[พรีวิวเกม] Astro Bot – การคัมแบ็คของน้องหุ่นจิ๋วที่สนุกกว่าเก่า

แรกเริ่มเดิมที หากจะนึกถึงตัวละครที่เป็นระดับ Iconic ของแบรนด์ PlayStation ความคิดที่ผู้คนมักจะนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ ก็น่าจะมีเครโทส (God of War), โจล/เอลลี่ (The Last of Us) หรือเอลอย (Horizon) กันเป็นส่วนใหญ่นะครับ กระทั่งการมาของมาสค็อตตัวใหม่ที่ชื่อว่า แอสโทรบอต (Astro Bot) ที่ถือกำเนิดครั้งแรกในปี 2018 ด้วยภาพลักษณ์ชวนตะมุตะมิที่ทัชใจผู้เล่นได้ไม่ยาก พ่วงด้วยเกมเพลย์แนวแอ๊กชั่นกึ่งแพลตฟอร์มที่เข้าถึงผู้เล่นได้ง่าย ซึ่งได้รับความนิยมอย่างดีจนมีภาคต่อในปี 2020 รวมถึงภาคปี 2024 ที่กำลังจะวางขายในวันที่ 6 กันยายนนี้

วันก่อนทีมงาน Online Station มีโอกาสได้เข้าไปร่วมทดสอบเดโมของเกม Astro Bot ในรอบสื่อมวลชนมาหมาด ๆ ต้องบอกเลยว่าการที่ทาง PlayStation และ Team Asobi ที่เป็นผู้พัฒนาเกมนี้ให้สื่อได้ทดลองเล่นก่อนเกมวางขายถึง 2 เดือนเต็มก็พอจะบ่งบอกได้ว่าพวกเขาต้องมั่นใจกับคุณภาพของเกมอยู่ไม่น้อย โดยจะเด็ดจริงอย่างที่ว่ากันหรือไม่ มาชมกันได้กับบทความพรีวิว (แบบ Hands-on) นี้กันครับ

ผู้พัฒนา: Team Asobi
แพลตฟอร์ม: PS5
วางจำหน่าย: 6 กันยายน 2024
แนวเกม: แอ๊กชั่น / แพลตฟอร์ม

พล็อตเรื่องของ Astro Bot ภาคนี้จะกล่าวถึงเหล่าหุ่น Astro ที่กำลังเดินทางท่องอวกาศบนยานแม่ที่มีรูปทรงเป็นเครื่อง PS5 แต่แล้วยานก็ดันถูกโจมตีจากฝีมือศัตรูคู่แค้นในกาแล็กซี ทำให้ชิ้นส่วนของยานและพรรคพวกของ Astro กระเด็นกระดอน ลอยเคว้งไปตกลงบนดาวเคราะห์น้อยดวงต่าง ๆ ที่อยู่โดยรอบ เจ้า Astro เลยต้องกลับมาสวมบทฮีโร่คอยออกตามหาผองเพื่อนและชิ้นส่วนยานที่กระจัดกระจายกลับมา เพื่อฟื้นฟูสภาพยานกลับมาให้ได้อีกครั้ง

รูปแบบเกมเพลย์ของเกมยังคงเหมือน Astro’s Playroom ที่เป็นแนวแอ๊กชั่นกึ่งแพลตฟอร์ม มุมมองบุคคลที่ 3 ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Astro หุ่นตัวน้อยในชุดคล้ายนักบินอวกาศ โดยมีภารกิจสำคัญคือเดินทางไปยังบรรดาดาวเคราะห์น้อยต่าง ๆ ที่อยู่บนกาแล็กซี ซึ่งดาวแต่ละดวงก็จะมีฉากให้ผจญภัยเพื่อสำรวจพื้นที่ แน่นอนครับว่าดาวแทบจะทุกดวงล้วนมีศัตรูและกับดักนานาชนิดรออยู่ ทั้งนี้ ตัวเกมมีการแบ่งโลกออกเป็น 6 เวิลด์ ถ้ารวมด่านทั้งหมดจากทุกเวิลด์ก็จะมีกว่า 80 ด่านเลยทีเดียว

