนพวกพี่แกลงแทงก์
- ตกแต่งตามความเหมาะสม ของตกแต่งแท็งก์จะช่วยเพิ่มค่า Buzz ให้กับผู้ชมได้ ซึ่งค่า Buzz นี่แหละคือมาตรวัดความพึงใจของผู้ชม ควรตกแต่งพื้นที่ให้ค่า Buzz ของสัตว์น้ำชนิดนั้นๆ จนเต็ม แต่ก็ต้องดูให้ดีเช่นเคย เพราะสัตว์บางชนิด ก็ไม่ชอบการตกแต่งบางอย่าง ควรแยกจากกันให้ชัดเจนเพื่อผลประโยชน์สูงสุด และอย่าลืมติดป้ายบอกข้อมูลของสัตว์ชนิดต่างๆ อย่างทั่วถึงด้วยล่ะ
- เหลือพื้นที่ภายนอกไว้วางสิ่งปลูกสร้างโบราณจาก Wetlantis ทั้งนี้ในแผนที่ที่เราได้สร้างอวาเรี่ยมจะมีพื้นที่ภายนอกให้ค่อนข้างมาก และสิ่งปลูกสร้างจาก Wetlantis ก็มีขนาดใหญ่ในหลายๆ ชิ้นจนนำเข้าอาคารไม่ได้ ก็ต้องเหลือพื้นที่ไว้วางสิ่งเหล่านี้บ้างครับ
- อย่าทำพื้นที่ให้แออัดจนเกินไป แน่ล่ะว่าช่วยแรกๆ อาจต้องหาที่วางเท่าที่ทำได้ไปก่อน แต่หากขยับขยายพื้นที่ได้เมื่อไหร่ก็ควรทำ เพราะการจัดการพื้นที่ให้เหมาะสมจะช่วยเพิ่มเรตติ้งของพิพิธภัณฑ์และทำให้ผู้ชมเดินดูได้ทั่วถึงมากขึ้น นอกจากนี้การจัดพื้นที่เป็นโซนๆ ยังง่ายต่อการจัดการบำรุงรักษาหรือทำทัวร์ที่ได้เรตติ้งดาวสูงๆ เพราะยิ่งทัวร์ดาวสูงก็ยิ่งได้เงินเยอะมากขึ้นครับ
- เติมเครื่องเล่นไว้เอนเตอร์เทนผู้ชมและเด็กๆ นอกจากความรู้แล้วพิพิธภันฑ์ควรจะมีความสนุกด้วยเพื่อเรียกลูกค้าประเภทครอบครัวให้ได้มากขึ้น การเพิ่มค่าความสนุกให้กับสถานที่ด้วยเครื่องเล่นต่างๆ จึงมีความจำเป็นอย่างมากครับ
และนอกจากการจัดแสดงสัตว์น้ำให้โดดเด่นอย่างที่กล่าวไป พิพิธภัณฑ์ก็ควรมีบริการพื้นฐานที่กว้างขวางและทั่วถึงครับ ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำที่ถุูกสุขอนามัย, เครื่องกดอาหารและน้ำดื่ม ถ้ามีเงินหน่อยก็สร้าง โรงอาหารขึ้นมา แล้วก็อย่าลืมวางถังขยะให้ทั่วถึง นอกจากช่วยในด้านความสะอาดแล้ว เวลาสาธารณสุขลงตรวจเราจะได้เงินเป็นโบนัสหากสถานที่มีความสะอาดเพียงพอด้วยครับ






รู้พื้นฐานแล้วก็ไปลุยกันเลย!
อย่างที่บอกครับว่า Two Point Museum นั้นเป็นเกมที่มีคอนเทนต์กว้างและลึกพอสมควรเลย ที่กล่าวมาทั้งหมดก็แค่พิพิธภันฑ์รูปแบบเดียวเท่านั้น พิพิธภันฑ์รูปแบบอื่นๆ ก็จะมีการจัดการที่แตกต่างกันไปอีก เช่น พิพิธภันฑ์สิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ จะมีเรื่องการจัดการผีไม่ให้อาละวาด หรือ พิพิธภันฑ์อวกาศที่ในหลายๆ ครั้งเราต้องวางของให้ครบจำนวนเพื่อเปิดการใช้งาน Space Artifact ในบางชิ้นอีกต่างหาก
แม้กราฟิกจะดูเป็นมิตรแต่คอนเทนต์ของเกมก็ทั้งลึกและจัดเต็มคุ้มค่าสำหรับเกมเมอร์สายบริหารแน่นอนครับ เกมหนึ่งเล่นกันหลายชั่วโมงเลย และเมื่อผู้เล่นแตกฉานในโหมดแคมเปญแล้ว เกมยังมีโหมด Sandbox ให้สร้างพิพิธภัณฑ์ของคุณในแบบอิสระต่างหาก เป็นอีกเกมที่แนะนำของช่วงนี้จริงๆ ครับ สำหรับ Two Point Museum เล่นกันลืมวันลืมคืนแน่นอน!
Two Point Museum จะเปิดให้เล่นพร้อมกันวันที่ 5 มีนาคมนี้บนเครื่อง PlayStation 5, Xbox Series, PC และ Mac ครับ
สั่งซื้อเกม
『Two Point Museum』|SEGA
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station