เปิดประเด็น Sweet Baby Inc เบื้องหลังดราม่า Woke ในวงการเกม!

เปิดประเด็น Sweet Baby Inc เบื้องหลังดราม่า Woke ในวงการเกม ที่งานนี้ ทั้งเกมเมอร์ ผู้พัฒนา ครีเอเตอร์ รวมไปถึงสื่อต่าง ๆ ก็ออกมาเคลื่อนไหว บริษัทนี้คือบริษัทอะไร มีบทบาทอย่างไรเกี่ยวกับวงการเกม และเป็นต้นตอของความ Woke ที่พาให้หลายเกมพังพินาศจริงๆ หรือไม่ วันนี้พวกเราทางทีมงาน Online Station จะมาหาคำตอบ พร้อมกับชวนคุยในประเด็นนี้กันครับ

ก่อนจะเข้าประเด็น ต้องรู้จักกับบริษัทนี้ก่อน

บริษัท Sweet Baby Inc นั้นก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2018 ในเว็บไซต์ของบริษัทระบุว่า เป็นสตูดิโอที่พัฒนาและให้คำปรึกษาด้านวิธีการเล่าเนื้อเรื่อง มีสำนักงานอยู่ในมอนทรีออล ประเทศแคนาดา รวมถึงทีมงานคนอื่นที่มีอยู่ทั่วโลก พันธกิจของบริษัทคือทำให้การบอกเล่าเรื่องราวดีกว่าด้วย รวมถึงมีความเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็สร้างความหลากหลายและเพิ่มคุณค่าให้กับอุตสาหกรรมเกม เรามุ่งมั่นที่จะทำให้เกมมีความน่าดึงดูด สนุก และมีความหมายมากขึ้น และเข้าถึงผู้คนได้ในทุกระดับ

ผู้ก่อตั้งมีชื่อว่า Kim Beliar อดีตมือเขียนบทที่ผ่านงานในบริษัทเกมยักษ์ใหญ่มาแล้วมากมาย ทั้ง EA และ Ubisoft ใน Linkedin ของเธอ ยังระบุอีกด้วยว่า มีส่วนช่วยในการเขียนบทให้กับเกม AC: Vahalla

มีค่ายเกมหรือผู้พัฒนาทีมไหนบ้างที่เป็นลูกค้าของ Sweet Baby Inc

ในเว็บไซต์ของบริษัท มีการระบุถึงผลงานเกมที่ทางบริษัท “อ้างว่า” มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งจะมากจะน้อยไม่อาจทราบได้ มีเกมและค่ายใดบ้างที่เป็นผลงานของบริษัทนี้ โดยจะเห็นได้ว่ามีทั้งเกมดัง ค่ายเกมที่รู้จักอยู่เพียบ แถมบางเกมก็ได้รางวัลในงานประกาศรางวัลมาเสียด้วย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่อยากให้ทุกคนคิดว่า Sweet Baby Inc จะมีส่วนร่วมเยอะแยะมากมายกับเกมเหล่านั้น แสดงว่าบริษัทนี้มีดีจริง หรือในอีกแง่ก็คือ ให้คำปรึกษาดี ในเรื่องของการเขียนบทเกมรวมถึงการปรับปรุงเนื้อหาของเกมให้ดีก่อนออกวางจำหน่าย แต่แน่นอนว่าบางเกมเองก็เละเทะเจ๊งไม่เป็นท่า อย่างเช่น Suicide Squad ซึ่งเป็นหนึ่งในเกมที่เป็นประเด็นหลักที่ทำให้เกมเมอร์ไม่พอใจ

สำหรับ Suicide Squad ตกเป็นประเด็นอย่างมากสำหรับ Sweet Baby Inc เนื่องจากคุณภาพของตัวเกมที่ห่วยแตก รวมไปถึงการที่ Rocksteady ผู้พัฒนาระบุว่าตัวเกมภาคนี้จะเป็นจักรวาลเดียวกับ Batman Arkham ไตรภาค และเป็นภาคสุดท้ายที่ Kevin Conroy นักพากย์ Batman ผู้ล่วงลับฝากเอาไว้ แต่บทของแบทแมนในภาคนี้ถูกเอามาปู้ยี่ปู้ยำจนไม่มีชิ้นดี ซึ่งทาง IGN ได้ลงบทความวิจารณ์เอาไว้อย่างดุเดือด ซึ่งในตอนแรก กระแสก็ตีกลับเพราะหลายคนมองว่า IGN ไม่ให้เกียรติผู้เสียชีวิต แต่ก็มีทีมงานคนหนึ่งซึ่งอ้างว่าเธอทำงานร่วมกับคุณ Kevin ได้ทำการตอกกลับ IGN ไว้

