สารานุ-Game ตอน เพราะ Wukong ไม่ Woke จึงขายดี?

2024 ปีที่ทำท่าจะเงียบเหงาสำหรับคอเกมคอนโซลและ PC เพราะเราแทบจะไม่ได้เห็นเกมฟอร์มยักษ์หรือภาคใหม่ของ IP ดัง ๆ จากทั้งสามค่ายเจ้าของแพลตฟอร์มกันเลยในช่วงครึ่งแรกของปี แต่ก็ยังดีที่เกมจากหลาย ๆ ค่ายภายนอกยังทยอยกันออกมาอย่างไม่ขาดสาย แถมแทนที่จะแข่งกันด้วยคุณภาพหรือความน่าสนใจของเกม กลายเป็นว่า Sony เหมือนจะกำลังแข่งกับ Microsoft ว่า ไหนดูซิ ใครจะสั่งปิด Studio หรือสั่งปลดพนักงานได้มากกว่ากัน

Black Myth: Wukong

แต่อยู่ ๆ ก็มีอยู่เกมนึงที่ไม่พูดพร่ําทําเพลง… โอเค อาจจะมีเพลงอยู่บ้าง เป็นเกมจากบริษัทนักพัฒนาชาวจีนที่แทบจะไร้ตัวตนบนเวทีโลก เป็นเกมที่ออกมาแล้วก็ขายไปได้กว่า 10 ล้านชุดนับตั้งแต่สัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย กลายเป็นหนึ่งในเกมที่มียอดผู้เล่นพร้อมกันสูงสุดบน Steam กว่า 2 ล้านคน และทำให้เครื่อง PlayStation 5 ที่จีนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ซึ่งเกมนั้นก็คือ Conc… ซึ่งเกมนั้นก็คือ Black Myth: Wukong ของทีมงาน Game Science ที่ก่อนจะวางขายก็กลายเป็นตัวโดนว่าเหยียดเพศบ้างล่ะ ไม่หลากหลายบ้างล่ะ

แต่ถึงอย่างนั้น ตัวเกมกลับประสบความสำเร็จไปอย่างงดงามทั้งในแง่ของยอดขายและเสียงวิจารณ์ ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า หรือว่าการไม่ Woke จะเป็นหนทางสว่างของสื่อบันเทิงอย่างหนังหรือวิดีโอเกม และนี่ก็คือสิ่งที่เราจะมาหาคำตอบกัน

Black Myth: Wukong

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 หรือราวสามปีหลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศยกเลิกกฏหมายห้ามจำหน่ายเครื่องเกมคอนโซลในประเทศ เพราะเกรงว่าสาส์นต่าง ๆ จากวิดีโอเกมจะส่งผลเสียต่อความคิดและสภาพจิตใจของเด็ก ๆ … ใช่ เราก็สงสัยแบบเดียวกันคุณผู้ชมเหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้เหล่าผู้บริหารประเทศจีนในเวลานั้นสรุปการตัดสินใจไปแบบนั้น แต่พอไม่มีกฏหมายมาห้ามอีกต่อไป ทีมงาน Game Science จากเมืองเชินเจิ้นที่เคยทำแต่เกม Free-to-play จึงนึกอยากจะทำเกมฟอร์มยักษ์เพื่อขายบนคอนโซลและ PC กันดูบ้าง ซึ่งในตอนนั้น ทีมงานแค่เจ็ดคนของบริษัทก็ยังไม่ได้ตัดสินใจกันว่าจะทำเกมอะไร รู้กันแค่ว่า พวกเขาอยากจะทำเกมที่อิงมาจากนิยายแนวเทพเซียน หรือไม่ก็นิยายกำลังภายในสักเรื่อง แต่สุดท้ายก็วางเป้าหมายไปที่การทำเกมไซอิ๋ว เพราะทีมงานทุกคนดูจะถูกใจตรงกันมากที่สุด

Black Myth: Wukong

หลังจากที่เริ่มพัฒนาเกมไซอิ๋วของตัวเองด้วย Unreal Engine 4 ไปพร้อม ๆ กับชักชวนเพื่อน ๆ ในวงการให้เข้ามาร่วมงานกันแบบปากต่อปาก จำนวนพนักงานของ Game Science ก็เพิ่มขึ้นเป็น 30 คนในช่วงเวลาที่ได้เปิดตัวเกมภายใต้ชื่อ Black Myth: Wukong เป็นครั้งแรก ด้วยวิดีโอเกมเพลย์ที่มีความยาวกว่า 10 นาทีในปี 2020 ซึ่งพวกเขาตั้งใจให้มันเป็นเครื่องมือในการโฆษณาเพื่อดึงดูดให้คนเก่ง ๆ อยากมาร่วมงานด้วย และเพราะกราฟิกที่สวยงาม ประกอบกับเกมเพลย์ที่ดูน่าเล่น ทำให้ Game Science กลายเป็นหนึ่งในบริษัทเกมที่คนจำนวนไม่น้อยอยากเข้าไปร่วมงานด้วย

