ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าเกมซีรีส์ทนายหรือ Ace Attorney ของ Capcom นั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 20 ปี แล้วนะครับ ซึ่งในช่วง 3 ปีหลัง ทาง Capcom ก็ได้ทยอยนำเกมไตรภาคหลัก 4-6 (Apollo Justice Trilogy) รวมถึงภาคย้อนยุค (The Great Ace Attorney Chronicles) และล่าสุดคือภาคเสริม (Investigations 1-2) ที่เพิ่งจำหน่ายเมื่อ 6 กันยายนมามัดรวมแล้วรีมาสเตอร์จนครบพอดี ซึ่งคาดว่าต่อไปจากนี้เราอาจจะได้เห็นการทำภาคใหม่เป็นเรื่องเป็นราวเสียที
โดยในภาคที่ทีมงาน Online Station รีวิวลงบทความนี้มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Ace Attorney Investigations Collection โดยประกอบด้วยเกม Ace Attorney Investigations: Miles Edgeworth กับ Ace Attorney Investigations 2: Prosecutor’s Gambit ที่เคยวางขายบน Nintendo DS เมื่อปี 2009 และ 2011 ตามลำดับ ซึ่งการรีมาสเตอร์จะมีอะไรปรับปรุงไปบ้าง มาชมรีวิวกันเลยดีกว่าครับ
แพลตฟอร์ม: PS4, Xbox One, Switch, PC
ผู้พัฒนา: Capcom
วางจำหน่าย: 6 กันยายน 2024
แนวเกม: ผจญภัย/สืบสวนสอบสวน/วิชวลโนเวล
พล็อตเรื่องคร่าว ๆ และเกมเพลย์
ด้านเนื้อเรื่องของฝั่ง Investigations จะโฟกัสที่ตัวละครไมลส์ เอดจ์เวิร์ธ (Miles Edgeworth) อัยการหนุ่มที่เป็นคู่ปรับของฟีนิกซ์ ไรท์ (Phoenix Wright) ตัวเอกจากภาคหลัก ซึ่งไทม์ไลน์ของ Investigations ภาคแรกจะเกิดขึ้นระหว่างเกมภาคหลักภาคที่ 3-4 ขณะที่ภาคสองจะเกิดหลังจากภาคแรกเพียงไม่กี่เดือน โดยจะมีให้เล่นกันภาคละ 5 คดีด้วยกัน ภาคแรกจะเน้นหนักไปที่การแกะรอยหาเบาะแสของกลุ่มอาชญากรระดับชาติที่ลักลอบขนของผิดกฎหมาย ส่วนภาคสองจะเป็นดราม่าภายในสำนักงานอัยการ ที่ผู้พิพากษารายหนึ่งต้องการจะล้างบางอัยการที่ตนเองมองว่าไม่เข้าตาออกไปให้หมดสิ้น
เดิมทีในภาคอื่น ๆ เราจะได้เล่นเป็นทนายที่มีหน้าที่ปกป้องลูกความที่โดนกล่าวหาว่ากระทำความผิด โดยมีทั้งช่วงออกค้นหาหลักฐาน และดวลกับอัยการในชั้นศาล ทว่าใน Investigations เราจะได้โยกมาสวมบทบาทเป็นอัยการ หรือผู้บังคับใช้กฎหมายแทนบ้าง ซึ่งความแตกต่างจากเกมเพลย์ที่เป็นทนายคือ เราจะไม่ต้องดวลกันในศาลแล้ว แต่จะหาหลักฐานเพื่อมาดวลกับคู่กรณีหรือคนร้ายกันซึ่งหน้าเลย นอกจากนี้กระบวนการค้นหาหลักฐานจะมีความเป็นแนวผจญภัยมากขึ้น ด้วยการให้เราบังคับตัวไมลส์เดินสำรวจในสถานที่เกิดเหตุได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องกดเลือกสถานที่ ตัวละครที่ต้องการคุย หรือหัวข้อที่ต้องการสนทนาอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน ไมลส์เองก็จะมีทักษะในการสืบสวนคดีในแบบฉบับของตัวเอง นั่นก็คือการใช้ตรรกะ (Logic) โดยแต่ละครั้งที่เราสามารถหาหลักฐานหรือเบาะแสได้เพิ่มเติม แต่ยังไม่สามารถหาจุดเชื่อมโยงระหว่างคนร้ายกับหลักฐานได้ ก็จะมีระบบ Logic เข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ ผู้เล่นจะต้องหยิบเอาเบาะแสที่รวบรวมมาอย่างน้อย 2 ชิ้นมาเชื่อมต่อกันเหมือนจิ๊กซอว์ เพื่อสร้างความเป็นไปได้ใหม่ ๆ หรือความเชื่อมโยงดังกล่าวครับ