การออกแบบฉากทำออกมาได้หลากหลาย สภาพแวดล้อมในด่านมีลักษณะต่างกัน บางด่านมาในธีมภูเขาไฟ บางด่านก็มาในฟีลทุ่งหญ้า บ้างก็เป็นป่า หรือแนวสภาพอากาศระดับเอ็กซ์ตรีมเลยก็มี (เช่นภัยธรรมชาติ) ซึ่งเพื่อน ๆ ของเจ้า Astro ที่ติดอยู่ตามด่านต่าง ๆ บางตัวก็มีรูปลักษณ์เหมือนตัวละครระดับมาสค็อตจากเกมอื่น ๆ ของ PlayStation อาทิ Ratchet & Clank, God of War, Horizon หรือ Uncharted เป็นต้น คือเรียกได้ว่าใครที่คลุกคลีกับเกมฝั่งค่ายสีน้ำเงินบ่อย ๆ พอได้เห็นต้องร้องอ๋อ และอยากรู้ว่าทีมงานจะใส่ตัวละครมาสค็อตตัวไหนมาอีกบ้าง

ขณะเดียวกัน ตัวเกมมีการใช้ฟีเจอร์ของจอย DualSense บน PS5 แบบเต็มที่ และผู้เล่นจะได้ใช้งานทุกฟังก์ชั่นของจอยกันแบบคุ้มค่าจอยกันไปเลย นับตั้งแต่การบังคับด้วย Gyro ที่ต้องเอียงจอยเพื่อบังคับยานพาหนะ รวมถึงการใช้ทัชแพด ตลอดจนระบบ Haptic Feedback ที่จอยจะสั่นจริงตามทิศทางของวัตถุที่ตกกระทบ หรือแม้แต่เวลาเดินของ Astro ก็จะสั่นตามจังหวะฝีก้าว ไม่เว้นกระทั่งเสียงของเอฟเฟกต์ในเกมที่จะดังออกมาจากลำโพงบนจอยด้วย

เมื่อเล่นไปถึงช่วงกลาง ๆ ของแต่ละด่าน ผู้เล่นจะพบกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ติดตั้งเหมือนเป้สะพายหลัง ซึ่งอุปกรณ์ที่ว่านี้จะเพิ่มทักษะความสามารถให้แก่ Astro ในการเอาตัวรอดหรือไขปริศนาประจำด่านนั้น ๆ โดยทุกด่านที่ทีมงานได้ลองเล่นบนเดโมไป ต้องบอกว่ามีอุปกรณ์ให้ใช้ไม่ซ้ำกันเลย ด่านหนึ่งก็อุปกรณ์อย่างหนึ่ง และให้ฟีลการผจญภัยที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

อย่างไรก็ดี โครงสร้างของเกมจะเป็นลักษณะแบบ Die and Retry กล่าวคือเมื่อผู้เล่นตายก็จะได้เริ่มใหม่ใกล้กับบริเวณที่ตายเพื่อแก้ตัว (เว้นแต่ถ้าด่านนั้นสั้นก็จะให้เริ่มใหม่ต้นฉากแทน) ด้วยเหตุนี้ เวลาพลาดตายขึ้นมาแต่ละครั้ง ผู้เล่นจะเรียนรู้และจำแพทเทิร์นของด่านเพื่อลุยครั้งใหม่โดยพยายามไม่ก่อความผิดพลาดซ้ำเดิมอีก เกมมีความยากระดับพอดี ไม่ยากจนหัวร้อนปาจอย ทว่าก็ไม่ง่ายจนรู้สึกว่าขาดความท้าทายแต่อย่างใด

ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Astro Bot ภาคนี้รองรับซับไตเติลและเมนูคำสั่งต่าง ๆ ในเกมเป็นภาษาไทยทั้งหมด ซึ่งโดยทั่วไปคำสั่งต่าง ๆ ในเกมนี้จะใช้ศัพท์ที่เข้าใจง่าย และอธิบายด้วยคำพื้น ๆ อีกทั้งตัว Astro Bot เองก็ไม่มีบทพูดอยู่แล้ว ลำพังอาศัยความน่ารักปนฮาก็สามารถสะกดผู้เล่นได้อยู่หมัด โดยเมื่อผสมผสานกับความเข้าถึงง่ายของเกมเพลย์ ความยากที่อยู่ในระดับไม่ยากไม่ง่ายจนเกินไป ตลอดจนความเป็น Iconic คนใหม่ที่ฝากความหวังและเป็นหน้าเป็นตาให้กับ PlayStation ได้อีกนาน ใครกำลังมองหาเกมแอ๊กชั่นที่สนุก มันส์ได้ทุกเพศทุกวัย เล่นเอาเพลิน ๆ เปื้อนรอยยิ้มตลอดการเล่น เกมนี้น่าจะตอบโจทย์เพื่อน ๆ ช่วงปลายปีได้แน่นอนครับ