Shin Megami Tensei นับเป็นชื่อของซีรีส์เกม RPG ดั้งเดิมของค่าย Atlus ที่มีประวัติอยู่คู่วงการเกมมาช้านาน ผ่านการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวมาหลายยุคหลายสมัย มีภาคย่อยอย่าง Persona ที่ประสบความสำเร็จจนยืนหยัดด้วยลำแข้งของตัวเองได้ ส่วนหนึ่งก็ต้องมอบเครดิตให้กับรากฐานอันแข็งแรงของ Shin Megami Tensei ด้วยเช่นกัน และแม้จะเป็นเช่นนั้น ชื่อของ Shin Megami Tensei ก็ยังคงไม่หายไปไหน มันยังเป็นซีรีส์ที่มีฐานแฟนๆ เหนียวแน่นมั่นคง พวกเขายังคงชื่นชอบระบบ RPG แบบดั้งเดิมคลาสสิค และรอคอยจะเล่นภาคใหม่ของเกมสุดที่รักของพวกเขาอยู่เสมอ
กับภาคล่าสุดอย่าง Shin Megami Tensei V ก็นับว่าตัวเกมประสบความสำเร็จไม่เบาครับ แม้จะเปิดตัวไปในปี 2021 และลงให้กับ Nintendo Switch เพียงเครื่องเดียว ทว่าตัวเกมก็ยังขายได้เกิน 1 ล้านชุดทั่วโลก พร้อมบทรีวิวที่ยอดเยี่ยม (84 คะแนนจาก 103 สื่อฯ บน Metacritic) อันยืนยันได้ถึงมาตรฐานและคุณภาพที่สูงของซีรีส์ได้เป็นอย่างดี
มาในปี 2024 นี้ Shin Megami Tensei V กลับมาอีกครั้ง และได้มีการปล่อยตัวเกมไปเป็นที่เรียบร้อย ในชื่อ Shin Megami Tensei V: Vengeance แม้หลายคนอาจจะมองว่ามันก็น่าจะเป็นเวอร์ชั่นรวมส่วนเสริมแล้วมาขายใหม่นั่นแหละ แต่มันกลับเต็มไปด้วยความเซอร์ไพรซ์เพราะทีมพัฒนาใส่ของใหม่อัดสเตียรอยด์ให้เกมแบบเป็นกระบุงโกย ไม่ว่าจะตัวละคร ระบบ หรือเนื้อเรื่องที่ฉีกออกไปเลย สำคัญที่สุดคือการลงให้กับคอนโซลเจนปัจจุบันอย่าง PS5 และ Steam ด้วย ก็เป็นประหนึ่งการปลดล็อดศักยภาพตัวมันเองจากเกมที่ดีอยู่แล้ว ให้กลายเป็นหนึ่งในชิ้นงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ Atlus ไปโดยปริยาย
แต่กับเครื่องดื่มใหม่ในขวดเก่าแบบนี้มันจะน่าสนใจสักแค่ไหน เดี๋ยวสรุปให้ฟังครับ
สู่เรื่องราวแห่งการล้างแค้น
“ดวงวิญญาณของเด็กสาวผู้นี้ไม่ถูกอนุญาตให้ถือกำเนิด หยุดมือของเจ้าเอาไว้ การช่วยเธอจะนำพาโลกนี้ไปสู่ชะตากรรมที่ไม่อาจหยั่งถึง เมื่อรู้แบบนี้แล้ว เจ้าจะทำอย่างไรล่ะ?”
คำว่า Vengeance ที่ถูกเติมเข้ามาหลังตัว V ที่หมายถึงลำดับที่ 5 ของเกมนั้นมันไม่ได้เป็นการตั้งชื่อเล่นๆ แต่หมายถึงภาพรวมของเกมเวอร์ชั่นใหม่นี้จริงๆ เพราะตั้งแต่เริ่มเกมผู้เล่นจะได้เลือกก่อนเลยว่าจะก้าวเข้าสู่ Canon of Creation อันเป็นเนื้อเรื่องของตัวเกมฉบับดั้งเดิม ซึ่งผู้เล่นจะได้รับอรรถรสความเป็น Shin Megami Tensei V และสิ่งที่ตัวเกมภาคหลักพยายามนำเสนออย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
หรืออีกทางหนึ่ง Canon of Vengeance เมื่อผู้เล่นเลือกช่วยดวงวิญญาณเด็กสาวในตอนต้น ผู้เล่นจะก้าวเข้าสู่เนื้อเรื่องใหม่ของภาคนี้โดยเฉพาะ ซึ่งโครงเรื่องอาจจะคล้ายๆ เดิม แต่มันมีสิ่งเพิ่มเติมเข้ามาอีกมาก ตัวแปรมากมายถูกเพิ่มเข้ามาจนเนื้อเรื่องดั้งเดิมกลายเป็นเพียงเค้าโครง นี่คือรสชาติที่ควรค่าแก่การลิ้มลอง เมื่อสิ่งที่เคยเห็นและเป็นไปมันถูกบิดเบือน เรื่องราวคาดไม่ถึงมากมายประดังประเด “เมื่อเจ้าเลือกช่วยเธอแล้ว โลกจะถูกพาไปทางไหนไม่อาจมีใครรับรู้ หวังว่าเจ้าจะหาทางพามันกลับสู่ทางที่ถูกที่ควรได้” และนั่นคือสิ่งที่ตัวเราให้ฐานะผู้เล่นจะต้องเผชิญในภาคนี้ครับ
