Unicorn Overlord เป็นเกมใหม่แนว Tactical RPG จากค่ายพัฒนาเกมมือดีอย่าง Vanillaware และ Atlus ตัวเกมมีการประกาศเปิดตัวแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเมื่อปีที่แล้ว ก่อนจะวางจำหน่ายในวันที่ 8 มีนาคม ปีนี้ ซึ่งก็คือเวลานี้ที่เกมได้ฤกษ์ขายในช่วงที่เรียกได้ว่าเป็น Red Ocean ของวงการเกม RPG กันเลยทีเดียว
แต่ถึงอย่างนั้น Atlus เองก็ดูมีความมั่นใจในเกมนี้อย่างมาก Unicorn Overlord ได้รับการโปรโมตอยู่บ่อยครั้งไม่ต่างจากเกม IP ดังของค่าย เพราะเกมที่พัฒนาโดย Vanillaware มักจะแฝงความพิเศษไม่เหมือนใคร รวมถึงงานอาร์ทและกราฟิกอันเป็นเอกลักษณ์ไว้อยู่เสมอ กับ Unicorn Overlord เอง ก็ดูเหมือนว่าทาง Vanillaware จะยังคงจุดแข็งของตัวเองไว้ พร้อมๆ กับนำมันมาปรับใช้กับเกมแนว Tactical RPG รูปแบบใหม่ที่ดูจะตกผลึกและควบรวมกลั่นออกมาเป็นความลงตัวที่สามารถส่งให้ Unicorn Overlord กลายเป็นเพชรงามเม็ดใหม่ที่ทางค่ายสามารถนำไปต่อยอดในอนาคตได้อย่างสบายๆ
เนื้อเรื่อง
ใน Unicorn Overlord จะเป็นการเล่าเรื่องราวการกอบกู้แผ่นดินของ Alain มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักร Cornia หลังจากที่ตัวเขานั้นต้องระเห็จลี้ภัยการปฏิวัติของนายพล Valmore (ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น Galerius หลังจากอ้างสิทธิ์เป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิ Zeronian ที่เกิดขึ้นใหม่ในเวลาต่อมา) ไปอยู่เกาะตั้งแต่วัยเยาว์พร้อมๆ กับ Josef องครักษ์ยอดฝีมือประจำราชวงษ์ แต่แล้ววันหนึ่งในอีก 10 ปีต่อมาเขาก็พบว่าแม้จะอยู่บนเกาะก็ไม่อาจปลอดภัยอยู่ดี จึงรวบรวมสมัครพรรคพวกและกองกำลังผู้ภักดี ยกพลขึ้นบกบนแผ่นดิน Cornia อีกครั้ง เพื่อจะพบว่าบัดนี้โลกทั้งใบและอาณาจักรทั้ง 5 ได้ตกอยู่ในเงามืดบนกำมือของ Galerius เรียบร้อย ดังนั้นแล้วหน้าที่เขาจึงมีอยู่อย่างเดียว คือจัดตั้งกองทัพปลดแอก และทวงคืนสิ่งที่เคยเป็นของเขากลับมาให้จงได้
ส่วนของเนื้อเรื่องหากเทียบกับงานก่อนหน้าของทางค่ายอย่าง 13 Sentinels: Aegis Rim นั้น ก็ต้องบอกว่า Unicorn Overlord เป็นอะไรที่เคี้ยวง่ายและตรงไปตรงมากว่ามาก ไม่ต้องเอาไวท์บอร์ดมาจดหรือพยายามเชื่อมโยงอะไรยากๆ ทั้งสิ้น เกมนี้คือเรื่องราวการรวบรวมสมัครพรรคพวกไปตบกับทรราช โดยที่ระหว่างนั้นก็แก้ไขปัญหาแต่ละดินแดนไปด้วย อาจมีการทวิสต์ในรายละเอียดนิดๆ หน่อยๆ ทว่าภาพรวมก็ไม่ถึงกับซิกแซกจนชวนปวดเฮดหรือเข้าใจยากอะไร
