เมื่อเร็ว ๆ นี้คุณ Swen Vincke ซีอีโอของ Larian Studios ได้เผยเบื้องหลังการพัฒนาเกม Baldur’s Gate 3 ให้แฟน ๆ ได้รับรู้กันว่ากว่าจะสร้างเกมนี้เสร็จนั้นต้องพบเจอกับอะไรกันมาบ้าง โดยหนึ่งในปัญหานั้นเกิดขึ้นเนื่องจากสงครามระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครนนั่นเอง
โดยคุณ Vincke ได้เผยกับสื่อ Edge ว่าในช่วงปี 2022 หลังจากที่รัสเซียรุกรานประเทศยูเครน เขาต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือทีมพัฒนาที่ทำงานอยู่ที่ Larian Studio สาขานคร St Petersburg ของประเทศรัสเซียอย่างรวดเร็ว ซึ่งตอนนั้น Baldur’s Gate 3 พัฒนาไปได้ค่อนข้างไกลแล้ว แต่พอเจอเหตุการณ์นี้เข้า ทำให้ต้องปิดสตูดิโอเพื่อเตรียมรับมือกับ “สิ่งที่เขาคาดไว้แล้วว่าจะตามมา”
ในตอนนั้นคุณ Vincke ไม่ได้ตัดสินใจแค่ปิดสตูดิโอเพียงอย่างเดียว แต่ตัดสินใจด้วยว่าไม่สามารถอยู่ในรัสเซียต่อไปได้ ต้องรีบพาคนออกมาโดยด่วนเพราะดูจากสถานการณ์แล้ว แทบจะคาดการณ์ได้เลยว่าสุดท้ายจะต้องมีการระดมผล แปลว่าสมาชิกทีมพัฒนาของเขาทุกคนจะต้องถูกบังคับเกณฑ์ทหารเพื่อส่งไปทำสงครามอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีภารกิจด่วนในการอพยพย้ายนักพัฒนาออกมาโดยเร็วที่สุด บอกเลยว่าพนักงานของ Larian ต้องไป “ทะเลาะกับสถานทูตและสถานกงศุลต่าง ๆ” เพื่อให้เพื่อนร่วมงานออกนอกประเทศมาได้ ไม่ใช่เพื่อสวัสดิภาพของพวกเขาเองเท่านั้น แต่เพื่อให้ Baldur’s Gate 3 พัฒนาต่อไปอย่างราบรื่นไม่ติดขัดด้วย ต้องมีทีมงานพัฒนาต่อไปทุก ๆ วินาทีเท่าที่จะทำได้
“ในเกม RPG ที่มีความซับซ้อนราวกับเป็นเครื่องจักรนั้น แต่ละส่วนของเกมนั้นเชื่อมต่อถึงกันหมด ถ้าเกิดเอาส่วนใดส่วนหนึ่งออก ทั้งหมดอาจจะพังครืนลงมาได้ หากไม่ได้ทำในสิ่งที่ควรจะต้องทำ” คุณ Vincke กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้สุดท้ายจะสามารถย้ายทีมงานจากประเทศรัสเซียมาได้ถึง 90% แต่การปิดสตูดิโอก็ยังมีผลกระทบที่สะเทือนตามมาในภายหลังอยู่ดีแม้จะผ่านมาถึง 18 ปีเดือนแล้วก็ตาม ทำให้ต้องลดทอน หรีอตัดเนื้อหาบางส่วนในเกมเวอร์ชันที่วางขายออก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่เสมอในการพัฒนาเกม แต่การต้องเสียสตูดิโอไประหว่างการพัฒนาเกมนั้น ไม่ใช่เรื่องที่เจอกันได้ง่าย ๆ เลย
แปลและเรียบเรียงจาก
PC Gamer
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station