รีวิว Wild Heart เกมดีเล่นสนุก แต่ไม่เต็มอรรถรส

สวัสดีครับเพื่อนๆ กลับมาพบกับการรีวิวเกมกันอีกเช่นเคย โดยเกมที่มีชื่อว่า Wild Heart อีกหนึ่งเกมที่เหล่านักล่าจากเกม Monster Hunter หลายคนจับตามองและให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก เพราะตัวเกมออกมาในแนวเดียวกัน แต่ว่าตัวเกมจะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยดีกว่าครับ

Wild Heart เป็นผลงานจากทีม Omega Force ภายใต้ Koei Tecmo ครับ เท่าที่ทราบมาก็คือเป็นทีมที่ทำเกม Nioh ทำให้ตัวเกมมีกลิ่นอายความเป็นธีมญี่ปุ่นจ๋าสูง แต่มันก็ดูแล้วพอรู้สึกว่าเป็นธีมญี่ปุ่นที่เหมือนทำมาขายฝั่งตะวันตกอยู่เหมือนกัน ถ้าพูดถึงตัวภาพกราฟิกแล้วก็จะถือว่าสวย บรรยากาศและรายละเอียดของเกมจัดเต็มมากทีเดียว แต่ในทางกลับกันสำหรับบางคนก็อาจจะทำให้รู้สึกว่ามันค่อนข้างรกฉากเกินไปรึเปล่า รวมไปถึงชาว PC ที่น่าจะเห็นการกินทรัพยากรเครื่องอย่างมาก แต่ตอนลงบทความก็น่าจะมีแพตช์เดย์วันช่วยแล้วมั้ง รวมไปถึงมุมกล้องของเกมที่เข้าขั้นแย่เอามาก ๆ ทั้งความแคบโดยภาพรวมและตอนเราเข้ามุมหรือล็อคมุมกล้องมอนตัวใหญ่ ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่าเล่นยากขึ้นเอามาก ๆ เลยครับ

ระบบการต่อสู้ที่คุ้นเคย

ระบบการต่อสู้ของเกมถ้าใครที่เล่นซีรี่ส์ Monster Hunter มาก็อาจจะทำความเข้าใจเบื้องต้นของเกมได้ไม่ยากครับ ส่วนใครที่มาเริ่มเกมสไตล์นี้เป็นครั้งแรกก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะตอนต้นเกมก็จะมีสอนระบบต่าง ๆ อยู่แล้วทั้งเรื่องการโจมตีต่าง ๆ ที่มีทั้งหมด 3 แบบ โจมตี 1 โจมตี 2 และโจมตีแบบพิเศษ ที่จะแตกต่างกันไปตามอาวุธ และไฮไลท์เด่นของเกมนี้เลยก็คงจะไม่พ้นการใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือที่เรียกว่า Karakuri ซึ่งเท่าที่เว็บไซต์หลักเผยมาให้ดูมีทั้งหมด 16 แบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น แท่นกระโดด ค้อนใหญ่ ใบพัดช่วยบิน ไปจนถึงปืนใหญ่ต่าง ๆ เลยทีเดียว ซึ่งจากที่ลองล่ามอนด้วยการใช้และไม่ใช้ Karakuri แบบผสมผสานแล้วก็รู้สึกว่ามีความแตกต่างกันค่อนข้างสูงครับ ทำให้การสร้าง Karakuri ต่าง ๆ ค่อนข้างมีความสำคัญในการล่าสูง แต่ผมเชื่อว่าหลังๆ ก็คงมีคนชาเลนจ์ด้วยการล่าแบบไม่สร้างแบบสปีดรันตามเกมสไตล์นี้แหละ อ๋อ…นอกจากนี้ตัวเกมก็มีความไวในการสู้สูงกว่าซีรีส์ Monster Hunter อยู่ระดับนึงครับ

ออกแบบ Kemono มาได้อย่างดี

ตัวมอนสเตอร์ในเกมนี้จะถูกเรียกว่า Kemono ซึ่งแปลว่าสัตว์ดุร้าย หรือ Beast ทำให้มอนสเตอร์ในเกมนี้ทรงออกมาเป็นเหล่าสัตว์ดุร้ายที่ผสมธีมความเป็นญี่ปุ่นเข้าไป ทั้ง หนู ไก่ หมี กระรอก ลิง และอื่นๆ ที่เราเจอกันมาในเกมยังเป็นมอนรูปร่างสัตว์อยู่ทั้งหมดครับ ซึ่งตัวเกมจะค่อนข้างนำเสนอสัตว์เหล่านี้ที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ เท่าที่เว็บไซต์หลักเผยมาให้ดูก็จะมีทั้งหมด 10 ตัว แต่แอบได้ยินมาว่ามีราว ๆ 20 ตัว สำหรับผมแล้วก็ถือว่าน้อยอยู่ครับในการเปิดตัวของเกมนี้ ในส่วนเรื่องท่าของมอนที่โจมตีใส่เราต่าง ๆ ก็มีไม่ได้เยอะมากเท่าไหร่ แต่อาจจะด้วยความยังไม่เคยชิน และความเร็วของเกมทำให้ช่วงแรกดูรู้สึกว่าเกมนี้ค่อนข้างยากนิดนึงครับ แต่ต้องยอมรับว่าดีไซน์ตัวมอนสวย ท่าสวยงามอลังการในหลาย ๆ ท่า โดยเฉพาะตอนที่มอนโกรธแล้วมีธาตุของมอนตัวนั้นโผล่ออกมาก็อลังการจัดเต็มจริง ๆ ครับ