ทว่าในความเหมือนจะเรียบง่ายของมันก็กลับดึงดูดให้เราเล่นต่อไปได้เรื่อยๆ ระดับที่แทบหาจังหวะหยุดไม่เจอ เพราะเนื้อหาของมันที่พอย่อยง่ายเก็ตง่ายมาเจอกับการเล่าเรื่องและนำเสนอที่ดี จึงทำให้ผู้เล่นอยากจะรู้ต่อไปเรื่อยๆ ว่าเกมจะพาเราไปเจออะไรอีก มันมีตัวละครหรือยูนิตแปลกๆ ใหม่ๆ อะไรอีกไหม หรือด่านถัดไปจะมาไม้ไหนกันนะ เรียกได้ว่าแม้จะไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ก็ติดพันไม่หยอกเลยทีเดียว
เสียง
Unicorn Overlord เป็นเกมที่ใช้นักพากย์เยอะแน่นอนครับ เพราะตัวละครเพียบ แต่ละตัวก็มีเสียงเป็นของตัวเองทั้งนั้น ซึ่งแน่นอนว่าน้ำเสียงและบุคลิกที่ต่างกัน ช่วยให้เกมมีมิติขึ้นมาก ขณะที่เอฟเฟกต์เสียงประกอบก็ทำได้ดี ใสและฟังชัด โดยเฉพาะเสียงการกระทบกันของอาวุธและชุดเกราะ ที่จะดังให้ได้ยินตลอดทั้งเกม และสามารถแยกได้ไม่ยากว่าเป็นเสียงของอะไร
ส่วนเพลงประกอบก็เข้ากับธีมบรรยากาศเป็นอย่างมาก ติดหูเอาเรื่องเลย เวลาเปลี่ยนแผนที่ เพลงก็จะเปลี่ยนด้วยเช่นกัน หรือแม้กระทั่งการตัดเข้าฉากสู้ ก็จะเป็นอีกเพลงแทน โดยมากแล้วเกม RPG จากทีมพัฒนาญี่ปุ่น ก็มักจะพิถีพิถันเรื่องเพลงประกอบอยู่แล้ว เพราะมันเป็นการสร้างภาพจำที่ดี และมีหลายเกมที่ประสบความสำเร็จเอาเพลงไปขายแยกก็ยังได้ ส่วนตัวแล้วคิดว่าตัวเพลงของ Unicorn Overlord อยู่ในเกณ์ที่ดี ทำได้เยี่ยม ลื่นหูไม่ติดขัด
กราฟิก
กราฟิกของเกมยังมาในแบบสไตล์ค่ายนี้กับ 2.5 มิติพร้อมสไตล์อาร์ทน่าสนใจ ตัวละครมีความละเอียดในด้านดีเทลสูงมาก นับรวมไปถึงการขยับเขยื้อนก็ค่อนข้างลื่นไหล เป็นธรรมชาติ เวลาออกท่าต่อสู้ก็ดูดุดัน พื้นหลังเป็นภาพวาดสลับเคลื่อนไหวให้มีความไดนามิคบางๆ ขณะที่กราฟิกบนฉากแผนที่ก็ทำได้ดีครับ โดดเด่นด้วยงานอาร์ตสวยสะดุดตา และมีฟังก์ชั่นที่ตอบสนองต่อเกมเพลย์อย่างครบถ้วน
สำหรับผมแล้ว งานภาพงานอาร์ทของ Unicorn Overlord คือตัวที่สปาร์คให้ผมอยากเล่นเกมนี้ขึ้นมาทันที โดนเส้นมากๆ และมันดูดีสุดๆ ตั้งแต่ตอนปล่อยตัวอย่างแรกให้ได้เห็น พอได้มาเล่นจริงก็ไม่มีผิดหวังครับ ตระการตาสุดๆ ไปเลย
เกมเพลย์
ถ้างานภาพคือสิ่งแรกที่ดึงดูดให้หลายๆ คนเข้ามาเล่นเกมนี้ งั้นเกมเพลย์คือพระเอกตัวจริงที่จะทำให้ผู้เล่นติดหนึบงอมแงมจนหาช่วงพักไม่ได้ และโดนเจ้านายที่บ้านหรือบุพการีบ่นอุปเพราะไม่เลิกเล่นเกมเสียที! โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเกม RPG หรือวางแผน ยิ่งน่าจะโดนเส้นได้ง่ายๆ เลย
