หากเราพูดถึงเรื่อง Microtransaction หรือการเปย์ซื้อของในเกมกับชาวญี่ปุ่น หลายคนอาจจะมองว่าเป็นนักเปย์กระเป๋าหนักที่มักทุ่มให้กับเกมที่เล่นแบบไม่อั้น ทว่ารายงานวิเคราะห์ของ The Nikkei ชี้ว่าการเปย์ซื้อของในเกมภายในญี่ปุ่นนั้นลดลงเป็นปีที่สามแล้ว เหลือ 80% ของช่วงปี 2019 ซึ่งแนวโน้มนี้อาจทำให้ในอนาคตวงการเกมมือถือต้องมีการเปลี่ยนแปลงตาม
รายงานของ The Nikkei นั้นได้วิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานบัตรเครดิตในปี 2023 โดยเปรียบเทียบผลการทำงานช่วงก่อนและหลังโรคโควิด-19 ระบาดใน 85 อุตสาหกรรม พบว่าการใช้จ่ายตลาดเกมมือถือนั้นลดลงอย่างต่อเนื่องเรื่อย ๆ แม้กระทั่งในช่วงปี 2021-2022 ที่โรคโควิด-19 ระบาดหนักที่สุด (ซึ่งเป็นช่วงยุคทองของอุตสาหกรรมเกมญี่ปุ่นด้วย) ก็ยังทำกำไรได้ไม่ดีเท่ากับที่เคยทำไว้สูงสุดช่วงปี 2019
ทั้งนี้ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเกมญี่ปุ่นตั้งข้อสังเกตว่าผู้พัฒนาเกมมือถือหรือเกมแนวสุ่มกาฉะทั้งหลายนั้นกำลังประกับความยากลำบากในการเปลี่ยนไปพัฒนาเกม PC หรือคอนโซลแทน ขณะที่ The Nikkei ชี้ว่ายิ่งโทรศัพท์มือถือและเครื่องมือพกพามีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่าไหร่ ผู้ใช้ก็เริ่มมีความคาดหวังต่อเกมมือถือมากขึ้นด้วย ทำให้ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาสูงขึ้นและใช้เวลาในการพัฒนาเกมนานยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้ผู้พัฒนาไม่สามารถสร้างเนื้อหาป้อนให้กับเกมได้บ่อย ๆ เหมือนแต่ก่อน จึงขายของได้น้อยลง
อย่างไรก็ตามเกมที่ยังประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องนั้นดูเหมือนจะเป็นเกมที่ลงทุนกับ Production Value สูง ๆ ทำให้มีกลุ่มผู้เล่นทั่วโลกมากพอที่จะทำรายได้ให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในการพัฒนาที่สูง เช่น Genshin Impact ของค่าย miHoYo เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้จึงมีเกมเมอร์บางกลุ่มที่ตั้งความหวัง อยากให้มีเกมมือถือแบบที่จ่ายเงินซื้อครั้งเดียว ไม่ต้องเปย์อย่างต่อเนื่อง เช่น Resident Evil 4 Remake ให้มากขึ้นเหมือนแต่ก่อน แต่ก็อาจจะยากซักหน่อย เพราะแอปสโตร์มีนโยบายใหม่ที่ไม่เอื้ออำนวยให้กับเกมประเภทนี้ที่ เช่น บังคับให้ต้องมีการ Maintenance แอปอยู่เรื่อย ๆ เป็นต้น
แปลและเรียบเรียงจาก
Automaton Media
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station
