Warrior นักรบผู้ใช้ดาบขนาดยักษ์ เป็นอาชีพที่มีพลังโจมตีสูงสุด จากการโจมตีด้วยดาบ ซึ่งอาวุธที่อาชีพนี้สามารถใช้ได้คือ Great Sword และ Dai Katana ส่วนเครื่องป้องกันนั้นจะใช้ประเภท Armorsuit Set เช่นเดียวกับอาชีพ Force Shielder ที่มีพลังป้องกันอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ยังเป็นอาชีพที่มีสกิลโจมตีที่รุนแรง โดยเฉพาะสกิลประเภททำให้ศัตรูล้ม หรือ ทำให้กระเด็น นั้นถือเป็นจุดเด่นของอาชีพ Warrior เลยก็ว่าได้
จุดเด่นของอาชีพ Warrior
– เป็นอาชีพที่มีค่า HP และ พลังป้องกันอยู่ในระดับสูง
– แนวทางการอัพสเตตัสไม่ยุ่งยาก เนื่องจากเน้นค่า STR เป็นหลัก
– มีสกิลโจมตีในระยะประชิดที่มีพลังทำลายสูงมาก
– มีสกิลที่ทำเกิดเป้าหมายล้ม หรือกระเด็น เยอะมาก เรียกว่าหากเข้าประชิดตัวได้เมื่อไหร่ก็รอดยาก
แนวทางการอัพสเตตัส Great Sword: STR 9, INT 1, DEX 2 DaiKatana: STR 8, INT 1, DEX 3
สเตตัสที่มีความสำคัญที่สุดของอาชีพ Warrior คือ STR ที่จะช่วยเพิ่มพลังโจมตี และพลังป้องกันด้วยการโจมตีปกติ ส่วนค่า INT และ DEX นั้นอัพไว้เพียงเพื่อให้ใส่ชุดหรืออาวุธที่ต้องการได้เท่านั้น ฉะนั้นในช่วงเลเวล 1 – 60 การอัพค่าสเตตัสต่างๆ ให้เราอัพตามค่าสเตตัสที่เกมกำหนดให้ เพื่อการรับเควสท์ “อัพเกรดตัวละคร” ที่จะมีให้เราสามารถทำได้ทุกๆ 10 เลเวล
เมื่อเลเวล 60 ขึ้นไปแล้วนั้นแหละครับ เราถึงจะสามารถเลือกได้ตามต้องการว่าจะเน้นไปที่ค่าใดเป็นหลักระหว่าง STR หรือ DEX โดยดูได้จากความต้องการของเราเอง หากเราต้องการเน้นพลังโจมตีที่รุนแรงก็ให้อัพ STR เป็นหลัก แต่ถ้าต้องการเพิ่มความแม่นยำในการโจมตีและอัตราการหลบหลีกให้อัพ DEX
แนวทางการอัพสกิล
สกิลของอาชีพ Warrior สามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภทด้วยกันคือ Sword Skill, Magic Skill และ Upgrade Skill ซึ่งอาชีพนี้ถือว่าเป็นอาชีพที่ใช้สกิลประเภท Sword Skill ได้ดีที่สุด ส่วน Magic Skill นั้นแทบไม่มีประโยชน์ใดๆ เลย นอกจากเอาไว้ยิงเรียกมอนสเตอร์ให้เข้ามาหา เนื่องจากเป็นอาชีพที่เน้นสเตตัสไปที่ค่า STR เป็นหลัก ในขณะที่ค่า INT นั้นน้อยนิด แต่เราสามารถนำ Magic Skill มาใช้เล่นควบคู่ไปกับ Sword Skill ได้เป็นอย่างดี ทั้งตอนเก็บเลเวล ทำเควสท์ ฯลฯ
Sword Skill
สกิลประเภทนี้เรียกได้ว่าเป็นสกิลทำมาหากินของอาชีพ Warrior เลยก็ว่าได้ แม้ว่าในช่วงแรกจะคล้ายกับอาชีพอื่นก็ตาม อีพทั้งความรุนแรงของสกิลก็ยังมีไม่มากนัก เนื่องจากค่า STR ในช่วงต้นๆ ของเรานั้นยังน้อย แต่เราจะเริ่มเห็นผลเมื่อเลเวลเพิ่มสูงขึ้นทั้งเลเวลของสกิลและเลเวลของตัวละคร สำหรับสกิลในประเภท Sword Skill ที่แนะนำให้อัพมีดังนี้
