นักวิเคราะห์มองว่า การบิดประวัติศาสตร์ใน Ghost of Tsushima มีเหตุผลที่คนญี่ปุ่นรับได้

เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงได้เห็นประเด็นดราม่าที่มีเกมหนึ่งถูกโจมตีทั้งจากเกมเมอร์ในและนอกญี่ปุ่น รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ว่าตัวเกมมีการบิดเบือนประวัติศาสตร์หลายจุดจนเกิดการต่อต้านจากคนที่ได้ชมคลิปตัวอย่างเกมไป ซึ่งพูดถึงตรงนี้น่าจะไม่ต้องเดากันแล้วนะครับว่าเกมดังกล่าวคือเกมอะไร

อย่างไรก็ตาม ฝั่งของเกม Ghost of Tsushima ที่วางจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2020 โดยอิงประวัติศาสตร์ช่วงที่ทัพมองโกลเข้ารุกรานญี่ปุ่น และมีการดัดแปลงเนื้อหาด้วยการใส่พล็อตบางจุดที่เป็นแนวกึ่งแฟนตาซีเข้ามาประปราย กลับไม่ถูกกระแสด้านลบโจมตีนัก แถมยังได้รับการยกย่องจากชาวญี่ปุ่นที่อาศัยบนเกาะสึชิมะว่าเกมนี้ช่วยโปรโมตการท่องเที่ยวให้ผู้คนรู้จักและสนใจเดินทางมาเยี่ยมชมเกาะสึชิมะมากขึ้นอีกด้วย จึงเป็นเรื่องที่น่าตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเกมหนึ่งโดนทัวร์ลง แต่ทำไมอีกเกมดันไม่โดน

ประเด็นนี้ทางคุณเคนซากุ นาเมระ (Kensaku Namera) ที่เป็นนักวิเคราะห์ได้มองถึงประเด็นนี้ว่า กรณีของเกม Ghost of Tsushima ที่แม้ว่าจะมีหลายสิ่งหลายอย่างไม่เข้ากับยุคสมัยนั้นจริง ๆ เช่น กลอนไฮกุ หรือ ชุดซามูไรของจิน แต่คนญี่ปุ่นเลือกที่จะมองข้ามหรือหยวน ๆ ไปได้ นั่นก็เพราะว่าตัวเกมเลือกที่จะนำเสนอตัวเองว่ามุ่งไปทางความบันเทิงล้วน ๆ และไม่พยายามชี้นำหรือสร้างเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ขึ้นมาเอง อีกทั้งไม่ยัดเยียดวัฒนธรรมหรืออุดมการณ์ใด ๆ ลงไปในเกม

ขณะเดียวกัน ทีมผู้พัฒนามีการเดินทางมาที่เกาะสึชิมะเพื่อศึกษาค้นคว้าสภาพภูมิประเทศของเกาะ พร้อมทั้งหารือกับนักประวัติศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ด้วยดาบ ตลอดจนเลือกที่จะใช้ตัวละครสมมติ มากกว่าจะไปหยิบตัวละครที่มีตัวตนในประวัติศาสตร์จริงมาใช้นั่นเอง