Black Myth: Wukong

ไม่ว่าจะคนจีน หรือชาวต่างชาติ ที่บางคนตั้งใจถึงขั้นจะออกค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่ามาทำงานในประเทศจีนด้วยตัวเอง ส่งผลให้โดยรวมแล้ว มีคนมายื่นเอกสารเพื่อขอสมัครงานกับบริษัทกว่า 10,000 คน แต่ด้วยความที่ยังเป็นแค่บริษัทเกมขนาดเล็กที่ทั้งพัฒนาและจัดจำหน่ายเกมกันด้วยตัวเอง Game Science จึงค่อย ๆ โตขึ้นจากทีมงาน 30 คน มาเป็นราว 100 คนเท่านั้น พอมีทั้งกำลังคนและความสามารถที่เพิ่มขึ้น การพัฒนาของ Black Myth: Wukong จึงถูกย้ายไปสร้างกันต่อบน Unreal Engine 5 ที่จะทำให้เกมมีภาพลักษณ์ที่สมจริงยิ่งขึ้นไปอีก ตามเจตนารมณ์ที่ทีมงานตั้งใจเอาไว้ในตอนแรก

Black Myth: Wukong

ในช่วงเวลาหลายปีที่ Black Myth: Wukong อยู่ระหว่างการพัฒนา ทางทีมงาน Game Science ก็ปล่อยทั้งเทรลเลอร์และเกมเพลย์ของเกมออกมาอยู่เนือง ๆ จนกระทั่งช่วงกลางปี 2024 หรือไม่นานก่อนที่ตัวเกมจะวางจำหน่าย ก็มีรายงานจากสื่อของประเทศจีนว่า ที่ Game Science ถูกสื่อตะวันตกโจมตีว่าเป็นบริษัทที่เหยียดเพศและทำเกมมาไร้ซึ่งความหลากหลายนั้น เป็นเพราะพวกเขาปฏิเสธข้อเสนอของ Sweet Baby Inc. ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านความ Woke สำหรับสื่อบันเทิงหลาย ๆ ประเภท เพราะไม่อยาก Woke และอยากจะเป็นคนกำหนดเนื้อหาพร้อมทั้งรูปแบบการนำเสนอของตัวเกมด้วยตัวเอง

Black Myth: Wukong

โดยบางรายงานยังระบุด้วยว่า ค่าปรึกษาที่ Sweet Baby Inc. เสนอไปนั้น เป็นจำนวนเงินที่สูงถึง 7 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 230 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งทาง Game Science ก็ไม่เคยออกมายืนยันหรือปฏิเสธรายงานดังกล่าว มีแค่ขอความร่วมมือจากสื่อหลาย ๆ เจ้าที่ได้รับตัวเกมไปรีวิวก่อนกำหนดว่า ได้โปรดอย่าโยงเกมของพวกเขาไปเป็นเครื่องมือในการโฆษณาชวนเชื่อของแนวคิดสตรีนิยมเลย

แต่ถ้าถามว่าความสำเร็จของ Black Myth: Wukong เป็นเหมือนกระบองยักษ์ที่มาฟาดหน้าพวก Woke อย่างยัดเยียดจนหงายเงิบรึเปล่า นี่เป็นชัยชนะของชาวต่อต้าน Woke หรือพลังชาตินิยมของชาวจีนหรือไม่ คำตอบคงเป็น มันก็มีส่วนบ้างแหละ แต่ก็ไม่ใช่ส่วนใหญ่จนเป็นตัวกำหนดทิศทางของวงการสื่อบันเทิงได้

Black Myth: Wukong

เพราะแม้เราบางคนอาจจะขลุกอยู่ในคอมมูนิตี้ของเกมเมอร์ที่เห็นคนออกมาโจมตีหรือต่อต้านความ Woke กันแทบจะไม่เว้นแต่ละมื้อแต่ละ Day แต่กลุ่มคนบนโซเชียลมีเดียก็เทียบไม่ได้กับผู้บริโภคอีกจำนวนมหาศาลที่ไม่ได้ลงมาถกเถียงกันในโลกออนไลน์ การตัดสินใจซื้อของคนเหล่านี้ก็มาจากเรื่องง่าย ๆ แค่ว่า ทั้งเกมเพลย์และเทรลเลอร์หรือโฆษณาในช่องทางต่าง ๆ ของตัวเกมมันน่าสนใจหรือน่าเล่นสำหรับพวกเขามั้ย ถ้าใช่ ก็จ่ายเงินซื้อ แค่นั้นเลย (ติดตามรายละเอีดเพิ่มเติมได้จากคลิปวิดีโอได้เลยครับ)

อ้างอิงข้อมูลจาก
Online Station


ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้