ภายในงาน Devcom Conference ที่เป็นอีเวนต์พบปะของเหล่าผู้พัฒนาเกม ระหว่างวันที่ 18-20 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในงานอุ่นเครื่องก่อนเริ่มงาน Gamescom ที่ประเทศเยอรมนี ได้มีการทำแบบสำรวจไปยังบรรดาผู้พัฒนาเกมที่มาร่วมงานดังกล่าว ปรากฏว่าผู้ตอบแบบสำรวจประมาณ 89% มองว่าระบบ Microtransaction ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ต่อการขายเกม อีกทั้งส่วนใหญ่จะมองว่าลำพังเกมระดับ AAA ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยโมเดลธุรกิจ “ซื้อเพื่อได้เล่น” และไม่ต้องมีอะไรมากไปกว่านั้นแล้ว
ขณะเดียวกัน จากผลสำรวจยังระบุอีกด้วยว่า มีผู้พัฒนาเพียงคนเดียวจากราว 100 คนที่ตอบแบบสอบถาม ที่คิดว่าการใส่โฆษณา (Ads) แทรกเข้ามาในเกมคือสิ่งที่จำเป็นต่ออนาคตของวงการเกม และมีผู้ตอบแบบสอบถามราว 31% มองว่าควรใช้ AI ในกระบวนการพัฒนาเกมให้น้อยที่สุด รวมถึงมีผู้ตอบแบบสอบถามราว 21% ที่เชื่อว่าการใช้ AI เข้ามาช่วยเขียนโค้ดหรือช่วยในกระบวนการพัฒนาเกมทั่วไปจะเป็นคุณประโยชน์ต่อวงการเกมในภายภาคหน้าได้
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้พัฒนามากกว่า 50% รู้สึกว่าปัญหาความอิ่มตัวในสายอาชีพนี้ได้กัดกินและส่งผลร้ายแก่อุตสาหกรรมเกมอยู่ ขณะที่มีผู้พัฒนาเกมประมาณ 43% คิดว่าประเด็นการเลิกจ้างพนักงานในอุตสาหกรรมเกมจะเบาบางลงไปในอีก 1 ปีข้างหน้า ทว่าผู้พัฒนาเกมที่เหลือกลับมองว่าอัตราการเลิกจ้างน่าจะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลที่เพื่อน ๆ อาจต้องรับทราบก่อนว่าเฉพาะรอบปี 2021 ทาง Activision Blizzard สามารถสร้างรายได้จากระบบ Microtransaction ได้มากถึง 8,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 3 แสนล้านบาทเลยทีเดียว ไม่เว้นแม้แต่เกม GTA 5 หนึ่งในเกมที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล ก็สามารถทำเงินผ่านระบบ Microtransaction ได้มากกว่ายอดขายหลังเกมวางขายมาได้เพียง 4 ปีเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงคงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่ค่ายเกมจะยกเลิกระบบ Microtransaction ออกไปในเร็ววัน เพราะระบบนี้ยังเป็นบ่อเงินบ่อทองสำหรับค่ายเกมจนถึงปัจจุบันครับ
แปลและเรียบเรียงจาก
https://exputer.com/news/industry/90-developers-microtransactions-necessary/
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station