Assassin’s Creed Shadows ถือเป็นหนึ่งในเกมที่น่าจับตามองที่สุดแห่งปีในหลายๆ ความหมาย บัญญัติมือสังหารขบวนล่าสุดที่เหล่าเกมเมอร์ต่างจับตามองกันในหลากอริยาบท กับธีมญี่ปุ่นยุคศักดินาที่หลายต่อหลายคนรอคอยกันมาอย่างยาวนาน
แน่นอนว่าด้วยกระแสที่ผ่านมาก็ทำเอาเกมนี้นั้นมีแผลอยู่ไม่น้อยและอาจเป็นอุปสรรคที่บั่นทอนให้เกมไม่อาจตะกายไปสู่จุดที่ถูกคาดหวังเอาไว้ได้สะดวกดายนัก เมื่อแค่เริ่มต้นสถานะของมันก็ดูเหมือนจะติดลบไปแล้ว พอผนวกกับการเลื่อนจำหน่ายถึง 2 ครั้ง 2 คราก็ยิ่งโดนกระแสด้านลบเข้าไปใหญ่ คราวนี้แม้แต่คนที่อยากจะลองเล่นเป็นทุนเดิมก็เริ่มหวั่นไหวอยู่ไม่น้อยเช่นกันว่าเกมที่พวกเขารอคอยนั้นมันจะไปรอดหรือไม่
ข่าวดีก็คือเมื่อไม่นานมานี้ทาง Ubisoft Singapore ได้ทำการเชิญสื่อมวลชนรวมถึงอินฟลูเอนเซอร์จากทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าร่วมงาน Preview Event ของตัวเกม Assassin’s Creed Shadow เพื่อรับฟังข้อมูลล่าสุด, สัมภาษณ์ทีมพัฒนา รวมไปถึงการร่วมทดสอบเกมก่อนถึงวันขายจริง ซึ่งอาจจะสามารถทำให้มั่นใจได้ว่าอย่างน้อยๆ ตัวเกมก็สำเร็จเสร็จสิ้นในระดับที่เล่นได้แล้ว และยังทำให้เห็นภาพรางๆ ของภาคนี้เช่นกันว่าเกมเต็มจะออกมาเป็นอย่างไร ผมในฐานะตัวแทนของ Online Station ก็ได้มีโอกาสร่วมทดลองเล่นเกมนี้กับสื่อฯ และอินฟลูเอนเซอร์ท่านอื่นๆ มาเช่นกันครับ จะเป็นอย่างไรก็จะมาเล่าให้ฟังกัน
เนื้อเรื่อง
จากวันที่ไปเล่นมาทางผมได้ลองเล่นไป 2 เซสชั่นด้วยกันครับคือ Prologue และ Noble Quest line 1 เควสต์ใหญ่ๆ โดยที่สามารถวิ่งสำรวจนอกลู่นอกทางได้ตามสมควร ทั้งนี้ในส่วนของ Prologue ทางเราไม่สามารถพูดถึงได้เยอะนัก เพราะทาง Ubisoft อยากให้ผู้เล่นไปพบเจอกันเองในเกม แต่ก็อย่างที่คุณอาจจะพอเดาได้กันว่าเกมจะเล่าเรื่องที่มาที่ไปของ Yasuke และ Naoe ที่แตกต่างกัน ซึ่งในภาพรวมผมว่าเกมทำได้ดีและชวนให้รู้สึกสนใจ จูงมือพาผู้เล่นเข้าสู่เนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว บรรยากาศก็ทำได้ดี ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าเป็นหนึ่งใน Prologue ที่น่าสนใจที่สุดในหลายๆ ภาคที่ผ่านมาเลย
สำหรับ Noble Quest line จะเป็นภารกิจเนื้อเรื่องที่จะนำเราไปสู่การเจอกับบอสรายหนึ่ง ซึ่งตามรายทางก็จะมีเนื้อเรื่องในเชิงการเมืองตามสไตล์ของซีรีส์ ที่แม้อาจจะยังไม่สามารถเข้าใจบริบททั้งหมดได้นัก แต๋ก็จะพบเจอกับตะกอนบางๆ ที่พอจะเดาความเป็นไปบางอย่างรวมถึงไทม์ไลน์ของเรื่องราวได้ง่ายขึ้น และยังมีการเมนชั่นถึงหลายๆ ชื่อที่เป็นตัวละครที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่เราจะได้เห็นบทบาทของพวกเขามากขึ้นในเกมหลัก