ตัวละครใหม่ปริศนาพาเกมไปสู่ความเซอร์ไพรซ์
สิ่งที่ถูกโปรโมตอย่างโดดเด่นในภาค Vengeance นอกจากเนื้อเรื่องที่บิดไปจากเดิมแล้ว ก็คือการมาของตัวละครใหม่อย่าง Yoko Hiromine เด็กสาวตัวละครจากต่างโรงเรียน (พากย์โดย จิวะ ไซโตะ) ซึ่งหากเทียบกับซีรีส์ญาติสนิทอย่าง Persona 5 Royal ที่ตัวละครใหม่จะเริ่มมีผลกับช่วงกลางๆ เกมเป็นต้นไปแล้ว ตัวละคร Yoko ของเกมนี้จะโผล่มามีผลกับเนื้อเรื่องตั้งแต่ไก่โห่ และผู้เล่นจะรู้สึกถึงบรรยากาศที่ไม่อาจคาดเดาได้ตั้งแต่ต้นเรื่อง ทำให้ผู้ที่เคยเล่นเนื้อเรื่องหลักมาก่อนรู้สึกถึงความสดใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ คาแรคเตอร์พูดจาเชือดเฉือนขวานผ่าซาก คิดอะไรก็พูด ไม่มีความโลกสวยแต่ก็ไม่ใจจืดใจดำเกินไปของเธอ ก็ยังคอนทราสต์กับตัวเอกหลักที่เงียบทั้งเกมได้อย่างดี เวลาส่วนใหญ่ที่ทั้งคู่จะได้ออกลุยด้วยกันมันจึงเป็นมวลบรรยากาศอีกรูปแบบหนึ่งที่ต่างไปจากเกมภาคหลักและมันสร้างสีสันได้อย่างดี ทั้งนี้เพราะเป็นตัวละครปริศนาเยอะ แม้จะสนุกสนานที่ได้เธอเข้ามาลุยในปาร์ตี้ แต่ก็จะมีความระแวงตลอดว่าเธอจะออกลายตอนไหนนะหรือว่าจะเป็นเพื่อนร่วมรบไปจนจบเกมกันแน่ ไอ้ความลุ้นแบบนี้อยากให้ไปสัมผัสกันจริงๆ ในเกมครับ
และนอกจาก Yoko แล้ว ยังมีศัตรูกลุ่มใหม่ที่เรียกตัวเองว่า Qadištu ที่โผล่มาสร้างความปั่นป่วนให้กับเรื่องราวตั้งแต่ต้นเกมเช่นกัน กลุ่มนี้เป็นปีศาจที่มีดีไซน์เซ็กซี่ทีเดียวครับ แถมมุมกล้องตอนเปิดตัวแต่ละตนนี่ก็จงใจเน้นส่วนสัดชัดๆ เป็นอีกหนึ่งสีสันที่ทำให้เกมคาดเดาไม่ถูกและเข้มข้นขึ้นอย่างไม่อาจปฏิเสธได้จริงๆ
ระบบเกมยกระดับปรับปรุงใหม่
Shin Megami Tensei V แม้จะเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมแต่เดิมอยู่แล้ว แต่ในมุมหนึ่งมันก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเกมที่มีความยาก และฮาร์ดคอร์อยู่พอตัว พอมาภาค Vengeance นอกจากเนื้อเรื่องกับตัวละครใหม่ๆ แล้ว ตัวเกมยังมีการเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้สมกับที่ขายแบบเป็น Definitive Version อีกด้วย
ซึ่งในภาพรวมมันทำให้เกมเข้าถึงได้ง่ายและมีความเป็นมิตรกับผู้เล่นมากขึ้น โดยที่ไม่ไปลดทอนความท้าทายอันเปรียบประหนึ่งสเน่ห์ของเกมมากนัก (อนี่ง ตัวเกมมี 3 ระดับความยากให้เลือกอยู่แล้ว) อย่างเช่นเกจ Magatsuhi Skills ที่หากเต็มปุ๊บก็จะสามารถใช้ท่าพิเศษได้ มีให้เลือกใช้หลากหลายทีเดียวในเกม หรืออย่าง Innate Skills ซึ่งเป็นความสามารถเฉพาะของปีศาจชนิดต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มกลยุทธการต่อสู้ให้มากขึ้น หรือพวกตัวช่วยในการเดินทางก็จะมี Magatsu Rails ที่จะทำให้ผู้เล่นเดินทางข้ามแมปได้สะดวกขึ้น ขณะที่ภาคนี้ผู้เล่นสามารถผสมปีศาจได้จาก Compendium ได้แล้วโดยที่ไม่ต้องเรียกแต่ละตัวออกมาก่อนให้เสียเวลา สะดวกขึ้นมากๆ
