หลังจากที่ EA ออกมายอมรับว่า Dragon Age: The Veilguard เป็นเกมที่ประสบความล้มเหลวในด้านยอดขาย แต่ทางซีอีโอของ EA คุณ Andrew Wilson กลับมองต่างจากหลาย ๆ คน โดยชี้ว่าล้มเหลวเพราะเปลี่ยนจากเกมออนไลน์ Live-Service มาเป็นเกมผู้เล่นคนเดียวกลางคัน ทั้ง ๆ ที่ผู้เล่นสมัยนี้อยากได้เกมออนไลน์ที่เล่นกับคนอื่น ๆ ได้ ทำให้แม้จะเป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักวิจารณ์ แต่กลับไม่ตอบโจทย์ของผู้เล่นหมู่มาก
วันนี้มีความคิดเห็นใหม่จากคุณ David Gaider ผู้สร้างเซ็ตติ้งเกม Dragon Age และผู้นำด้านการเขียนเรื่องที่เคยทำงานที่ BioWare ก่อนจะออกในปี 2016 และปัจจุบันทำงานอยู่ที่ Summerfall Studios โดยบอกว่า EA นั้นดูเหมือนจะถอดบทเรียนจากความล้มเหลวของ The Veilguard ไปแบบผิด ๆ!
คุณ Gaider ออกตัวก่อนว่ายังไม่ได้เล่น The Veilguard และฟังเอาความคิดเห็นจากผู้เล่นคนอื่น ๆ แต่เขามองว่าในบรรดาบทเรียนต่าง ๆ ที่ EA เรียนรู้ได้ การจะบอกว่าเกมนี้ล้มเหลวเพราะ “ควรจะเป็นเกมออนไลน์ตั้งแต่แรก” นั้นเป็นความคิดเห็นอันไร้ซึ่งวิสัยทัศน์ และเข้าข้างตัวเองอีกต่างหาก
คุณ Gaider มองว่า EA ควรเรียนรู้จาก Larian Studios ผู้พัฒนาเกม Baldur’s Gate 3 และทำในสิ่งที่ Dragon Age ทำได้ดีที่สุดนั่นก็คือประสบการณ์ความเป็นเกม RPG นั่นเอง แม้ว่า BG3 นั้นจะมีโหมดมัลติเพลเยอร์แบบ Co-Op ให้เล่นก็ตาม
ด้วยเหตุนี้เขาจึงอยากแนะนำ EA (แม้จะรู้ว่าคงไม่สนใจฟัง) ว่าถ้ามี IP เกมที่หลาย ๆ คนชื่นชอบมาก ๆ ให้ลองพิจารณาว่าตอนที่เกมขึ้นถึงจุดสูงสุดและขายได้ดีที่สุด หาว่าอะไรคือสิ่งที่เกมนั้นทำได้ดีที่สุด ทำตาม Larian แล้วไปให้สุด เพราะยังไงเสียก็ยังมีผู้เล่นที่รอเล่นเกมอยู่
นอกจากคุณ Gaider แล้วยังมี Mike Laidlaw อดีต Creative Director ของเกม Dragon Age ที่ปัจจุบันทำงานที่ Yellow Brick Games ก็วิจารณ์ความเห็นของ Andrew Wilson อย่างดุเดือด บอกว่าเขาลาออกแน่นอนถ้าถูกบังคับให้เปลี่ยนเกมผู้เล่นคนเดียวที่หลาย ๆ คนรักเป็นเกมออนไลน์มัลติเพลเยอร์ล้วน
“ฟังนะ ผมไม่ได้เป็นซีอีโอตำแหน่งอู้ฟู่อะไร แต่ถ้ามีคนบอกผมว่า ‘หนทางสู่ความสำเร็จของ IP เกมผู้เล่นคนเดียวคือการสร้างให้เป็นเกมมัลติเพลเยอร์ล้วน ๆ และไม่ใช่แม้แต่ภาคแยก แต่เป็นการแปลงทุกอณูของหัวใจเกมที่ผู้คนหลงรัก ผมคงจะลาออกจากงานนั้น ๆ” คุณ Laidlaw กล่าว ซึ่งเขาก็ได้ลาออกจริง ๆ ในช่วงปี 2017 ท่ามกลางปัญหามากมายในการพัฒนาเกม Dragon Age
นอกจากนี้คุณ Laidlaw ยังแซะด้วยว่า “ใครกันที่คิดอะไรเหลวไหลมากพอที่จะขออะไรแบบนั้น แถมขอตั้งสองครั้ง” ซึ่งก็คือ EA นั่นเอง ซึ่งสั่งให้ BioWare สร้างเกมออนไลน์อย่าง Anthem ที่เปิดตัวในปี 2019 ตามด้วย Dragon Age ที่เริ่มต้นในฐานะเกมออนไลน์ก่อนจะแปลงให้เป็น Dragon Age: The Veilguard ในภายหลัง
แปลและเรียบเรียงจาก
IGN
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station