แม้ว่าจะใช้เวลาสร้างมากกว่าสิบปี แต่ Dragon Age: Veilguard กลับไม่ประสบความสำเร็จตามที่ EA คาดหวังไว้ ขณะที่แฟน ๆ เองก็แสดงความผิดหวังในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงการเขียนบท เนื้อเรื่อง และเกมเพลย์ด้วย
ทว่าวันนี้ดูเหมือนว่าคุณ Andrew Wilson ซีอีโอของ EA นั้นจะมองต่างออกไป เพราะในการสัมภาษณ์กับสื่อ PC Gamer เขามองว่าเกมนี้ล้มเหลวเพราะว่าไม่ใช่มีองค์ประกอบของความเป็น Live-Service หรือเกมออนไลน์!
โดยคุณ Wilson มองว่า Dragon Age: Veilguad ล้มเหลวเพราะไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เล่นที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเขามองว่าสิ่งทีผู้เล่นต้องการนั้นคือโลกที่สามารถเล่นร่วมกับผู้เล่นคนอื่นและมีส่วนร่วมได้อย่างลึกซึ้งมากกว่า ควบคู่กับการบอกเล่าเรื่องราวที่มีคุณภาพ
ด้วยเหตุนี้แม้ว่า The Veilguard จะเปิดตัวได้อย่างสวยงามจนคะแนนรีวิวจากสื่อไปในทางที่ดี แต่กลับไม่ถูกใจผู้เล่นหมู่มากได้ดีพอในตลาดเกมที่มีการแข่งขันกันสูง (ซึ่งตรงนี้อาจจะขัดกับความคิดเห็นของเกมเมอร์จำนวนมากทีมักแสดงความไม่พอใจผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมถึงเคยถูกโหวตให้เป็นเกมที่น่าผิดหวังที่สุดของปี 2024 ด้วย)
ทั้งนี้คุณ Wilson มองว่าสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะ The Veilguard นั้นเริ่มต้นในฐานะเกมออนไลน์ MMORPG ซึ่งให้บริการแบบ Live-Service แต่กลับเลือกที่จะตัดจุดนี้ไปหลังจากเกม Anthem ซึ่งเป็นผลงานชิ้นก่อนหน้าของ BioWare ประสบความล้มเหลว ทำให้ผู้สร้างไม่กล้าสร้าง Dragon Age เป็นเกมออนไลน์
ทาง Tech4Gamers แสดงความคิดเห็นว่าเนื่องจากเกม Mass Effect ภาคที่ 5 กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นพัฒนา ทาง EA จึงอาจจะเปลี่ยนแนวทางให้ Mass Effect ภาคนี้เป็นเกมออนไลน์ Live-Service ก็ได้ ซึ่งอาจจะเป็นแนวทางที่ไม่มีใครอยากได้ แต่ EA กลับมืดบอดเกินกว่าที่จะมองเห็นความต้องการของเกมเมอร์อย่างแท้จริง และอาจทำให้แฟรนไชส์ใหญ่อีกแฟรนไชส์ต้องพบกับจุดจบเลยก็ได้
คงได้แต่รอดูว่าคำกล่าวของซีอีโอในครั้งนี้จะเป็นการประเมินที่ผิดพลาด ที่ยึดเอาความคิดเห็นของสื่อเป็นหลักจนมองข้ามความเห็นของผู้เล่นและมองไม่เห็นปัญหาที่แท้จริง การใช้ประโยชน์จากความล้มเหลวของเกมผู้เล่นคนเดียวเพื่อผลักดันแนวทาง Live-Service ที่ตนอยากได้อยู่แล้ว หรือคุณ Wilson จะ “มองขาด” จริง ๆ ว่าองค์ประกอบความเป็นเกมออนไลน์คือสิ่งที่ผู้เล่นหมู่มากอยากได้อย่างแท้จริง
แปลและเรียบเรียงจาก
Tech4Gamers
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station