คุณชูเฮย์ โยชิดะ (Shuhei Yoshida) อดีตผู้บริหารของ PlayStation ที่เพิ่งเกษียณจากการทำงานไปเมื่อ 15 มกราคมที่ผ่านมา ได้ให้สัมภาษณ์ทางรายการพ็อดแคสต์ของช่อง Kinda Funny Games บน YouTube โดยหนึ่งในช่วงไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ตอนคุณโยชิดะพูดถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลให้ PlayStation Vita (ขอเรียกย่อว่า PS Vita) ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ซึ่งพอสรุปคร่าว ๆ ได้ดังนี้ครับ
ปัจจัยแรกที่คุณโยชิดะเกริ่นขึ้นมาก่อนก็คือทัชแพดที่อยู่ด้านหลังของเครื่องครับ โดยเจ้าตัวมองว่าเป็นฟีเจอร์ที่ไม่มีความจำเป็นใด ๆ กับเครื่องเลย แถมยังเพิ่มต้นทุนของตัวเครื่องอย่างใช่เหตุอีกต่างหาก ขณะที่จอ OLED ที่ใช้กับ PS Vita รุ่นแรกก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำให้ต้นทุนสูงด้วยเช่นกัน เลยเป็นเหตุที่ทำให้รุ่นที่สองต้องลดสเปคมาใช้จอแบบ LCD แทนนั่นเอง
คุณโยชิดะกล่าวเสริมว่าตัวชุดพัฒนา (DevKit) ของ PS Vita ที่ทาง Sony มอบให้กับบรรดาค่ายเกมต่าง ๆ นั้นมีช่อง Video Out ด้วย เพื่อให้เหล่าผู้พัฒนาเกมสามารถทดลองเชื่อมต่อขึ้นมอนิเตอร์หรือทีวีที่จอใหญ่กว่าได้ แต่สุดท้ายแล้วทีมที่พัฒนาตัวเครื่องต้องตัดสินใจตัดฟีเจอร์ช่อง Video Out ออกไปในตัวเครื่องที่วางขายจริง ด้วยเหตุผลเรื่องต้นทุนที่เริ่มจะสูงเกินไป
ปิดท้ายด้วยปัญหาใหญ่ที่สุดที่ทำให้ PS Vita ไม่มีแรงผลักดันไปจนสุดทาง ก็คือช่วงเวลาที่ PS Vita วางขาย ทาง Sony ต้องโฟกัสความสำคัญไปที่เครื่องคอนโซลใหญ่อย่าง PS3 และ PS4 ก่อน เนื่องจากทีมผู้พัฒนาเกมในสังกัด ณ เวลานั้นยังมีจำนวนไม่มากพอ และการที่ PS3 มียอดขายที่น้อยกว่าทางบริษัทคาดหวังไว้ จึงต้องเน้นหนักที่ PS4 แบบสุดตัว จึงทำให้ PS Vita ถูกลดความสำคัญลงไปโดยปริยาย ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ PS Vita ต้องแป้กในที่สุด
แปลและเรียบเรียงจาก
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station