เป็นเวลาประมาณ 6 ปีแล้วนะครับนับตั้งแต่ที่เกม Soul Calibur 6 ซึ่งเป็นภาคล่าสุดของซีรีส์นี้วางจำหน่าย จากนั้นมาแฟนเกมก็ไม่ได้เห็นภาคต่อออกมาอีกเลย และดูเหมือนทาง Bandai Namco เองก็จะมุ่งให้ความสำคัญกับซีรีส์ Tekken ที่ได้รับความนิยมมากกว่า ทำเอาแฟนเกมจำนวนมากรู้สึกหวั่นว่าซีรีส์ Soul Calibur จะถึงทางตันแล้วหรือยัง โดยประเด็นที่เกิดขึ้นนี้ คุณคัตสึฮิโระ ฮาราดะ (Katsuhiro Harada) โปรดิวเซอร์มือฉมังของเกมซีรีส์ Tekken ก็ได้ออกมาเผยถึงเหตุผลและปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลกระทบกับชะตากรรมของเกม Soul Calibur ไว้ดังนี้ครับ
เริ่มแรก คุณฮาราดะทำการตอบทวิตของยูสเซอร์รายหนึ่งบน X ที่อ้างว่าถ้าคุณฮาราดะได้มาเป็นผู้กำกับให้กับเกม Soul Calibur 2 ยอดขายของเกมและซีรีส์นี้ก็คงโตวันโตคืน พร้อมทั้งบอกว่าเมคานิกในเกมภาคเก่า ๆ ที่โดนโละทิ้งไปก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ซีรีส์นี้ค่อย ๆ ทรุดลงเรื่อย ๆ แต่คุณฮาราดะยืนยันว่าสิ่งที่ทำให้เกมซีรีส์ดังกล่าวไปต่อไม่ไหวนั้นมีปัจจัยอื่นที่นอกเหนือจากเรื่องเมคานิก โดยมุ่งเป้าไปที่การจากไปของบรรดาทีมงานคนสำคัญ อีกทั้งการปรับโครงสร้างภายในองค์กรของ Bandai Namco เองด้วย และเมื่อมีการปรับผังองค์กรขนานใหญ่ ทิศทางและการตัดสินใจต่าง ๆ ก็เลยต้องเปลี่ยนแปลงไปหมด
คุณฮาราดะกล่าวเสริมว่า ซีรีส์ Soul Calibur เคยมีคนเป็นหัวเรือที่เก่ง และบรรดาทีมงานในนั้นก็ล้วนเปี่ยมไปด้วยฝีมือ ซึ่งแต่ก่อนทีมงาน Tekken กับ Soul Calibur ถือว่าเป็นคู่แข่งภายในองค์กรที่ต้องขยันทำผลงานมาประชันกันเพื่อไม่ให้น้อยหน้าอีกฝ่าย ขณะเดียวกัน โปรเจกต์การทำทั้งสองเกมมีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกัน รวมถึงนโยบายการพัฒนาที่ไม่เหมือนกัน และมองต่างกันในเรื่องของแบรนด์ที่ตนเองทำ แต่ทั้งสองทีมก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดชังอะไรกัน
ต่อมาเมื่อตลาดเกมไฟท์ติ้งได้เปลี่ยนผ่านจากตู้เกมอาร์เคดมาสู่เครื่องเกมคอนโซล โดย Soul Calibur ณ ตอนนั้นทำยอดขายได้ดีกว่า Tekken ในฝั่งทวีปอเมริกาเหนือ ขณะที่ Tekken ทำยอดขายได้ดีตอนมาลงคอนโซล แต่หลังจากเวลาผ่านไป ผู้พัฒนาเกมที่อยู่มานานก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ ซึ่งความก้าวหน้าในองค์กรก็ต้องแลกมากับการที่ตนเองต้องถูกโยกไปทำงานอย่างอื่น แทนที่จะได้อยู่คุมโปรเจกต์พัฒนาเกมของตัวเอง และสิ่งที่เกิดขึ้นมันได้ส่งผลลบกับทีมงาน Soul Calibur อย่างเลี่ยงไม่ได้ พอผนวกกับประเด็นการปรับโครงสร้างองค์กรด้วย เกมซีรีส์นี้ก็เลยถูกพับเก็บไปอย่างไม่มีกำหนดในที่สุด
เรียกว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายไม่น้อยครับกับซีรีส์ที่เคยรุ่งเรืองในยุคปลาย 90 – กลางทศวรรษ 2000 อาจจะต้องพึ่งปาฏิหาริย์อย่างเดียวแล้วหากจะหวังให้ Bandai Namco กลับมาปัดฝั่นใหม่อีกครั้ง
แปลและเรียบเรียงจาก
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station
