เมื่อพูดถึงค่ายเกมอย่าง Naughty Dog ต้องยอมรับว่าสตูดิโอนี้ได้มีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมเกมอยู่ไม่น้อยครับ คือไม่เพียงแต่เกมระดับคุณภาพอย่าง Uncharted หรือ The Last of Us ที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย แต่ยังรวมถึงมาตรฐานในการทำเกมที่มีฉากเล่าเรื่องแบบซีนีเมติก ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลาย ๆ ค่ายเกมในการผสมผสานระหว่างเกมเพลย์ที่สนุกและการเล่าเรื่องที่มีมิติ สร้างอารมณ์ร่วมแก่ผู้เล่นได้
เช่นเดียวกับคุณ Kyle Rowley ผู้กำกับเกม Alan Wake 2 ผลงานจากค่าย Remedy Entertainment ที่ได้ออกมาเล่าความรู้สึกในรายการพ็อดแคสต์ของช่อง Behind The Voice บน YouTube ว่าตัวเขานั้นได้เข้ามายังสตูดิโอแห่งนี้โดยเริ่มงานในโปรเจกต์เกม Quantum Break เป็นเกมแรก และมีความปรารถนาที่จะทำเกมที่ตัวเขารู้สึกสนใจจริง ๆ บ้าง
โดยช่วงที่เขากำลังเล่นเกม Uncharted อยู่นั้นเป็นเวลาเดียวกับที่เขาเข้ามายัง Remedy ในฐานะนักออกแบบเกมอาวุโส และต่อมาก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีมออกแบบเกม Quantum Break ตอนนั้นเขาเองอยากที่จะได้รับความรู้สึกแบบเดียวกับที่ได้รับจากการเล่นเกมดังกล่าว เลยออกปากแนะนำในการหารือครั้งหนึ่งภายใน Remedy ว่าพวกเขาควรผลักดันให้ค่ายนี้กลายเป็น Naughty Dog เวอร์ชั่นฝั่งยุโรปดูบ้าง (Remedy เป็นค่ายเกมจากฟินแลนด์) ซึ่งมุมมองของ Rowley ก็ไปสอดคล้องกับมุมมองของคุณ Sam Lake ที่เป็นหัวเรือใหญ่ของค่ายเหมือนกัน นั่นจึงทำให้เกม Quantum Break ออกมาในลักษณะเกมแอ๊กชั่นที่นำเสนอเนื้อเรื่องแบบซีนีเมติก ที่มีสัดส่วนของเกมเพลย์กับคัตซีนในอัตรา 1:1 นั่นเอง
เรียกว่าเกมของ Naughty Dog มีอิทธิพลและเป็นแรงบันดาลให้แก่คุณ Rowley ไม่น้อยเลย ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่เกมสักเกมได้ส่งต่อพลังบวกแก่บุคลากรคนอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ให้เกิดผลงานสร้างสรรค์ชิ้นใหม่ ๆ ขึ้นมาได้ครับ
แปลและเรียบเรียงจาก
https://www.youtube.com/watch?v=Qw0RByccsO4
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station