เสียง
ตัวเกมรองรับหลายภาษาอยู่นะครับ (แน่นอนว่ายังไม่มีไทย) ถึงอย่างนั้นทีมงานของ Ubisoft ก็แนะนำตั้งแต่แรกว่าอยากให้เล่นแบบเสียงญี่ปุ่นแล้วเปิดซับอังกฤษครับ ทั้งนี้ตัวเกมจะมีโหมด Immersive สำหรับการให้ตัวละครพูด Native กันแต่ละภาษาไปเลย เพราะในเนื้อเรื่องก็จะมีบาทหลวงชาวโปรตุเกสที่เข้ามาทำการค้ากับเหล่าไดเมียวญี่ปุ่นด้วย การใช้โหมดนี้เราจะได้ยินเสียงพากย์โปรตุเกสลับกับเสียงญี่ปุ่นครับ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ น่าเสียดายที่ผมมือไวไปหน่อยเลยลั่นโหมดปกติซึ่งจะเป็นเสียงญี่ปุ่นตลอดทั้งเกมไปก่อนหน้าแล้ว
ด้านเพลงประกอบที่หลายๆ คนกังวลว่าจะมีแนวฮิปฮอปเข้ามามั๊ย ผมก็ตอบวามีครับ แต่ไม่ได้มาเป็นเพียวฮิปฮอปขนาดนั้นและมีการอาเรนจ์ให้เข้ากับเครื่องดนตรีญี่ปุ่นจนออกมาเป็นอีกรสชาติ คล้ายๆ เราเอาเพลงไทยเดิมมาอาเรนจ์ให้ร่วมสมัยขึ้น ความเห็นส่วนตัวคือรู้สึกไม่ขัดหูอะไรและทางทีมงานสามารถใส่เพลงเข้ามาได้อย่างถูกจังหวะ ทำให้เร้าอารมณ์การเล่นมากขึ้นในช่วงดังกล่าว แต่จากที่ลองเทสต์มา 1 เควสต์เพลงนี้ขึ้นมาครั้งเดียวตอนสู้กับบอสครับ สำหรับเพลงคลอบรรยากาศอื่นๆ และหรือตอนสู้ตามปกติก็จะเป็นเพลงแบบญี่ปุ่นที่แอบเซอร์ไพรส์ว่าทำติดหูมากกว่าที่คิดอยู่เหมือนกัน
กราฟิกและเพอร์ฟอร์แมนซ์
กราฟิกในภาพรวมคิดว่าทำได้ตามมาตรฐานเดิมของเกมซีรีส์นี้ครับ หากเทียบกับ Valhalla ก็รู้สึกว่ามีดีเทลและชีวิตชีวามากกว่า ไม่แห้งเท่า ส่วนหนึ่งก็อาจเพราะบรรยากาศของญี่ปุ่นนั้นจัดจ้านและเอื้อต่อการเป็นเกมมากกว่าบรรยากาศหม่นๆ บนเกาะอังกฤษ ตัวละครหลักสองตัวก็ดูมีดีเทลดี โดยเฉพาะเครื่องแต่งกายที่ในเวอร์ชั่นเทสต์มีให้ลองเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ ราวๆ 3 ชุด (ไม่รวมชุดที่เปิดหีบได้) พบว่าชุดในเกรดสีทองนั้นทำออกมาดูดีเลย เห็นรูปแบบและลวดลายที่แตกต่างกันไปอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ไม่แน่ใจว่ามีการปรับหน้าตาของ Naoe หรืออย่างไร คือรู้สึกว่าน้องมีความน่ารักขึ้นจากโฉมแรกที่เราได้เห็นต่อนข้างชัด พอลองคุยกับเพื่อนสื่อฯ ไทยอีก 2-3 คนก็ลงความเห็นคล้ายๆ กันว่าน้องน่ารักจริงดูดีขึ้นเป็นกอง แต่กับโมเดลตัวละครรองๆ โดยเฉพาะเหล่าขุนนางฝั่งญี่ปุ่นคือมีความรู้สึกว่าหน้าพวกพี่แกคล้ายๆ กันไปหน่อย ออกจะแยกได้ยากไปสักนิด แต่เพราะเล่นไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงจึงอาจเป็นไปได้ว่ายังไม่คุ้นเคยนักครับ