อาวุธสุดเจ๋งที่มีให้ใช้ภายในเกม

มาพูดถึงอาวุธที่มีให้ใช้ในเกมกันนิดนึงสักหน่อยครับ โดยจะมีให้ใช้ทั้งหมด 8 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
Katakuri Katana ดาบยาวพื้นฐานของเกม มีความรวดเร็ว และต่อเนื่องในการโจมตี สามารถใช้เกจอาวุธพื่อยืดดาบให้มีการโจมตีหลายฮิตได้ครับ
Nodachi ดาบใหญ่สายเน้นพลังโจมตีที่รุนแรง มีทีเด็ดในเรื่องของการชาร์จโจมตีได้อย่างรุนแรงในครั้งเดียวตามระยะการชาร์จ
Bow ธนูที่เน้นสร้างความเสียหายจากระยะไกลอย่างต่อเนื่อง มีความคล่องตัวสูงในระดับหนึ่ง
Maul ค้อนใหญ่ที่เน้นการสร้างความเสียหายรุนแรงต่อการโจมตีครั้งเดียว แรงไม่เท่าดาบใหญ่ แต่ท่าก็ออกเร็วกว่านิดหน่อย
Bladed Wagasa หรือาวุธร่มที่หลายคนอยากเล่น ซึ่งเป็นอาวุธที่เน้นการเก็บเกจด้วยกันกดแพรี่ ยิ่งเกจเยอะการโจมตีจะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ
Cannon ปืนใหญ่ที่เน้นการโจมตีระยะไกลเหมือนกัน แต่ว่าจะมีความคล่องตัวน้อยกว่าธนู
Claw Blade ดาบสั้นคู่กับกรงเล็บ ที่เน้นการโจมตีอย่างรวดเร็วและมีความคล่องตัวสูง โดดเด่นในเรื่องการโจมตีต่อเนื่องกลางอากาศ
Karakuri Staff พลองยาวที่เน้นการใช้ลูกเล่นในการโจมตีที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างของอาวุธได้หลายแบบ

โดยตอนแรกเราจะสามารถใช้ได้แค่ 5 อาวุธแรกเท่านั้น ส่วนอีก 3 อาวุธต้องเล่นต่อไปอีกสักพักนึงก่อนครับ นอกจากนี้ก็ยังมีระบบ Hunter Arm ที่เมื่อเราต่อสู้ไปสักพักจะมีการเปิดจุดอ่อนที่เรืองแสงสีเขียวบนตัว Kemono เราสามารถปีนขึ้นไปเกาะบนตัวจุดนั้นแล้วดูดพลังมาใช้ได้ ซึ่งจะทำให้เรามีจำนวนวัตถุดิบในการสร้าง Karakuri ที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนสูงสุด และบางสกิลก็จะมีผลเมื่อเรากำลังอยู่ในช่วง Hunter Arm นี้ด้วยครับ

จุดเด่นที่น่าสนใจ

จุดเด่นอีกอย่างก็คงจะเป็นเรื่องของการสร้างอุปกรณ์พวก Dragon Karakuri ครับ ถ้าให้คิดง่าย ๆ ก็คือเป็นอุปกรณ์ตั้งแคมป์ที่เราสามารถสร้างได้ตามจุดต่างๆ มีตั้งแต่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการเล่นอย่าง สร้างของเปลี่ยนไอเทม สแกนมอนสเตอร์ ไปจนถึงพวกช่วยเก็บวัตถุดิบต่าง ๆ โดยพื้นฐานแล้วตัวเกมจะมีแคมป์ให้แผนที่ละ 1 จุดที่เป็นจุดปลอดภัย ส่วนจุดอื่นถ้าหากเราสร้างของไว้แล้วมีมอนสเตอร์เดินผ่านมาโจมตีก็จะทำให้ของพังได้ครับ