โดยเธอระบุว่า Kevin นั้นเป็นเพื่อนร่วมงานกับเธอมาหลายปี และอยากจะให้นักข่าวของ IGN คนนี้รับรู้ไว้ซะด้วยว่า การเอาสิ่้งสุดท้ายที่ Kevin ฝากไว้มาเป็นชนวนแห่งความเกลียดชังนั้นมันไม่ดี และเขาเองก็บอกกับเราว่าไม่จำเป็นที่จะต้องสนใจคนแปลกหน้าว่าเราจะทำอย่างไร ซึ่งทวิตของเธอ มีคนเห็นเยอะมาก คอมเม้นตอนนี้ไหลไปแล้ว 700 กว่าคอมเม้น และสาเหตุที่คอมเม้นไหลยาวขนาดนี้ ก็เพราะว่าเธอเป็นหนึ่งในทีมงานของ Sweet Baby Inc รวมไปถึงตัวเกมมันไม่มีคุณภาพจริงๆ ถ้าเทียบกับราคา และยอดขายเองก็ไม่ได้ดีจนทาง WB ยังต้องออกมายอมรับ

ทำไม ถึงต้องจ้าง Sweet Baby Inc

หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า แล้วทำไม ถึงต้องมีการจ้างบริษัทประเภทนี้ เพื่อปรับบท หรือเพิ่มตัวละคร หรืออะไรก็ตามให้เกมมันมีความหลากหลาย หรือมีความ Woke มากยิ่งขึ้น ก็ต้องบอกว่าปัจจุบัน ทุนในการสร้างเกมนั้นมีมูลค่าสูงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากเทียบกับราคาขาย ค่ายเล็กค่ายใหญ่เลยจำใจต้องปรับหรือเพิ่มอะไรแบบนี้เข้ามาเพื่อ “ขอทุน” กับบริษัทกองทุนหรือเกี่ยวกับด้านการลงทุนใหญ่ ๆ อย่างเช่น Vanguard (ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ Apple) และ Blackrock (ถือหุ้น Apple รองลงมา แต่เป็นบริษัทจัดการลงทุนที่ใหญ่สุดในโลก) เพราะฉะนั้นสองบริษัทนี้เคลื่อนไหวอะไร โลกการลุงทุนก็จะหมุนตาม

หลัก ๆ แล้วเงื่อนไขในการขอทุนนั้น องค์กรที่ดี (ตามที่ Vanguard และ Blackrock ต้องการ) มักจะต้องมีดัชนี DEI (Diversity, Equity and Inclusion) หรือ ความหลากหลาย ความเสมอภาคและการมีส่วนร่วมที่โอเค รวมไปถึงต้องผ่านการประเมิน ESG ตามมาตรฐาน “ทุนนิยมแบบใส่ใจสังคม” โดยจะมุ่งเน้นในเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เรียกย่อว่า ESG (Environment, Social and Governance) นั่นเอง ซึ่งในตอนนี้นักพัฒนาเกม รวมไปถึงบุคคลที่ทำงานในอุตสาหกรรมหลายคน ก็ออกมาคุยถึงประเด็น DEI และ ESG ที่ส่งผลกระทบต่อวงการเกม

สงครามปะทุ การโต้กลับของเกมเมอร์ (บางส่วน)

เมื่อตัวตนของบริษัท SBI เป็นที่รู้จักมากขึ้น เกมเมอร์จำนวนไม่น้อยก็เลยพยายามขุดคุ้ยกันยกใหญ่ ว่ามันคือบริษัทอะไร มีหน้าที่อะไร รวมไปถึงมีเกมเมอร์บราซิลคนหนึ่งนามว่า KabrutusRambo ได้ตั้งกลุ่ม Curator (นักวิจารณ์) ขึ้นมาใน Steam โดยใช้ชื่อว่า Sweet Baby Inc detected และในปัจจุบันมีคนติดตาม Curator นี้แล้วเกือบ 3 แสนคน บรรดาเกมที่ทางคอมมูนี้ค้นพบว่าถ้าเกมนั้น ๆ มีส่วนเกี่ยวข้องกับ SBI จะมากหรือจะน้อย จะถูกจั่วหัวรีวิวว่า “ไม่แนะนำ” ไว้โดยทันที และตอนนี้ก็มีหลายเกมที่ยังไม่วางจำหน่าย โดนจั่วหัวไปพอสมควร หลาย ๆ เกมที่รีวิวเคยดี ตอนนี้โดนถล่มรีวิวแง่ลบใส่