ยังมีสิ่งที่ถูกเพิ่มและปรับปรุงอีกมากมายไม่ว่าจะปีศาจใหม่, ดันเจี้ยนใหม่, เอาตัวละคร Guest มาเล่นได้แล้ว ฯลฯ ในภาพรวมคือ Vengeance ยกระดับ Quality of Life ของเกมเดิมขึ้นแบบแทบจะเป็นคนละเกมไปแล้ว มันเป็นมิตรกับผู้เล่นขึ้นมาก เล่นได้สนุกขึ้นเยอะ แต่ก็ไม่ทิ้งความท้าทายที่มีอยู่ไป เห็นได้ชัดเลยว่าทีมพัฒนาพยายามอย่างมากที่จะให้เกมได้ปรับตัวตามยุคสมัย ใส่ใจและละเอียดละออแม้กับส่วนเล็กๆ ของเกม ที่สำคัญคือไม่ว่าจะเล่น Canon of Creation หรือ Canon of Vengeance ก็ล้วนแล้วแต่จะได้รับฟีเจอร์ปรับปรุงใหม่นี้ไปทั้งหมด ยอดเยี่ยมจริงๆ
ภาพคมชัดเฟรมเรตไหลลื่นบนคอนโซลเจนปัจจุบันและ Steam
Shin Megami Tensei V ภาคดั้งเดิมนั้นวางจำหน่ายให้กับ Nintendo Switch เพียงเครื่องเดียว พอมาเป็นภาค Vengeance ที่เรียกได้ว่าภาคสมบูรณ์พร้อมการยกเครื่องระบบครั้งใหญ่ รอบนี้ก็เลยวางจำหน่ายบนเครื่องเล่นเกมแทบทุกระบบเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น Nintendo Switch, PS5/PS4, Xbox One, Xbox Series X/S และ Steam
จุดสำคัญคือการลงให้กับคอนโซลเจนปัจจุบัน และ Steam ซึ่งมันเหมือนกับว่าได้ไปปลดล็อคศักยภาพของมันให้กลายเป็นร่างทองไปเลย เพราะนอกเหนือจากการพอร์ตที่เนี๊ยบนิ๊งแทบจะไร้ที่ติและ Polish เอามากๆ แล้ว ภาพของเกมยังคมชัดแบบสุดๆ และมาพร้อมกับเฟรมเรตแบบ Unlimited ที่ทำให้เกมสามารถถ่ายทอดความอลังการ ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร ได้เด่นชัดกว่าเดิม โดยเฉพาะบน Steam ที่เครื่องไม่ต้องแรงมากก็เล่น Full HD แบบลื่นๆ ได้แล้ว นอกจากนี้ใครที่มี Steam Deck หรือ Hand Held PC ก็สามารถเล่นเกมนี้ได้ในคุณภาพลื่นไหลน่าพอใจเช่นกันครับ สนุกกันได้ทุกที่แหละทีนี้
ไม่ใช่แค่ Definitive Edition ธรรมดาๆ
ขณะเดียวกัน Shin Megami Tensei V: Vengeance ก็ก้าวข้ามทุกๆ เกมที่ผ่านมาในแง่ของการเป็นเกม Definitive Edition แม้แต่เกมหนึ่งในเกม RPG ที่ดีที่สุดในยุคนี้อย่าง Persona 5 Royal เพราะเนื้อหาที่เติมเข้าไปไม่ใช่แค่ส่วนเสริม แต่มันคือการเข้าแทรกแซงและแก้โครงเรื่องใหม่แทบจะทั้งหมด จนกลายเป็นอีกหนึ่งเส้นทางแยกที่แม้บางคนอาจอยู่กับเกมหลักมาเป็น 100 ชั่วโมง ก็ยังสามารถพบความสดใหม่ในภาค Vengeance ได้อย่างไม่ยากไม่เย็น
และด้วยการยกระดับระบบเกมและฟีเจอร์แบบทั้งกระดานจนพาเกมไปสู่อีกระดับ ก็ทำให้ไม่ว่าจะผู้เล่นใหม่หรือผู้เล่นเก่าสามารถกลับมาสนุกสนานกับมันได้อีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่คือโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ไม่เคยสัมผัสกับ Shin Megami Tensei V ภาคหลักมาก่อน เพราะคุณจะเหมือนได้ 2 เกมในแพ็คเดียวด้วยราคาที่ไม่ต่างจากเดิม แถมยังเล่นบน Steam ได้แล้วพร้อมภาพคมชัดและเฟรมเรตที่ลื่นไหล ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ร่วมสัมผัสหนึ่งในสุดยอดเกม RPG แห่งปีในแบบที่สมบูรณ์ที่สุดได้แล้ววันนี้บน Nintendo Switch, PS5/PS4, Xbox One, Xbox Series X/S และ Steam ครับ
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station