อย่างไรก็ดี เกมมีความพยายามให้ผู้เล่นหมั่นคิดให้รอบคอบก่อนที่จะใช้ตรรกะเชื่อมโยง หรืองัดหลักฐานมาชนกับคู่กรณีทุกครั้ง เพราะการเชื่อมโยงตรรกะที่ผิดพลาด หรือทำอะไรไปส่งเดช ก็จะมีบทลงโทษด้วยการลดเกจความน่าเชื่อถือของไมลส์ลง ซึ่งถ้าเราพลาดรัว ๆ จนเกจลดหายเกลี้ยง เกมจะตัดเข้า Bad Ending ทันทีแบบไม่มีอุทธรณ์ โดยใน Investigations ทั้งสองภาคจะมี Bad Ending อยู่หลายแบบ ขึ้นอยู่กับว่าเราไปทำเกจหมดหลอดเอาตอนช่วงไหนของคดี
ด้วยความที่เราบังคับตัวไมลส์ช่วงค้นหาหลักฐานได้ มันเลยเป็นข้อดีให้เกมมีความฉับไวมากขึ้น และลดความน่าเบื่อลงได้เยอะ โดยในเวอร์ชั่นรีมาสเตอร์ทาง Capcom ได้ปรับปรุงโมเดลของตัวละครทุกตัว รวมถึงฉากต่าง ๆ ให้มีความสวยงามและคมชัดชนิดคนละเรื่อง แถมยังทำให้อนิเมชั่นของตัวละครดูดีราวกับได้ชมอนิเมะแนวสืบสวนเลยก็ว่าได้ มิหนำซ้ำตัวเกมยังมีส่วนของ Accolades ที่เป็นพวกโทรฟี่หรือ Achievement ให้เราเช็คได้ด้วยว่าผ่านเงื่อนไขอะไรไปบ้างแล้ว รวมถึงหมวดภาพอาร์ตเวิร์กและเพลงประกอบของเกมให้ฟังกันเพลิน ๆ ด้วย
สิ่งที่น่าจะเป็นอุปสรรคกับผู้เล่นชาวไทยที่สุดคงหนีไม่พ้นประเด็นกำแพงภาษาครับ เพราะเกมตระกูลนี้มักอัดแน่นไปด้วยบทสนทนาภาษาอังกฤษ ซึ่งผู้เล่นก็ควรต้องมีทักษะภาษาอังกฤษระดับพอสมควร และหากใครพอเข้าใจศัพท์เชิงกฎหมายด้วยก็จะยิ่งได้เปรียบหน่อย เช่นเดียวกับความที่มีเกมเพลย์แนว Point and Click ในบางช่วง โดยเฉพาะตอนส่องหาหลักฐานแบบโคลสอัป ที่อาจจะชวนให้รู้สึกล้าสมัยไปแล้วกับยุคนี้ แต่ถ้าลองคิดว่ามันเป็นการรีมาสเตอร์เกมที่มีอายุ 13-15 ปี จะลองหยวน ๆ ก็พอได้อยู่ครับ
เกมมีการสอดแทรกอีสเตอร์เอ้กที่เชื่อมโยงกับเกมภาคอื่น ๆ ในซีรีส์อยู่เพียบ เราจะได้เห็นตัวละครมากหน้าหลายตาจากภาคอื่น ๆ มาปรากฏตัว บางคนโผล่ให้เห็นแค่ซีนเดียวและไม่มีความสำคัญกับคดี (Cameo) ขณะที่บางคนโผล่มาเป็นตัวเดินเรื่องของคดีนั้น ๆ เลย เป็นต้น ทว่าสิ่งที่แอบเสียดายอยู่นิด ๆ คือไมลส์เป็นตัวละครที่ไม่ค่อยมีมุกเยอะเท่าฟีนิกซ์ ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นจะมาในแนวคำพูดจิกกัด เสียดสี เนื่องด้วยมาดและรูปลักษณ์ของไมลส์ที่ดูภูมิฐานและหยิ่งนิด ๆ นั่นเอง (เห็นแบบนี้ในคอมมูนิตี้เกมทนายมักชอบนำไมลส์ไปจิ้นคู่ฟีนิกซ์อย่างบ่อยเลยขอบอก)
ท้ายที่สุดแล้ว กับสิ่งที่ปรับปรุงเพิ่มมาทั้งด้านกราฟิกและโหมดพิเศษ ตลอดจนเนื้อเรื่องที่กลมกล่อมกำลังดี ผู้เขียนมองว่า Ace Attorney Investigations Collection มีความคุ้มค่ากับราคาพันต้น ๆ แถมฝึกภาษาอังกฤษได้ดีอีกต่างหาก จริงอยู่ที่เกมนี้ไม่ได้ใช้ขุมกำลังจาก RE Engine ให้มีกราฟิกอลังการเหมือนเกมระดับ AAA ของค่าย แต่จุดขายของซีรีส์ที่ต้องการนำเสนอเนื้อเรื่องที่เข้มข้น หักเหลี่ยมกันตลอดทั้งเกม หากได้ลองเล่นดูแล้วจะเข้าใจได้ครับว่าทำไมซีรีส์นี้ถึงอยู่นานมากว่า 2 ทศวรรษ
Score: 9/10
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station