โดยวัตถุประสงค์ก็คือ “เพื่อติดตามเกมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Sweet Baby Inc” ซึ่งการที่คนมาเยอะขนาดนี้ น่าจะเกิดจากพนักงานของ SBI รายหนึ่งที่มีชื่อว่า Chris Kindred นั้นออกมาโพสแขวนประจาน และพยายามเรียกร้องให้มา Report คอมมูนี้ทิ้ง แต่สุดท้ายกลายเป็นไฟลามทุ่ง เป็นการวอร์กันไปมา แถมยังมีการด่าคนที่ติดตามกลุ่มนี้ด้วยว่าเป็นการกระทำของพวกนาซี เรียกได้ว่าเว็บไซต์ไหนลงข้อมูล Credit เกมต่าง ๆ ไว้ว่ามี SBI เกี่ยวข้อง จะโดนกลุ่มนี้จับมาแขวนประจาน และถล่มรีวิวกันเละเทะ

นาย Chris Kindred คนนี้ นอกจากจะออกมาจุดประเด็นของกลุ่ม Curator จนทำให้โด่งดังมากขึ้นแล้ว เจ้าตัวยังเคยราดน้ำมันลงกองเพลิงด้วยการโพสถึง อ.อากิระ โทริยาม่าในวันที่ 7 มีนาคมว่า “โทริยาม่าสร้างตัวละครผิวดำที่ทั้งดี และ แย่ที่สุดในซีรี่ส์เดียวกัน ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำแบบนั้น”

ซึ่งคนที่มาเม้นส่วนใหญ่ก็คิดไปถึง Mr.Popo เพราะเป็นตัวละครที่เป็นประเด็น เคยถูกช่อง 4kids ของอเมริกานำมาเปลี่ยนสีตัวเป็น Blue Popo มาแล้ว แน่นอนว่าพี่แกโดนทัวร์ลงจนตั้งค่า Account เป็นส่วนตัวไปแล้ว ณ ปัจจุบัน

คนดัง/สื่อ ออกมาเคลื่อนไหว

ประเด็นของ SBI ในตอนนี้ถือว่ากว้างขวางมากในคอมมูคนเล่นเกม นอกจากสื่ออย่าง Kotaku แล้ว อีกคนหนึ่งก็คือ Admongold ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามกว่า 2.45 ล้านคนที่ออกมาติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งแน่นอนว่าแกก็วิจารณ์เรื่องนี้อย่างดุเดือด ทั้งบทความของ Kotaku ที่ออกมาปกป้อง SBI ว่า บริษัทเดียวไม่มีทางผลักดันความหลากหลายของทุก ๆ เกมในวงการได้ (ซึ่งก็น่าจะจริง) แต่คนที่เขียนบทความนั้นของ Kotaku ก็ถูกขุดคุยการโพส การคอมเม้น รวมไปถึงบทความเก่า ๆ ที่ทำให้เกมเมอร์ไม่เชื่อหรือรังเกียจมากกว่าเดิม

แถมพี่แกยังพยายามรวบรวมรายชื่อบริษัทหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับ SBI มาโพสด้วย ซึ่งรายชื่อนี้ยังไม่อยากให้เชื่อ 100% ว่าถูกต้อง เพราะจากที่ติดตามข่าวนี้มา ยังมีหลายๆ จุดที่ดูคลุมเครืออยู่

แม้แต่เจ้าของ X อย่าง Elon Musk เองยังออกมาร่วมวงกับคนอื่นด้วยการตอบทวิตหนึ่ง ว่า “SBI มันเป็นตัวทำลายล้างสุดชั่วร้ายของอุตสาหกรรมเกม พวกเขามีแต่ทำให้เกมมันกากลง และพยายามให้ผู้คนเลิกยุ่งกับมัน ขอให้เจ๊งไว ๆ” ซึ่งต้นทางทวิตนี้ คือโพสของ Chris Kindred ที่ออกมาด่า Asmondgold ในแคมเปญสร้างตัว Pawn ของ Dragon’s Dogma 2

สถานการณ์ปัจจุบัน

มีการพยายามปลุกกระแสดราม่า Gamergate ขึ้นมาอีกครั้งจากสื่อบางเจ้ารวมถึงการคาดเดาสำหรับใครหลายคน GamerGate คือดราม่าใหญ่มากๆ ของวงการเกมที่เริ่มขึ้นในปี 2014 ที่มีการกล่าวหาว่าพวกเล่นเกมคือพวกเหยียดเพศ ซึ่งลุกลามจนกลายเป็นประเด็นการเมือง เป็นจุดกำเนิดของ SJW หรือ Great Meme War แถมยังมีการแซวๆ กันว่า เพราะเหตุการณ์นี้ เลยทำให้ Trump ชนะการเลือกตั้งในปี 2016 และถ้ามันมี GamerGate 2 ขึ้นมา มันก็อาจจะมีประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เพราะอีก 8 เดือน การเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกาจะเริ่มขึ้น