Novice
Impact Stab : สกิลโจมตีด้วยการแทงเป้าหมายที่อยู่เบื้องหน้า
Flash Draw : สกิลโจมตีด้วยการกวาดทำให้เป้าหมายที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหายด้วย
Power Stab : สกิลโจมตีด้วยการแทงเป้าหมายที่อยู่เบื้องหน้า ที่มีความรุนแรงกว่า Impact Stab
Fade step : ถอยออกมาจากศัตรูอย่างรวดเร็ว เพื่อหลบการโจมตี
ทั้ง 4 สกิลที่กล่าวมาในขั้น Novice เราไม่จำเป็นต้องอัพทุกสกิล เพราะบางสกิลเราไม่จำเป็นต้องใช้ โดยเริ่มต้นเกมมาเราจะมีสกิล Impact Stab ติดตัวมาก่อน ให้เราใช้เก็บเลเวลในช่วงแรก และเมื่อเลเวลเพิ่มขึ้นจนสามารถเรียนสกิล Flash Draw ซึ่งได้จากการทำเควสท์ในช่วงแรก ก็ให้เราใช้สกิลทั้งสองนี้แหละครับ เก็บเลเวลควบคู่กันไป จนกว่าเราจะสามารถเรียนสกิล Power Stab ที่มีความรุนแรงกว่า ได้นั้นแหละครับ เราจึงค่อยลบสกิล Impact Stab ออก แล้วหันไปใช้สกิล Power Stab + Flash Draw ในการเก็บเลเวลต่อไป ส่วนสกิล Fade step นั้นไม่จำเป็นต้องอัพในตอนนี้ก็ได้ เอาไว้อัพช่วงหลัง
Appentice
เมื่อระดับเลเวลสกิลของ Sword Skill สูงขึ้นจนถึงขั้น Appentice จะมีอีก 4 สกิลให้เราสามารถเลือกเรียนรู้ได้ดังนี้
Dash : พุ่งเข้าหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว
Concentration : เพิ่มความแม่นยำในการโจมตี
Heavy Slash : โจมตีเป้าหมายด้วยดาบขนาดใหญ่
Press Impact : โจมตีเป้าหมายจากบนลงล่างด้วยกำลังทั้งหมด
ถึงตรงนี้แนะนำให้ถอนสกิล Impact Stab ออกไปได้เลย หากยังไม่ได้ถอนตามที่บอกไว้ข้างต้น เพราะจากนี้ไปเราจะไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกแล้ว เพราะสกิลในระดับ Appentice นั้นจะเป็นสกิลที่มีพลังดจมตีที่รุนแรงกว่ามาก สำหรับสกิลที่แนะนำให้เรียนในขั้นนี้คือสกิล Concentration ส่วนสกิล Heavy Slash และ Press Impact ให้เลือกเอาว่าจะเรียนสกิลไหน ส่วนตัวผมเลือกเรียน Press Impact แม้ว่าจะเรียนรู้ได้ช้ากว่าเพราะต้องรอ Appentice ให้ถึงขั้น 8 เสียก่อนจึงจะสามารถเรียนรู้ได้ แต่เราก็จะได้ สกิลโจมตีที่รุนแรงที่สุด ก็นับว่าคุ้มค่ากับการรอคอย ส่วนสกิล Dash นั้นไม่จำเป็นต้องอัพครับ
Magic Skill
อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้นว่าสกิลที่อยู่ในประเภท Magic นั้นไม่มีความจำเป็นเท่าไหร่สำหรับอาชีพ Warrior เพราะสกิลที่สามารถเรียนรู้ได้ในประเภทนี้จะเป็นเพียงสกิลพื้นฐานที่มีให้เรียนกันได้ทุกๆ อาชีพอยู่แล้ว แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังจำเป็นต้องอัพสกิลสาย Magic ไว้สำหรับใช้ยิงเรียกมอนสเตอร์ให้ออกมาจากกลุ่ม หรือในกรณีที่มอนสเตอร์อยู่กันกระจัดกระจายเราก็สามารถยิงเพื่อเรียกให้มันมารวมกลุ่มกันก็ได้เช่นกัน ส่วนจะเรียนมากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่ความชอบเลยครับ สำหรับสกิลที่มีให้เรียนรู้ได้มีทั้งหมด 5 สกิลด้วยกันดังนี้ Novice