แต่กราฟิกงดงามแบบนี้ก็อาจแลกมาด้วยการกินพลังเครื่อง โดยตัวผมได้ทดสอบเกมบนเครื่อง PC ที่สเป็คสูงพอสมควร CPU i9-14900 กับการ์ดจอ 4080 Super และ Ram ที่คาดว่าน่าจะ 32GB บนความละเอียด 2K คุณภาพระดับ Ultra แต่บอกเลยว่าจังหวะนี้ 60 เฟรมไม่นิ่งนะครับมีร่วงบ้างเป็นบางที แล้วก็ยังมีบั๊กกราฟิกอย่างการที่ตัวละคร Yasuke จะวิ่งเอียงๆ เฉียงๆ เหมือนคนเอวเคล็ดอยู่บางเวลา ถึงอย่างนั้นก็ต้องย้ำกันอีกรอบว่าที่เราได้เทสต์ไม่ใช่บิลต์ล่าสุดของเกม และตัวเกมจริงอาจจะแก้ปัญหาไปแล้วและน่าจะ Optimized ได้ดีกว่านี้ครับ
เกมเพลย์
สำหรับเกมเพลย์ของ Assassin’s Creed Shadows ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าภาคนี้จะยังคงมีความเป็น RPG คล้ายๆ กับ Odyssey หรือ Valhalla แต่เป็น RPG ในแบบที่ลีนส่วนเกินและเสริมส่วนแข็งมากขึ้น ตัวเกมถูกปรับให้มีความท้าทายขึ้นในเกือบทุกมิติไม่ว่าจะในแง่การสำรวจ, การต่อสู้ หรือกระทั่งการลอบเร้น
โดยในแง่การสำรวจจะเน้นให้ผู้เล่นลงพื้นที่ “สำรวจ” ตามชื่อมากขึ้น อย่างพวกสมบัติในเขตต่างๆ จะไม่มีการระบุจำนวนหีบที่มีให้เปิดอีกแล้ว แต่จะเปลี่ยนเป็นการบอกค่า “ความมั่งคั่ง (Wealth)” ของพื้นที่แทน ขณะที่การลอบเร้นจะมีการเติมในส่วนของการคลานและการเล่นกับแสงเงาเข้ามาเพิ่มมิติขึ้นมาก ส่วนระบบต่อสู้ส่วนตัวรู้สึกว่ายากขึ้นกว่าภาคก่อนพอสมควร ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเล่นตัวไหนอยู่ครับเพราะทั้ง Naoe และ Yasuke มีความแตกต่างในการเล่นค่อนข้างชัดเจน และผู้เล่นสามารถเลือกได้ตลอดว่าจะเล่นเป็นตัวละครไหนในซีนนั้นๆ
Naoe – ตัวละครสายลอบเร้น มีความเป็น Assassin เต็มขั้น คล่องแคล่ว ว่องไว เงียบงัน สมกับที่ทางทีม Dev บอกว่า Naoe นั้นเร็วลำดับต้นๆ ของซีรีส์ ทำได้แทบทุกอย่างที่มือสังหารรุ่นพี่ของซีรีส์สามารถทำได้ ลอบสังหารก็จิ้มทีเดียวตายเสียส่วนใหญ่ ยกเว้นศัตรูประเภท Elite ที่จะเหลือติ่งเลือดไว้ข้อหนึ่ง แต่อาจมีสกิลอัปเกรดให้เชือดทีเดียวตายได้ในภายหลังเมื่อเล่นไปเรื่อยๆ ครับ ส่วนเรื่องที่ Naoe จะด้อยกว่ารุ่นพี่รายอื่นๆ คือการเปิดหน้าแลกศัตรู เพราะตัวนางถูกออกแบบมาให้เน้นลอบเร้นเป็นหลัก แต่ก็ใช่ว่าจะสู้ไม่ได้เสียทีเดียว แค่ต้องมีสเต็ปเยอะสักหน่อย ใช้การหลบหลีก และอุปกรณ์เสริมให้ชินมือเข้าไว้ ก็ยังพอจัดการศัตรูได้
อาวุธของ Naoe ที่ได้ลองเทสต์ก็จะมีดาบคาตานะ, เคียวโซ่ และมีดสั้นคู่กับฮิดเดนเบลด คาตานะดูจะเข้าใจได้ง่ายที่สุด ขณะที่เคียวโซ่มาแนวโจมตีศัตรูเป็นวงกว้าง และมีดสั้นอาจจะต้องชินก่อนเพราะใช้ยากสุด แต่ท่าสังหารคือเท่ไม่หยอก ตัวนางยังมีอุปกรณ์เสริมให้ใช้มากมายอย่างมีดคุไน, ชูริเคน และระเบิดประเภทต่างๆ ถ้าใช้ควบคู่กันให้คล่องหน่อยการสู้กับศัตรูหมู่มากก็ยังพอไหว แค่ต้องระวังให้ดีๆ เพราะตัวน้องนางนั้นบางเหลือเกินครับ
