คุณคาซึกิ อาเบะ (Kazuki Abe) ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ Capcom ได้ให้สัมภาษณ์กับ Google Cloud สาขาประเทศญี่ปุ่นว่าทางบริษัทกำลังทำการทดลองนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในการพัฒนาเกม และหนึ่งในนั้นก็คือเทคโนโลยี AI สาเหตุที่พวกเขาต้องทำเช่นนี้ก็เพราะว่าค่าใช้จ่ายด้านการใช้เทคโนโลยีแต่ละอย่าง รวมถึงค่าแรงจากทีมงานที่เป็นพนักงานพุ่งสูงขึ้นทุกปี ส่งผลให้ต้นทุนของการพัฒนาเกมสูงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการใช้ AI กับการพัฒนาเกมนั้น Capcom ไม่ได้ต้องการจะนำไปใช้กับการออกแบบเกมเพลย์ การเขียนพล็อตเรื่อง หรือการออกแบบตัวละครแต่อย่างใด ซึ่งคุณอาเบะกล่าวว่าหนึ่งในขั้นตอนที่กินเวลาและทรัพยากรทีมงานมากที่สุดของการพัฒนาเกมก็คือการรวบรวมไอเดียนับหมื่นนับแสนมาหารือและคัดเลือกกันนี่แหละครับ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็คือ ถ้าเราอยากจะใส่ TV เข้าไปในโลกของเกม เราจะนำทีวีที่มีอยู่แล้วในโลกความเป็นจริงใส่เข้าไปดื้อ ๆ ไม่ได้ แต่เราต้องคิดถึงการออกแบบ TV เสมือนขึ้นมาใหม่เลย รวมถึงทำโลโก้จำลองหรือตกแต่งอะไรอย่างอื่นเกี่ยวกับวัตถุนั้นเข้าไปเพิ่ม เป็นต้น
ทีนี้ สภาพแวดล้อมในเกมมันก็ไม่ได้มีแค่ทีวีครับ ทว่ายังมีวัตถุอื่น ๆ ปะปนอยู่ในโลกของเกมเป็นพันเป็นหมื่นชิ้นด้วย โดยทีมผู้พัฒนาก็ต้องใช้เวลามหาศาลในการคิดถึงวัตถุแต่ละชิ้น ซึ่งยังไม่นับรวมถึงพวกข้อความตัวอักษร หรืองานวาดทั้งหลายที่ต้องไปหารือกับฝ่ายกำกับศิลป์และนักวาดอีกต่างหาก ดังนั้นการสร้างเกมแต่ละเกมจึงมีสเกลโปรดักชั่นที่ใหญ่เอาเรื่อง
ด้วยเหตุนี้ คุณอาเบะเลยมองว่าการนำ AI มาช่วยเนรมิตไอเดียจะช่วยให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเขาได้พัฒนาระบบที่สามารถดึง AI ชนิดต่าง ๆ มาช่วยทำงาน เช่น Gemini Pro, Gemini Flash และ Imagen ซึ่ง AI พวกนี้มีการประมวลผลและให้คำตอบออกมาได้ภายในไม่กี่วินาที มันจะช่วยให้เกิดข้อได้เปรียบในอุตสาหกรรมเกมให้รุดหน้าไปไวขึ้น แม้ว่าระบบที่เขาพัฒนาจะยังเป็นแค่เวอร์ชั่นต้นแบบ แต่เขาก็เปิดรับฟีดแบ็คจากทีมพัฒนาเพื่อปรับปรุงระบบให้ดีขึ้นอยู่ตลอดครับ
แปลและเรียบเรียงจาก
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station