เกมเมอร์ชาว PC หลาย ๆ คนในปัจจุบันคงจะคุ้นเคยหรือใช้งาน Steam แพลตฟอร์มร้านค้าเกม PC ชื่อดังของ Valve ที่ทำหลาย ๆ คนเลิกเล่นเถื่อนกันเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะมีเกม PC ให้เลือกซื้อมากมายแล้ว ยังใช้งานง่ายและจัดเทศกาลลดราคาบ่อย ๆ ทำให้ผู้เล่นเชื่อถือและไว้ใจไม่แพ้ผู้พัฒนาเกมต่าง ๆ
ทว่าคุณ Gabe Newell หัวเรือใหญ่ของ Valve เผยว่าครั้งหนึ่ง Steam นั้นแทบไม่ได้รับความไว้วางใจจากทั้งบริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมเกม รวมถึงเกมเมอร์ก็ไม่คิดด้วยว่าจะไปรอด!
โดยคุณ Newell ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ PC Gamer ว่าช่วงปี 2004 ตอนที่ Valve พัฒนาเกม Half-Life 2 เสร็จแล้วและเปิดตัวพร้อมกับแพลตฟอร์ม Steam (ซึ่งยังไม่ใช่แพลตฟอร์มร้านค้าเกม) ผู้คนนั้นรู้สึกไม่ไว้วางใจเสียเท่าไหร่ หนำซ้ำยังโดนวิพากย์วิจารณ์หนัก เพราะตอนนั้นคนยังนิยมซื้อสะสมเกมแผ่น ๆ จับต้องได้ ประกอบกับแนวคิดเรื่องร้านค้าดิจิทัลยังเป็นเรื่องใหม่ที่หลาย ๆ คนยังไม่คุ้นเคย
คุณ Newell มองว่าสมัยนั้นเป็นช่วงเวลาที่ประหลาดมาก เพราะ Valve โดนปรามาสจากบริษัทต่าง ๆ มานับครั้งไม่ถ้วนว่า “ไม่มีทางแจกจ่ายซอฟต์แวร์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้” หรือ “ไม่มีวันทำสำเร็จแน่นอน” และไม่ใช่แค่รายสองราย แต่เรียกได้เลยว่าเป็น 99% ที่มองว่า “ร้านค้าปลีกจะไม่มีวันปล่อยให้ Steam ได้ผุดได้เกิดแน่นอน”
ทว่า Valve นั้นก็ไม่ย่อท้อต่อคำครหา และเดินหน้าผลักดันต่อถึงขั้นตัดสินใจใช้ยาแรง บังคับให้ต้องติดตั้ง Steam เพื่อเล่นเกม Half-Life 2 ซึ่งก็ถูกผู้เล่นชาว PC ต่อต้านอย่างหนัก แต่ก็ถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทั้งบริษัท ซึ่งหลายคนในตอนนั้นรวมถึงคนที่ทำงานมาตั้งแต่ตอนตั้งบริษัทก็รู้สึกหวาดหวั่นใจจนคุณ Gabe ต้องเข้ามากำชับว่าจะยึดมั่นแนวทางนี้และไปต่อ
โชคดีที่เดิมพันดังกล่าวของ Valve นั้นได้ผล เพราะ Half-Life 2 ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย ทำให้เกิดความเชื่อมั่นใน Steam มากขึ้น เปิดทางให้กลายเป็นซอฟต์แวร์ประจำ PC ของหลาย ๆ คนและกลายเป็นซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มร้านค้าเกมในเวลาต่อมา
ความกล้าที่เดิมพันกับนวัตกรรมที่มาก่อนกาลนี้เอง ที่ทำให้ปัจจุบัน Steam ประสบความสำเร็จ จนกลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้ออนไลน์พร้อมกันมากกว่า 37 ล้านราย และเป็นร้านค้าเกม PC ชั้นนำระดับโลกมาจนถึงทุกวันนี้
แปลและเรียบเรียงจาก
Tech4Gamers
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station