Yasuke – ตัวละครที่เป็นที่ถกเถียงของทั้งโลก แต่ในเมื่อทำมาแล้วก็ต้องลองเทสต์ครับ และหากไม่นับข้อถกเถียงในเรื่องของรูปลักษณ์หรือความเหมาะสม เมคานิคของพี่แกก็จัดว่าน่าสนใจและทำออกมาได้สนุกทีเดียวหากใครชอบเล่นสายบู๊ เพราะ Yasuke เป็นนักรบเต็มขั้นไม่ใช่ Assassin เขาสวมเกราะหนัก ลอบเร้นไม่เก่ง ปีนตึกไม่ค่อยไหว เชื่องช้า อุ้ยอ้าย แต่เรื่องตะลุมบอนนัวๆ นี่ขอให้บอก
ตัวของเขานั้นหนาทนกว่า Naoe ในระดับหนึ่ง แต่ขณะที่มือสังหารสาวจะอาศัยการหลบหลีก ตัวของ Yasuke เอง สามารถตั้งท่าป้องกันและทำ Parry ได้ประสิทธิผลกว่ามากครับ หากกดถูกจังหวะพี่แกสามารถทำ Parry หมู่ได้ และตะลุยต่อได้ทันที เขามีความรุนแรงในการโจมตี อาวุธที่ได้เทสต์มีคาตานะแบบยาว, ง้าวนิกินาตะ และกระบองเหล็กครับ โดยคาตานะยาวจะว่องไวที่สุด, ง้าวจะได้เปรียบเรื่องระยะ, ส่วนกระบองสำหรับการโจมตีหมู่แบบกวาด ขณะที่อาวุธรองจะมีธนูและอาวุธโปรดของผมอย่างปืนคาบศิลาที่ยิงมันส์ดีนักแล
นอกจากนี้ผมรู้สึกว่าด้วยกระแสต่างๆ ที่ผ่านมาทำให้ทางค่ายระแวดระวังในการนำเสนอตัวละครนี้พอสมควร เท่าที่สังเกตในตัวเกมที่ได้ทดสอบ Yasuke จะมีนิ่ง สุภาพ ไม่ใช่ตัวละครผิวดำประเภทกร่างไปทั่ว มีการก้มหัวต่อเจ้าขุนมูลนายชาวญี่ปุ่นให้เห็นอยู่ตลอด แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่าคุณต้องชอบตัวละครตัวนี้ เรื่องอินไม่อินก็เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล ส่วนตัวแล้วยังคิดเหมือนกับหลายๆ คนที่อยากเล่นเป็นมือสังหารหรือซามูไรชายชาวญี่ปุ่นมากกว่า แต่ในเมื่อได้เล่นได้ทดสอบมาประมาณนี้ก็ต้องพูดตามความรู้สึกที่ได้ลองครับ
สำหรับข้อสังเกตส่วนตัวกับระบบ 2 ตัวละครก็พอมีครับ โอเคแหละว่าแยกมา 2 ตัวคนละสาย เมคานิคคนละแบบก็ชัดเจนว่ามันก็ดูดีอยู่ แต่ในหลายๆ ครั้งการที่เกมทำเหมือนว่า 2 คนนี้ลุยด้วยกันอยู่เกือบตลอด ทว่าพอถึงฉากเกมเพลย์เราดันไม่เห็นอีกคนมาช่วยสู้หรือปรากฎให้เห็นในหน้าจอเดียวกัน ก็พลอยทำให้รู้สึกราวกับถูกยันออกมาจากความอินในเนื้อเรื่องอยู่บ้าง แถมทั้งเวลากดเลือกสลับตัวละครละคร เกมจะทำการโหลดใหม่ครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาพร้อมกับตัวละครที่เรากดเปลี่ยนในจุดเดิม จะไม่ไร้รอยต่อเหมือนกับการเปลี่ยนตัวละครในเกมอย่าง Spider-Man 2 ที่เกมจะเคลื่อนมุมกล้องไปหาไอ้แมงมุมอีกคนอย่างต่อเนื่องไม่ตัดฉากโลหด ทั้งนี้ก็อาจจะเพราะเอนจิ้น Anvil ที่แม้จะอัพเกรดอยู่บ่อยๆ มาหลายเวอร์ชั่น แต่มันก็เป็นเอนจิ้นที่เก่าแล้วและอาจมาพร้อมข้อจำกัดบางประการที่ไม่สามารถทำได้ครับ