Magic Arrow : โจมตีเป้าหมายด้วยเวทมนตร์ในระยะไกล
Terra Arrow : โจมตีเป้าหมายด้วยเวทมนตร์ธาตุดินในระยะไกล
Aqua Arrow : โจมตีเป้าหมายด้วยเวทมนตร์ธาตุน้ำในระยะไกล
Wind Arrow : โจมตีเป้าหมายด้วยเวทมนตร์ธาตุลมในระยะไกล
Fire Arrow : โจมตีเป้าหมายด้วยเวทมนตร์ธาตุไฟในระยะไกล
ทั้ง 5 สกิลที่กล่าวมานี้ แนะนำให้เรียนเพียง 1 – 2 สกิลก็พอแล้วละครับ ซึ่งหากถามว่าอันไหนแรงที่สุดก็ Fire Arrow เลยครับ อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวนะครับ ^^
Upgrade Skill
สกิลประเภทนี้ถือว่ามีความสำคัญต่อตัวละครเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสกิลติดตัวที่จะส่งผลต่อความสามารถพื้นฐานในด้านต่างๆ ของตัวละคร สำหรับอาชีพ Warrior จะมีสกิลประเภท Upgrade Skill ที่จำเป็นต้องมีอยู่หลายสกิลด้วยกันดังนี้
Vitality Mastery : เพิ่มปริมาณ HP สูงสุด
Sharp eyes : เพิ่มระดับความแม่นยำของโจมตี Hit Rate
Reflex : เพิ่มอัตราการหลบหลีก Defense Rate
ทั้ง 3 สกิลที่กล่าวมานั้นสกิล Vitality Mastery เราสามารถเรียนรู้ได้ในขั้น Novice ส่วนสกิล Sharp eyes และ Reflex นั้นเราสามารถเรียนรู้ได้เมื่อเข้าสู่ขั้น Appentice โดยให้เลือกเอาว่าจะเรียนสกิลใด ถ้าอยากเพิ่ม Hit Rate ก็เรียนสกิล Sharp eyes ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการโจมตี และพลังโจมตีขั้นพื้นฐาน แต่ถ้าต้องการเพิ่ม Defense Rate ก็เรียนสกิล Reflex ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการหลบหลีก และพลังป้องกันขั้นพื้นฐานให้กับตัวละครของเรา
อาวุธคู่กาย
อาวุธคู่กายของอาชีพ Warrior นั้นจะมีให้ผู้เล่นได้เลือกใช้กันได้ 2 ชนิดคือ Great Sword และ Dai Katana ซึ่งอาวุธทั้ง 2 ชนิดนี้ต่างก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันดังนี้
Great Sword : ลักษณะจะเป็นดาบขนาดใหญ่ หากต้องการใช้อาวุธชนิดนี้เราควรเน้นอัพค่า STR ให้สูงไว้ก่อน ส่วนค่า DEX นั้นต้องการเพียงเล็กน้อย จึงส่งผลอาวุธชนิดนี้มีพลังโจมตีที่สูงมาก แต่ความแม่นยำในการโจมตีนั้นค่อนข้างต่ำ จึงมีโอกาสทำให้โจมตีพลาดบ่อยครั้ง
Dai Katana : ลักษณะจะเป็นดาบเรียวยาว ที่มีขนาดใหญ่กว่าดาบมือเดียวเท่าตัว อาวุธชนิดนี้ต้องการค่า STR น้อย แต่ต้องการค่า DEX มาก จึงส่งผลให้อาวุธชนิดนี้มีความแม่นยำในการโจมตีสูง แต่พลังโจมตีนั้นจะน้อยกว่า Great Sword อยู่พอสมควร
