มีรายงานจาก Otaku Soken ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้คุณ Yuji Horii ผู้สร้างเกมซีรีส์ Dragon Quest ได้ไปปรากฏตัวในรายการทอล์คโชว์ที่ญี่ปุ่นเพื่อเล่าเบื้องหลังการสร้างเกม RPG ชื่อดังซีรีส์นี้ร่วมกับผู้กำกับเกม Koichi Nakamura ที่เคยทำภาค 1 2 4 และ 5 มาก่อน
ในรายดังกล่าวคุณ Horii ได้เปิดเผยที่มาของระบบเกมอันหนึ่งอยู่คู่กับเกมนี้มาตั้งแต่ภาคแรก นั่นคือการที่ “ผู้เล่นต้องเสียเงินที่มีบนตัวครึ่งหนึ่งทุกครั้งที่ตาย” และอธิบายว่าทำไมปัจจุบันก็ยังคงมีระบบนี้อยู่
สาเหตุที่มีการนำระบบดังกล่าวมาใช้ในเกม เพราะตอนที่เกม Dragon Quest ภาคแรกออกในปี 1986 เกม RPG ยังไม่เป็นที่นิยมสักเท่าไหร่ในหมู่ชาวญี่ปุ่น ดังนั้นเพื่อให้เกม RPG เป็นที่นิยมมากขึ้น คุณ Horii จึงต้องสร้างเกมที่ทำให้ผู้เล่นเข้าใจหลักพื้นฐานของเกมนี้ นั่นคือการปั้นให้ตัวละครแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยการอัปเลเวล ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่ทุกคนคุ้นเคยในปัจจุบัน แต่สมัยนั้นยังไม่เป็นที่แพร่หลาย
เกมในสมัยนั้นมักจะทำให้ผู้เล่นเสียความคืบหน้าในเกมเวลาที่ตาย แต่คุณ Horii อยากจะ “ให้ความปราณี” ต่อผู้เล่นเกม RPG มือใหม่ เวลาที่ผู้เล่นตายจึงไม่มีการหักค่าประสบการณ์หรือความคืบหน้า แต่ใส่ระบบหักเงินที่มีบนตัวครึ่งหนึ่งแทน ซึ่งทำแบบนี้แล้วผู้เล่นจะสามารถปั้นตัวละครให้แข็งแกร่งขึ้นได้เรื่อย ๆ และสามารถเคลียร์เกมได้โดยไม่รู้สึกว่าโดนเกมต่อต้านมากเกินไป ไม่ว่าจะตายกี่ครั้งก็ตาม
ดังนั้นแม้ว่าการเสียเงินที่สะสมฟาร์มมาอย่างลำบากมาจะเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดสำหรับผู้เล่น แต่สำหรับคุณ Horii ถือว่าเป็นความปราณีแล้ว และตัดสินใจจำกัดการลงโทษเวลาผู้เล่นตายอยู่เพียงเท่านี้
ปรากฏว่าแนวทางนี้ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จ จึงเป็นฟีเจอร์ที่อยู่คู่กับซีรีส์ Dragon Quest มาจนถึงปัจจุบัน และเนื่องจากเกมไม่ได้แจกเงินให้กับผู้เล่นง่ายดายเกินไป ผู้เล่นจึงต้องชั่งใจให้ดีก่อนสู้บอสตอนที่เลเวลน้อยกว่า แต่ขณะเดียวกันก็มีตัวเลือกในการจัดการความเสี่ยงเช่นระบบธนาคาร ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถนำเงินที่มีไปฝากได้ ทำให้เงินไม่หายถ้าสู้แล้วตาย
วิธีการลงโทษผู้เล่นมือใหม่ตอนตายในแบบที่ค่อนข้างปราณีแต่ก็มีความสมดุลนี้เอง ที่อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกม Dragon Quest เป็นที่ยอมรับในหมู่ชาวญี่ปุ่นและทำให้เกมแนว RPG เป็นที่นิยมในที่สุด
แปลและเรียบเรียงจาก
Automaton Media
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station