อีกข้อสังเกตคือเรื่องมุมกล้องในที่แคบที่มันชอบติดขอบติดกำแพงอยู่เรื่อย เวลาลอบเร้นยังพอทำเนาแต่เวลาบู๊นัวๆ ก็วุ่นวายเอาเรื่อง หาตัวละครหาศัตรูไม่เจออย่างบ่อย รวมไปถึงระบบแสงเงาที่เวลามืดก็มืดเกินจนสมชื่อ Shadow คือมองแทบไม่เห็นอะไรเลย เวลาสู้กันไวๆ ในที่แสงไม่เท่ากันก็อาจจะพาลปวดตาได้ง่ายๆ ครับ เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง หวังว่าเกมเต็มตัวจะมีการปรับปรุงในข้อสังเกตเหล่านี้ข้างต้นไปบ้างแล้ว เพราะต้องไม่ลืมครับว่าที่ได้ทดสอบอยู่นี้ยังไม่ใช่บิลด์ล่าสุดของตัวเกมครับ
ขณะที่โลก Open World ของเกมยังมีกิจกรรมย่อยๆ ที่ได้ลองอยู่อีกประมาณหนึ่งครับ อย่างเช่นการย่องเข้าไปสเก็ตช์ภาพสัตว์ป่า ตามหาแมวชนิดต่างๆ เป็น Collectable ระบบ Hideout ที่ยังได้ลองไม่เต็มที่ ในส่วนที่ไปเทสต์พบว่าเราสามารถอัปเกรดลูกน้องซึ่งเราสามารถเรียกมาช่วยตอนสู้ได้ครับ โดยพออัปเกรดแล้วรูปลักษณ์ของพวกเขาก็จะเปลี่ยนไป ดูเก่งขึ้น อุปกรณ์สวมใส่เท่ห์ขึ้น เสียดายที่ยังไม่มีระบบปรับแต่งฐานที่มั่นให้ลอง อยากรู้ว่าจะปรับได้ขนาด
ส่วนระบบเกียร์ถูกตัดออกเหลือแค่อาวุธ, ชุด, แล้วก็หมวกครับ เรื่องเกรดน่าจะแบ่งระดับสีเหมือนเดิม แต่ในภาพรวมผมว่าตัวเกมมีการลดทอนความสำคัญของระบบ Gear Score ลงพอสมควร คนที่ชอบระบบนี้ก็อาจจะต้องทำใจหน่อยๆ ขณะที่ระบบสกิลของทั้งคู่จะแบ่งเป็น 6 สายเท่ากัน แต่จะต่างกันไปในรายละเอียด สามารถเข้าใจได้ไม่ยากครับ
สรุป
ผมมีโอกาสได้สัมภาษณ์ทีมพัฒนา (เดี๋ยวลงเต็มๆ ทีหลัง) เขาบอกว่าเป้าหมายคือทำให้ภาคนี้เป็น “Ultimate Assassin’s Creed” ซึ่งก็ทะเยอทะยานเอาเรื่อง แต่จากที่ลองมาก็ต้องบอกว่าเวลาน้อยไปเกินกว่าจะตัดสินว่าเกมนี้จะทำได้อย่างที่เขาต้องการหรือไม่ สิ่งที่พอพูดได้คือมันมีศักยภาพที่จะเป็นเกมที่สนุก หรืออย่างน้อยๆ ที่สุดคือแตะถึงมาตรฐานที่ Assassin’s Creed หลายภาคก่อนหน้าเคยทำเอาไว้ คิดว่าหากใครชอบ Odyssey หรือ Valhalla ก็น่าจะชอบภาคนี้เช่นกันครับ ระบบหลายอย่างถูกอัปเกรดไปในทางที่ดีขึ้น ขณะที่เนื้อเรื่องก็น่าสนใจกว่าที่คิด กอปรกับธีมญี่ปุ่นที่ทำให้เราอินกับมันได้ง่ายอยู่แล้ว สำหรับผม Assassin’s Creed Shadows มันน่าจะและควรจะเป็น RPG ภาคที่ตกตะกอนที่สุดของซีรีส์ แต่จะไปถึงนิยามความเป็น “Ultimate Assassin’s Creed” ได้หรือไม่ 20 มีนาคมนี้คงได้รู้กันครับ
Assassin’s Creed Shadows มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 20 มีนาคมนี้บนเครื่อง PlayStation 5, Xbox Series และ PC ครับ
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station