ที่เหลือก็จะเป็นระบบยิบย่อยต่าง ๆ อย่างเช่นพวกระบบคราฟท์ไอเทมหลังจากล่าชิ้นส่วนมอนสเตอร์มาได้ ก็จะแตกต่างกับซีรี่ส์สายนี้ตรงที่บางสกิลจะสามารถโยกไปยังอาวุธที่อัพเกรดขั้นต่อไปได้ด้วยถ้าหากมาจากสายเดียวกันครับ ระบบรับเควสต์อื่น ๆ ทั่วไป ระบบโซเชียลและออนไลน์ที่สามารถเข้าได้จาก 3 แบบคือ

เข้าผ่าน Hunter’s Gate ตามแผนที่ ซึ่งเราก็จะสามารถเลือกตัวมอนที่อยากล่าที่มีคนขอความช่วยเหลือได้
เข้าผ่านแผนที่ที่เรามีภารกิจหรืออยู่ในเนื้อเรื่องประจำแผนที่นั้น ก็จะเลือกว่าจะจอยห้องการล่ามอนตัวนั้นแบบคนเดียวหรือหาห้องที่คนอื่นเปิดไว้ได้
เข้าผ่านระบบออนไลน์โดยตรงที่กองไฟ โดยจะเป็นการเซิร์ชผ่าน tag ที่สร้างห้องไว้ และเข้าไปจอยการเล่นได้โดยเมื่อจบเควสต์จะไม่ออกจาก session นั้นๆ เหมือนแบบอื่นด้วยครับ

ซึ่งทั้งหมดนี้เราสามารถเล่นออนไลน์ได้แบบข้ามแพลตฟอร์มทั้งจาก PC PS5 และ XBOX ด้วยครับ ถือว่าเป็นเรื่องดีมาก ๆ สำหรับนักล่าที่ไม่ต้องจำกัดว่าเราจะต้องซื้อเครื่องอะไรถึงจะเล่นด้วยกันกับเพื่อนได้เลย

บทสรุปส่งท้าย

สำหรับ Wild Heart อีกหนึ่งเกมแนว Hunting Action ที่มีจุดเด่นในการสร้าง Karakuri เพื่อช่วยต่อสู้กับเหล่า Kemono ต่าง ๆ ภายในเกม จนมีบางคนพูดแซวกันว่า นี่คือ Monster Hunter ผสม Fortnite ชัด ๆ ความเร็วในการต่อสู้ถือว่าอยู่ในจังหวะที่กำลังสนุกพอดี พอผสมกับการใช้ Karakuri ในการต่อสู้ก็รู้สึกว่าสนุกดีครับ ตัวอาวุธบางอย่างก็รู้สึกเดิมๆ แต่บางอย่างก็รู้สึกเจ๋งดีไม่น้อย

แต่ข้อเสียหลัก ๆ เลยก็คืออนิเมชั่นบางอย่างดูทื่อไปหน่อย โดยเฉพาะที่ไม่ใช่การต่อสู้ มุมกล้องของเกมที่สำหรับผมค่อนข้างเข้าขั้นวิกฤตไม่น้อย พอเราสู้กับมอนสเตอร์ขนาดใหญ่หน่อย หรือบางทีเราเข้ามุมขอบฉากไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม มุมกล้องจะชวนปวดหัวมาก หรือบางมุมที่มีวัตถุต่าง ๆ บังอย่างเช่น หญ้า ต้นไม้ ซึ่งพอตัวเกมอยากเน้นบรรยากาศและภาพที่สวยงามเป็นทุนเดิม แต่บางทีก็รู้สึกรกจนเกินไปเหมือนกัน มอนสเตอร์รู้สึกมีจำนวนน้อยไปหน่อย เล่นไปไม่นานก็เริ่มมีมอนย้อมสีเปลี่ยนดีเทลนิดหน่อยมาให้สู้ซะแล้ว แอบเกรงว่า End Game Content จะมีอะไรมาดึงให้เล่นได้นานรึเปล่า และที่สำคัญสำหรับชาว PC ก็คือเรื่องของการ Optimize ที่ค่อนข้างมีปัญหามาก ๆ แต่คาดว่าน่าจะมี Day1 Patch ออกมาแก้ให้แล้วนะครับ ชาวคอนโซลนี่สบายใจหายห่วง เล่นได้ลื่นไหลไม่มีสะดุดเลยทีเดียว

ส่วนตัวเนื้อเรื่องจะบอกว่าตื้น ๆ พื้น ๆ แต่เกมแนวนี้เราก็ไม่ค่อยเน้นกันอยู่แล้วละนะ ถ้าหากใครที่กำลังหาเกมแนวนี้เล่นกับเพื่อน หรือรอระหว่างมอนฮันออกภาคใหม่ ก็ถือว่าไม่เลวร้ายพอจับจ่ายมาเล่นได้อยู่สำหรับใครที่พอมีเงิน ส่วนใครที่งบน้อยก็สามารถจ่าย EA Play Pro เพื่อเล่นเกมเต็มกันดูก่อนก็ได้เช่นกันครับ