เครื่องป้องกัน
เครื่องป้องกันของอาชีพ Warrior นั้นจะเป็นเกราะหนักประเภท Armorsuit Set เช่นเดียวกับอาชีพ Force Shielder ที่มีพลังป้องกันอยู่ในระดับสูงที่สุดในบรรดาเครื่องป้องกันทั้งหมด ซึ่งในตอนต้นนั้นสามารถใช้ร่วมกันได้ แต่ถ้าหากเป็นชุดระดับสูง ก็จะกำหนดค่าสเตตัสที่ต้องการแตกต่างกันออกไป ตามรูปแบบการเล่น สำหรับเครื่องป้องกันประเภท Armorsuit Set ที่อาชีพ Warrior สามารถใช้ได้นั้นมีอยู่ทั้งหมด 9 ชุดด้วยกันดังนี้
แนวทางการเล่น Warrior
สำหรับแนวทางการเล่นของอาชีพ Warrior นั้นในช่วงเลเวล 1 – 60 การอัพสเตตัสให้เราอัพตามที่เกมกำหนด โดยดูได้จากด้านบนของหน้าต่าง Status สำหรับทำตามเควสท์อัพเกรดตัวละครซึ่งจะมีให้เราทำทุกๆ 10 เลเวล และเมื่อเลเวล 60 ขึ้นไปแล้วนั้นแหละครับ เราถึงจะสามารถเลือกได้ตามต้องการว่าจะเน้นไปที่ค่าใดเป็นหลักระหว่าง STR หรือ DEX โดยดูได้จากความต้องการของเราเอง หากเราต้องการเน้นพลังโจมตีที่รุนแรงก็ให้อัพ STR เป็นหลัก แต่ถ้าต้องการเพิ่มความแม่นยำในการโจมตีและอัตราการหลบหลีก หรือถ้าหากยังคิดไม่ออกว่าจะอัพมากน้อยแค่ไหน ก็ให้ดูได้จาก อาวุธและชุดเกราะที่เราต้องการจะใช้ก็ได้เช่นกันดังนี้
Great Sword : สายนี้ให้อัพ STR เป็นหลัก ซึ่งเป็นสายที่มีพลังโจมตีสูงมาก แต่ความแม่นยำนั้นค่อนข้างต่ำ มีโอกาสโจมตีพลาดบ่อยพอสมควร แต่เนื่องจากจุดเด่นของสายนี้คือ STR พลังโจมตีคือทุกสิ่งทุกอย่างของสายนี้ แม้ว่าช่วงแรกๆ เราจะโจมตีพลาดบ่อยๆ เนื่องจาก DEX น้อย แต่เมื่อเล่นไปได้สักพักเมื่อเราได้สกิลอย่าง Concentration ซึ่งเป็นสกิลที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการโจมตีแล้วล่ะก็ เลิกห่วงการโจมตี Miss ไปได้เลย
Dai Katana : สายนี้ให้อัพ DEX มากขึ้นอีกนิด ซึ่งจะส่งผลให้มีความแม่นยำในการโจมตีมากยิ่งขึ้น แต่พลังโจมตีก็จะน้อยลงนิดหน่อย ตามสัดส่วนที่ลดลง แต่สิ่งที่เราจะได้แถมมาด้วยคือ อัตราการหลบหลีก ซึ่งจะเห็นผลได้ชัดเจนก็ต่อเมื่อเลเวลสูงมากแล้ว
ทั้ง 2 สายที่กล่าวมานั้น สำหรับผู้ที่เลือกใช้อาวุธนำมาก่อน ซึ่งเราจะได้พลังโจมตีที่สูงขึ้นตามลำดับ และได้เปลี่ยนอาวุธใหม่ๆ แต่ถ้าหากต้องการเน้นพลังป้องกันเป็นหลักล่ะต้องทำยังไง อันนี้ก็ไม่ยากครับ เพียงแต่เราต้องเปลี่ยนแนวทางกันนิดหน่อย เพราะค่าสเตตัสที่กำหนดในการใส่เครื่องป้องกันนั้น จะคนล่ะแบบกับอาวุธเลยก็ว่าได้ครับ สรุปแล้วก็ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะเลือกใช้อันไหนก่อน ระหว่าง อาวุธหรือเครื่องป้องกัน ก็เท่านั้นล่ะครับ