จากการเปิดเผยโรดแมปครั้งล่าสุดของ Blizzard สำหรับ Overwatch 2 เราจะเห็นว่าตัวเกมจะเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงครั้งสำหรับเกิดขึ้นใน Season 15 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้อย่างการเพิ่มเข้ามาของระบบ Perks ที่จะให้ผู้เล่นได้เก็บ EXP ระหว่างแมตช์เพื่อนำไปเปลี่ยนแปลงความสามารถต่าง ๆ ของตัวละครในแมตช์นั้น ๆ ซึ่งนี่จะเป็นก้าวแรก ๆ ในแนวทางใหม่ของตัวเกมที่คุณ Aaron Keller ไดเรคเตอร์ของ Overwatch 2 กล่าวว่าทีมงานจะลดการปรับสมดุลลง แล้วเน้นตามใจผู้เล่นมากกว่าที่เคย
คุณ Aaron กล่าวว่า
“มันเหมือนว่าเราจะไม่คอยเอาแต่ปรับสมดุลแล้วก็ค่อยมาดูกันอีกทีว่าผลจะออกมาเป็นยังไงครับ เราต้องกลัวสิ่งที่เราปล่อยออกมาให้มากกว่านี้ในแง่ที่ว่ามันจะมีผลกระทบต่อตัวเกมยังไง แต่ก็แน่นอนว่ามันต้องตั้งอยู่บนความสมเหตุสมผลด้วยนะครับ”
นอกจากนี้ ตัวเกมก็จะมีโหมดใหม่อย่าง Stadium เพิ่มเข้ามาใน Season 16 ที่คาดว่าจะเริ่มในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจะเป็นโหมด 5v5 แบบแข่งกัน 7 ยก โดยที่แต่ละยกผู้เล่นจะได้เงินเป็นรางวัลตามผลงานเพื่อไปอัปเกรดความสามารถให้กับตัวละครของตนเอง และที่พิเศษก็คือโหมดนี้จะสามารถเล่นได้ทั้งแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่งและมุมมองบุคคลที่สาม
ไหนจะการกลับมาของ Loot Box รวมถึงระบบแบนฮีโร่อีก ซึ่งหากจะให้คาดเดาว่าทำให้ Blizzard ต้องพยายามเปลี่ยนแปลง Overwatch 2 กันขนาดนี้ คำตอบก็คงไม่พ้นการประสบความสำเร็จอย่างงดงามของ Marvel Rivals เกมแนวเดียวกันที่มาทีหลังแต่แย่งแสงไปจาก Overwatch 2 ไปได้ไม่น้อยเลย ซึ่งคุณ Aaron เองก็ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงคู่แข่งโดยไม่เอ่ยชื่อตรง ๆ ด้วยว่า
“ผมว่าตอนนี้ Overwatch ตกอยู่ในการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนครับ ถึงขนาดที่ว่ามีอีกเกมที่คล้ายเกมของเรามาก ๆ ด้วยเลยทีเดียว”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Overwatch 2 จะเปิดให้บริการบน Battle.net มาก่อนเป็นเวลานาน และ Blizzard ก็ไม่เคยเปิดเผยจำนวนผู้เล่นบนแพลตฟอร์มของตนเอง แต่หลังจากที่ตัวเกมถูกนำมาปล่อยบน Steam เราก็จะเห็นว่ามีผู้เล่น Overwatch 2 บนแพลตฟอร์มของ Valve พร้อมกันสูงสุดอยู่ที่ราว 75,000 คน และอยู่ที่ 33,000 คนใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในขณะที่ Marvel Rivals มียอดผู้เล่นพร้อมกันสูงสุดบน Steam อยู่ที่ราว 640,000 คน และ 300,000 คนใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
แปลและเรียบเรียงจาก
https://www.pcgamer.com
แปลโดย
อาร์ม @Pirawits
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station