อธิบายกันคร่าวๆ ก่อน เกมเพลย์หลักจะแบ่งเป็น 2 พาร์ท คือพาร์ทกึ่ง Open World ออกสำรวจโลก และอีกพาร์ทคือ Battle Stage ที่ผู้เล่นจะต้องรับมือกับภารกิจในพื้นที่นั้นๆ ทั้งนี้เราเริ่มด้วยการสำรวจแผนที่กันก่อน โดยตัวเกมเมื่อเปิดแผนที่หนึ่งขึ้นมาแล้ว ผู้เล่นก็แทบจะออกเดินสำรวจได้ทั่วทั้งแผนที่ดังกล่าว มันจะมีทั้งไอเทมที่ตกอยู่ ไอเทมลับสายตา ภารกิจหลัก ภารกิจเสริม ภารกิจชิงพื้นที่ ปริศนาให้แก้ หมู่บ้านและเมืองให้ซื้อของ ป้อมปราการให้จ้างทหาร และเพิ่มขีดจำกัดกองทัพ ขณะที่เมืองใหญ่จะมี Tavern ให้ชวนเพื่อนไปกินอาหารเพิ่มควาามสนิทสนม และบางเมืองก็ยังมี Colosseum ให้ได้ไปจัดทีมไต่แรงก์เพื่อรับตัวละครพิเศษในแบบออฟไลน์ หรือจะออนไลน์ไปสู้กับเพื่อนก็ได้เช่นกัน
ฉากแผนที่ยังมีจุดที่เราสามารถมีอีเวนต์กับตัวละครอื่นได้หากค่าความสัมพันธ์ถึงระดับ ซึ่งก็จะเป็นเหมือนเนื้อเรื่องย่อยๆ ของตัวละครต่างๆ ที่มีต่ออีกตัวหนึ่ง และมันเยอะมากๆ ทีมพัฒนาขยันไปไหน แถมยังมีกันหลายระดับอีกต่างหาก จะเห็นได้เลยว่าในพาร์ทสำรวจโลกนั้นทีมพัฒนาให้ความสำคัญไม่แพ้ Battle Stage เลย มีอะไรให้ทำเยอะแยะไปหมด แต่การจะไล่ทำกิจกรรมเหล่านั้นได้ เราจะต้องชิงพื้นที่หรือช่วยหมู่บ้านโซนนั้นให้มาอยู่ฝั่งเราเสียก่อน อันจะนำไปสู่อีกหนึ่งเกมเพลย์นั่นคือ Battle Stage
ความเจ๋งอย่างแรกของ Battle Stage คือการใช้พื้นที่จริงบนแผนที่ที่เราเพิ่งวิ่งสำรวจนี่แหละ มันช่วยเพิ่มความอิน และทำให้เข้าใจในบริบทสงครามบนพื้นที่นั้นๆ ได้แทบจะในทันที โดยเมื่อเราเข้าสู่ Battle Stage ศัตรูก็จะแห่แหนออกมามืดฟ้ามัวดิน ในขณะที่แต้มเรียกกองทัพมีจำกัด ความท้าทายในจุดนี้คือเราจะจัดทัพมารับมือถูกไหม หรือเราใช้แต้มเรียกทัพออกมาถูกกองรึเปล่า
มาพูดถึงกองทัพกันก่อน ในเกมเราสามารถมีหน่วยทัพได้มากที่สุด 10 หน่วย แต่ละหน่วยมีตัวละครได้สูงสุด 5 ตัวละครเมื่ออัปเกรดสูงสุด โดยต้องเลือกวางตำแหน่งบนพื้นที่ขนาด 6 ช่องสี่เหลี่ยมให้ดี เพราะตำแหน่งยืนสำคัญมากระดับทีชี้ผลการรบได้ นอกจากเรื่องเบสิคอย่างการเป็นตัวรับตัวรุกแล้ว ความสามารถหรือไอเทมที่ใส่ของตัวละตัวยังจะช่วยกำหนดตำแหน่งยืนให้ได้เช่นกัน
ทั้งนี้ใน Unicorn Overlord มีคลาสทหารมากกว่า 60 คลาส ตัวละครมีชื่ออีกหลายสิบตัว และทหารคลาสต่างๆ ที่สามารถจ้างแยกได้อีกเพียบนับไม่หวาดไม่ไหว บางคลาสก็แบ่งเพศตัวละครอีก แต่ละคลาสก็จะมีแพ้หรือชนะทางเป็นปกติ ดังนั้นแล้วกองทัพหนึ่งหน่วยจึงต้องพยายามคิดดูให้ดีว่าจะจัดการกับมันยังไง เพราะจะอย่างไรเสีย ผู้เล่นไม่มีทางใส่ตัวละครได้หมดทุกตัวอยู่แล้ว สล็อตว่างมีแค่ 5 ตัวต่อหน่วยเท่านั้น เลือกใช้กันให้ดี
