Tales of Arise เกมแนวแอ๊กชันอาร์พีจีจากทาง Bandai Namco ซึ่งวางจำหน่ายไปเมื่อราวๆ 2 ปีก่อนนั้น จู่ๆ ก็มีภาคเสริม DLC ในแบบที่ใครๆ ก็ไม่คาดคิดว่าจะมีการปลุกผีเกมนี้มาเล่าเรื่องราวเพิ่มเติม หลายๆ คนจึงไม่แน่ใจตัวเองนักว่าจะต้องเข้าเล่นเกมนี้ในความรู้สึกแบบใด เพราะมันหมดช่วงไฮป์ไปนานมากแล้ว และว่ากันตามตรงหลายๆ คนที่เล่นเกมนี้จนจบก็อาจจะไม่ได้รู้สึกว่าต้องการเนื้อหาเพิ่มเติมขนาดนั้น
การมาถึงของ Beyond the Dawn จึงค่อนข้างเซอร์ไพรส์พอสมควร ผมเองก็เข้าไปเล่นด้วยความอยากรู้ว่าเกมจะนำเสนออะไร เรื่องราวแบบใด หรือมีอะไรที่ปรับเปลี่ยนไปมั๊ย ซึ่งผลลัพท์ก็คือ ใช่ นี่คือเกมที่เพิ่มเติมเนื้อเรื่องเข้ามาได้น่าสนใจพอสมควร และไม่ เพราะแม้จะเพิ่มเติมเนื้อเรื่องและเควสต์เข้ามาให้เล่นอีกราวๆ 15-20 ชั่วโมง เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าเกมนี้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย
Beyond the Dawn มีเนื้อเรื่องหลังจากภาคหลักราวๆ 1 ปี เมื่อสงครามการต่อสู้จบลงและ 2 ฝ่ายทั้ง Renan และ Dahnan ต่างจับมือสมานฉันท์ แต่ความขัดแย้งที่แล้วๆ มายังคงสุมอยู่ในใจและยากจะเยียวยาในเวลาอันสั้น กลุ่มตัวเอกของเราได้นัดพบกันด้วยเหตุผลบางประการและนั่นทำให้พวกเขาได้พบกับเด็กสาวลึกลับตาสองสีนาม Nazamil ผู้ซึ่งเป็นลูกครึ่งระหว่าง Renan/Dahnan และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่จะนำไปสู่บทสรุปของซีรีส์ที่ได้รับการขยายความมากขึ้น
สำหรับผมนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าถ้าจะหาสิ่งที่โดนใจสุดใน DLC นี้ก็ต้องเป็นเนื้อเรื่องนี่แหละ อาจเป็นเพราะรู้สึกว่าช่วงองค์ 3 ของเกมหลักไปยันฉากจบนั้นมันจืดและดรอปความเข้มข้นมาจากช่วงแรกๆ ประมาณหนึ่ง ทำให้การที่ตัวเกมได้รับการบอกเล่าเรื่องราวเพิ่มเติมอีกเกือบๆ 20 ชั่วโมงมันมาถมในจุดคาใจนี้ได้พอสมควร เหนือสิ่งอื่นใดคือมันเป็นเรื่องราวที่มีความสนุก มีความทวิสต์ ให้ได้ลุ้นอยู่ในที จึงเป็นอะไรที่สามารถจูงผู้เล่นให้อยู่กับเกมไปยันจบได้ โดยเฉพาะแล้วกับส่วนเสริมที่พาร์ทอื่นๆ นั้นแทบจะไม่มีอะไรใหม่เลย
โดยเฉพาะในส่วนของเกมเพลย์ ที่ถึงแม้ Tales of Arise ภาคหลักจะมีเกมเพลย์เป็นจุดแข็ง มีเมคานิคที่แข็งแรงเล่นสนุก แต่เมื่อมี DLC ใหม่ การคาดหวังถึงระบบใหม่ๆ ที่จะเข้ามาเพิ่มมิติการเล่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แถมทั้ง Beyond the Dawn นั้นเป็น DLC ที่ออกหลังจากภาคหลักถึง 2 ปี หาก DLC นี้ได้รับการวางแผนมาตั้งแต่แรกมันคงถูกออกแบบมาดีกว่านี้ สะท้อนให้เห็นเลยว่าไอเดียของ Beyond the Dawn เพิ่งจะถูก Raise ขึ้นและมันใช้เวลาไม่นานเลยในการทำออกมาขาย
แม้ผมจะรู้สึกจริงๆ ว่ามันไม่ใช่ส่วนเสริมที่แย่ขนาดนั้น หาก DLC นี้เป็น Story Pack ที่ถูกขายในราคาย่อมเยาจากนี้สักหน่อยก็อาจจะพอเข้าใจได้ แต่ Beyond the Dawn เป็น DLC ที่ขายในราคาเกือบๆ จะแตะหลักพันบาท เมื่อเทียบกับคอนเทนต์ที่เติมเข้ามาจึงออกจะแพงเกินไปสักหน่อย อดเสียดายไม่ได้เพราะศักยภาพของเกมก็มีค่อนข้างสูง แต่คอนเทนต์ของมนดันไปได้ไม่สุดเท่าที่ควร
แต่หากคุณยังเอนจอยกับเกมเพลย์คล้ายๆ เดิม กับ DLC นี้คุณอาจสนุกกับมันมากกว่าผมก็ได้ครับ เพราะตัวเกมมาพร้อมเควสต์ใหม่ราวๆ 40 เควสต์ ดันเจี้ยนใหม่ และบอสตัวใหม่เบิ้มๆ ให้ได้ซัดกัน เอาจริงๆ ภาคหลักมีจุดแข็งอะไรภาคนี้ก็ยังคงไว้อย่างครบถ้วน แค่มันเหมือนเดิมจนเกินไปเท่านั้นแหละ
Tales of Arise – Beyond the Dawn เป็นส่วนเสริมที่แม้แต่คนเป็นแฟนคลับถ้ารอได้ก็อยากให้รอ แต่ถ้าคุณรอไม่ไหวก็ไม่เป็นไร จัดได้เลยไม่ต้องสนลูกใคร มันยังคงเป็นเกมที่มีคุณภาพมาจากเกมภาคหลัก เสริมเติมด้วยเนื้อเรื่องที่เปรียบประหนึ่ง Epilogue ที่แท้จริง ให้เราได้ส่งท้ายการผจญภัยของ Alphen, Shionne และมิตรสหายได้เต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น เสียก็แต่เพียงมันควรทำได้ดีและมีความสดใหม่มากกว่าที่เป็นอยู่ให้สมกับที่หายไป 2 ปีก็เท่านั้น
VERDICT
7/10
Tales of Arise – Beyond the Dawn วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PC, PS5/PS4, Xbox Series และ Xbox One ครับ
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station