เมื่อเร็ว ๆ นี้คุณ Yuji Horii ผู้สร้างซีรีส์เกม RPG ชื่อดัง Dragon Quest ได้ร่วมเสวนาพูดคุยกับคุณ Katsura Hashino ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์เกม Metaphor: ReFantazio จากค่าย Atlus ซึ่งคราวนี้คุณ Horii ได้พูดถึงเรื่องรากรากฐานของการเล่าเรื่องในเกม Dragon Quest และความท้าทายเล็ก ๆ ที่ไม่คาดคิดเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเกมมีกราฟิกที่สมจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเกี่ยวกับตัวละครเอกนั่นเอง
โดยคุณ Yuji Horii เดิมทีอยากจะเป็นศิลปินนักวาดมังงะ แต่หันมาสร้างวิดีโอเกมเนื่องจากหลงใหลการเล่าเรื่องและความหลากหลายในการมีปฏิสัมพันธ์ที่ทำได้กับเกมคอมพิวเตอร์ จนในที่สุดก็ทำให้เกิดเป็นเกม Dragon Quest ขึ้นมา ซึ่งความสนุกหนึ่งคือการสร้างบทพูดกับเหล่าชาวบ้านชาวเมืองในแบบที่ไม่ต้องเล่าให้มากความ เพียงแค่ใช้บทพูดก็สื่อถึงเรื่องราวต่าง ๆ ได้แล้ว
อีกเรื่องหนึ่งที่ถือเป็นเอกลักษณ์รากฐานของซีรีส์ Dragon Quest คือตัวเอกที่เป็นใบ้ไม่มีบทพูดนั่นเอง ซึ่งแนวคิดคือเพื่อให้ผู้เล่นนั้นสามารถจินตนาการคำพูดและการตอบโต้ของตัวละครเอกได้อย่างอิสระ จะได้สวมบทและอารมณ์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งกราฟิกสมัยก่อนก็ช่วยตรงนี้ด้วยเพราะไม่ได้มีรายละเอียดมากนัก ต้องใช้จินตนาการเอา
ทว่าพอกราฟิกของเกมพัฒนามากขึ้น ๆ จนสมจริงขึ้นเรื่อย ๆ การจะสร้างเกมให้พระเอกนั้นยืนเฉย ๆ นั้นจะทำให้ตัวเอกนั้นดูซื่อบื้อแทน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่แก้ได้โดยง่าย เพราะคุณ Horii บอกว่าการจะให้ตัวเอกโต้ตอบกับเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างชัดเจนจะทำให้ผู้เล่นเข้าถึงและสวมบทบาทตัวละครนั้นได้ยากขึ้น ทำให้ไม่อินได้
ด้วยเหตุนี้เอง ความสมจริงที่มากขึ้นจึงทำให้การแสดงตัวเอกแบบที่ปรากฏในเกม Dragon Quest นั้นยากขึ้นตามไปด้วย และจะเป็นเรื่องท้าทายสำหรับในอนาคตด้วย คุณ Horii สรุป
แม้ว่าปัจจุบันประเด็นที่ตัวเอกเป็นใบ้ในเกม Dragon Quest นั้นจะเป็นเรื่องที่บางคนวิพากย์วิจารณ์ มองว่าเป็นจุดอ่อนที่ทำให้เกมดูล้าสมัย แต่ดูเหมือนว่าผู้สร้างอย่างคุณ Horii จะไม่ยอมให้เอกลักษณ์ดังกล่าวหายไปง่าย ๆ ก็ต้องดูว่าในอนาคตจะคงเอกลักษณ์นี้ต่อไป หรือมีการปรับตัวอย่างไรหากมองแล้วว่าได้ไม่คุ้มเสีย
แปลและเรียบเรียงจาก
Automaton Media
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station
