ปี 2022 ที่ผ่านมานับเป็นปีที่ยากลำบากของ Ubisoft พอสมควรเลยครับจากการที่ออกเดกมไม่เยอะ แถมเกมที่ออกก็ทำยอดได้ไม่ถึงที่ต้องการอีก ดังนั้นในปีนี้พวกเขาจึงเตรียมปรับโครงสร้างบริษัทและทุ่มสรรพกำลังเพื่อดัน Assassin’s Creed แบบไม่เคยเป็นมาก่อนด้วยการเพิ่มกำลังคนให้อีก 40% ท่ามกลางการเลย์ออฟและลดขนาดบริษัทที่ทำให้กำลังคนทั่วโลกของพวกเขาเหลือไม่ถึง 20,000 คน
ในรายงานผลประกอบการประจำปี 2022 ของ Ubisoft พวกเขาวางจำหน่ายเกมใหญ่ๆ ในปีก่อนไปเพียง 3 เกมเท่านั้นคือ Mario + Rabbids Sparks of Hope, Just Dance 2023 และ Rocksmith+ ทำรายรับ 1.97 พันล้านดอลล่า ร่วงไป 14.6% จากปี 2021 คิดเป็นงานราวๆ 543 ล้านดอลล่า
พวกเขายังบอกอีกว่า Sparks of Hope กับ Just Dance 2023 ทำยอดได้ไม่ดีนัก แต่พวกเกม Live Service ทำให้บริษัทยังคงมีเงินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นั่นก็คือ Assassin’s Creed ที่เพิ่งทำสถิติแอคทีฟยูเซอร์สูงที่สุดแม้ไม่มีเกมใหม่ออก โดย Assassin’s Creed Valhalla ยังคงมีผู้เล่นหมุนเวียนเข้าไปเล่นเป็นประจำถึง 44% และจากภาค Origin อีก 19% ทำเงินต่อหัวมากกว่าเกมอื่นอย่างเห็นได้ชัด
และนั่นคือเหตุผลว่าทำไม Ubisoft จึงเตรียมทุ่มสรรพกำลังกับ 4 เกม Assassin’s Creed ที่เคยประกาศสร้างออกไปเมื่อปีก่อน รวมไปถึงเกม VR และแฟรนไชส์มือถือที่อาจจะตามมา เริ่มด้วยการระดมกำลังคนเพิ่มอีก 40% จากทั่วโลกในปีนี้ เวลาเดียวกับที่บริษัทกำลังลดคนอย่างต่อเนื่องและมีนโยบายเคร่งครัดในการจ้างงานเพิ่มเติม ซึ่งนั่นอาจหมายถึงทาง Ubisoft จะลดการวางจำหน่ายเกมต่อปีลงด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่า Assassin’s Creed ที่ขึ้นมาเป็นหัวเรือหลักเต็มตัวจะกลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะเกมอื่นๆ ที่ประกาศออกมาแล้วก็ไม่ได้มีข่าวว่าดีเลย์หรือถูกแคนเซิลอะไร ซึ่งเราก็อาจจะได้รู้อะไรเพิ่มเติมหรือชัดเจนขึ้นในงาน Ubisoft Forward วันที่ 12 มิถุนายนนี้ครับ
แปลและเรียบเรียงจาก: https://www.ign.com/articles/ubisofts-looks-to-assassins-creed-for-future-salvation-amid-challenging-year
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ Online Station