เมื่อจัดทัพเสร็จก็ต้องเข้าปะทะ การปะทะบนแผนที่ของเกมนี้จะไม่มีเรื่องของเอฟเฟกต์การเข้าตีข้างหลัง หรือเข้ากระหนาบอะไร ขอแค่คอนแทคกันเป็นอันได้สู้แล้ว อย่างไรก็ตามตัวเกมเพิ่มความลึกขึ้นด้วยการมีสิ่งกีดขวางต่างๆ หอคอยสอดแนม เครื่องยิงธนู เครื่องยิงหิน แท่นบูชาเรียกฝนฮีลหรือพายุอะไรแบบนี้ รวมไปถึงก่อนปะทะเรายังสามารถเอาแต้มแลกเพื่อใช้สกิลพิเศษบัฟหรือตัดกำลังคู่ต่อสู้ก่อนลุยก็ย่อมได้เช่นกัน คือแรกๆ เกมจะยังไม่ซับซ้อนมากนัก แต่หลังๆ นี่ขนาดว่าตัวละครเราเก่งขึ้นมากแล้วก็ยังต้องระแวดระวังและวางแผนดีๆ แต่ละมูฟล้วนมีความหมาย ไม่งั้นกองทัพละลายกันได้ง่ายๆ เลย
ทีนี้ในตอนเข้าต่อสู้ก็น่าสนใจเพราะเราจะไม่ได้บังคับตัวละครระหว่างสู้โดยตรง แต่มันเหมือนการเซ็ตบอทตัวละครไปสู้กับ AI ของเกมแทน ซึ่งคนขี้เกียจสามารถปล่อยดีฟอลต์หรือปรับนิดปรับหน่อยก็ผ่านได้เหมือนกัน แต่ถ้าใครเป็นสายละเอียด เกมก็มีให้ปรับเพียบแบบแยกท่ากันไปเลย พร้อมกับมีกำหนดเงื่อนไขในการใช้ท่านั้นอีกต่างหาก
ใน Battle Stage ยังมีรายละเอียดอีกมากที่ต้องไปค่อยๆ เรียนรู้ในเกม ซึ่งส่วนตัวแล้วผมว่าทีมพัฒนาทำเคิร์ฟการเล่นดี คือให้ผู้เล่นค่อยๆ เรียนรู้ว่าสามารถทำอะไรกับกองทัพหรือแผนที่ใน Battle Stage ได้บ้าง เพราะศึกใหญ่ในช่วงหลังก็คือจะรีดเค้นความเป็นนักวางแผนและจัดการกองทัพของคุณออกมาอย่างดุเดือดเลยทีเดียวครับ
สรุป
Unicorn Overlord คืออีกหนึ่งยอดเกม Tactical RPG ของปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัย นี่คือเกมที่มีทุกอย่างของความเป็นยอดเกม มีไอเดนติตี้ที่ชัดเจนเป็นของตัวเอง งานศิลป์น่าสนใจ เพลงไพเราะติดหู เกมเพลย์สนุกและดึงดูดติดพัน มีความลึกสำหรับคนชอบวางแผนแต่ก็ยืดหยุ่นพอสำหรับผู้ที่ไม่ได้รู้สึกอยากเซ็ตอะไรมากมายขนาดนั้น ที่สำคัญคือเกม Polish มากๆ ระดับที่แทบไม่เจอบั๊กเลย นี่คือผลงานที่คอเกม Tactical RPG จะต้องเรียกหา มันตอบโจทย์มากๆ กับเกมแนวนี้ที่ไม่ได้มีมาให้เล่นกันบ่อยๆ แม้ฉากหน้ามันอาจดูยุ่งยากไปสักนิด แต่สำหรับผมแล้ว Unicorn Overlord ไม่ใช่เกมที่ทำมาสำหรับคนใดคนหนึ่ง และก็ไม่ใช่เกมสำหรับทุกคนเช่นกัน มันคือเกมที่ขอแค่คุณต้องลองเปิดใจ ให้โอกาส และพร้อมจะเรียนรู้ในความสนุกสนานรวมไปถึงตัวตนของมัน เชื่อเลยว่าอย่างไรเสียก็จะมีที่ทางของคุณในเกมนี้อย่างแน่นอน
Unicorn Overlord มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 8 มีนาคมนี้ บนเครื่อง PlayStation 5, PlayStation 4, Nintendo Switch และ Xbox Series X|S ครับ (รีวิวนี้เล่นบน PS5)
VERDICT
9/10
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station
