ตลอดระยะเวลา 31 ปีของเกมตระกูล Sonic ตั้งแต่เกมแรกสุดอย่าง Sonic the Hedgehog จนถึงภาคล่าสุดที่มีชื่อว่า Sonic Frontiers ถือเป็นวิวัฒนาการที่แปลกใหม่สำหรับเหล่าเกมเมอร์และแฟนเกมที่รู้จักและติดตามเกมนี้มาตั้งแต่ยุคของเครื่อง Mega Drive แต่สิ่งที่ยังคงไว้เสมอมาก็คือเอกลักษณ์ของเกมตรงความเร็วของเจ้าเม่นน้ำเงินอย่าง Sonic ที่ผู้เล่นมักมองตามแทบไม่ทันนั่นเอง ซึ่งภาค Frontiers ที่เพื่อน ๆ กำลังจะได้อ่านรีวิวต่อไปนี้ ทางทีมผู้พัฒนาขาประจำอย่าง Team Sonic ได้เลือกที่จะนำเสนอความแปลกใหม่ด้วยสไตล์โอเพ่นเวิลด์ที่ให้อิสระของการผจญภัยในฉากที่กว้างใหญ่ พ่วงองค์ประกอบอื่น ๆ คล้ายเกมแนว RPG รวมทั้งฟีเจอร์อื่น ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏในเกมซีรีส์นี้มาก่อน ทว่าปัจจัยเหล่านี้จะทำให้เกมภาค Frontiers ไปได้สวยแค่ไหน รีวิวนี้จะเป็นคำตอบให้เพื่อน ๆ ครับ
แพลตฟอร์ม: PS5, PS4, Xbox Series X|S, Xbox One, Switch, PC (ทีมงานรีวิวจากเวอร์ชั่น PS5)
ผู้พัฒนา: Sonic Team
แนวเกม: แอ๊กชั่น-แพลตฟอร์ม/ผจญภัย
วางจำหน่าย: 8 พฤศจิกายน 2022
เค้าโครงเนื้อเรื่อง
เรื่องราวในภาคนี้จะดำเนินบนหมู่เกาะ Starfall ที่ประกอบไปด้วยเกาะใหญ่จำนวน 5 เกาะ โดยโซนิค (Sonic), เทลส์ (Tails) และ เอมี่ (Amy) ได้ตัดสินใจเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้เพื่อสืบเรื่องราวเกี่ยวกับ Chaos Emeralds ทว่าเครื่องบินของพวกเขาดันถูกดูดเข้าไปในหลุมมิติลึกลับและมีเพียงโซนิคเท่านั้นที่รอดมาได้ ทำให้เจ้าเม่นน้ำเงินต้องหาทางรวบรวม Chaos Emeralds เพื่อให้สามารถรับพลังที่จะนำมาช่วยเหลือเพื่อน ๆ ที่หายไปได้ พร้อมกับต้องเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจที่รอคอยโซนิคระหว่างอยู่บนเกาะพิศวงนี้ด้วย
เกมเพลย์และระบบต่าง ๆ
วัตถุประสงค์การผจญภัยของโซนิคในแต่ละเกาะคือการตามเก็บเพชร Chaos Emeralds เป็นหลักครับ นั่นก็เพราะว่าโซนิคในร่างธรรมดานั้นไม่มีพลังพอจะสู้กับบอสไซส์ยักษ์ประจำเกาะได้ และทุกครั้งที่ฝ่าฟันไปถึงเกาะถัดไปก็จะมีเหตุให้เพชรที่เราเก็บมาต้องกระจัดกระจายอีกครั้ง กลายเป็นว่าลำบากเราที่ต้องไล่ตามไล่เก็บเพชรกันทุกเกาะไป ส่วนการจะเก็บเพชรดังกล่าวก็มีขั้นตอนซับซ้อนเหมือนกัน เริ่มแรกคือเราต้องไปตามเก็บเกียร์จากการสู้กับบอสกลางหรือกล่องที่กระจัดกระจายตามเกาะเพื่อเปิดประตูเข้าสู่ Cyber Space ซึ่งภายในนั้นเกมจะเปลี่ยนเป็นฉากความเร็วสูงให้เราวิ่งไปยังเส้นชัย โดยมีทั้งฉาก 2D แบบเกมสมัย Mega Drive และฉากแบบ 3D
เมื่อผ่านฉาก Cyber Space แล้วเราก็จะได้กุญแจเพื่อใช้ในการเก็บเพชร ตรงนี้ถ้าเราแค่ผ่านแบบเฉย ๆ ก็จะได้กุญแจเพียงแค่ดอกเดียวเท่านั้น ซึ่งจะไม่เพียงพอต่อการเก็บเพชรให้ครบ ดังนั้นถ้าเราอยากได้เพชรเพิ่มก็จะต้องทำเงื่อนไขเพิ่มด้วย อาทิ ผ่านฉากภายในระยะเวลาที่กำหนด, เก็บเหรียญสีแดงครบ 5 เหรียญในฉาก เป็นต้น ถ้าหากทำได้ครบก็จะได้กุญแจ 4 ดอกต่อ 1 Cyber Space ด้วยเหตุนี้เราจึงควรจะเล่นให้ได้กุญแจฉากละ 2-3 ดอก จึงจะสามารถไขเก็บเพชรได้ครบและผ่านเกาะได้ เงื่อนไขที่ยากน่าจะเป็นเรื่องการทำเวลาเพราะเราต้องเร็วจริง เรียกว่าแทบจะพลาดไม่ได้เลย ส่วนเงื่อนไขอื่นนั้นค่อย ๆ เดินไปจนผ่านฉากก็ทำได้ไม่ยากครับ
ความเป็นโอเพ่นเวิลด์บนเกาะขนาดใหญ่คือส่วนที่โดดเด่นที่สุดของเกมนี้ พื้นที่บนเกาะทั้งหมดเหมือนเป็นจุดทดสอบความเร็วของโซนิค และมีเครื่องเล่นหลากหลายอยู่บนพื้นที่แทบทุกจุด ทั้งสไลเดอร์ แท่นกระโดด แท่นโหน คุณจะสนุกกับการเดินทางด้วยความรวดเร็วตลอดทั้งเกม อีกทั้งมีหลายสิ่งอย่างบนเกาะให้เราทำ เช่น การไขปริศนาเบาสมอง หรือมินิเกมสำหรับทดสอบการควบคุมพื้นฐาน โดยบางจุดบนเกาะ เกมจะตัดฉากเข้าไปให้เป็นมุมมองแบบ 2D แบบกะทันหัน ซึ่งวิธีการเล่นก็จะเปลี่ยนไปให้เราเล่นจนผ่านเงื่อนไขสั้น ๆ ของช่วงนั้นแล้วเกมก็จะเปลี่ยนกลับเป็นแบบ 3D ตามปกติ เอาจริง ๆ มันก็เป็นลูกเล่นที่น่าสนใจดีครับ แต่ก็มีปัญหาอยู่บ้างตรงบางทีเราก็หลุดเข้าไปในเขตเกม 2D แบบไม่ตั้งใจ แล้วบ่อยครั้งก็ออกลำบากด้วย
ในการเปิดแผนที่บนฉากนั้นจะต้องทยอยเล่นมินิเกมตามจุดต่าง ๆ บนเกาะ ซึ่งก็มีทั้งให้เราใช้ทักษะในการผ่าน เช่นไปยังจุดที่ระบุตามเวลาที่กำหนด หรืออีกแบบคือการแก้ปริศนา ซึ่งแม้ว่ามันไม่ได้มีคำบอกใบ้อะไรเลย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าเกมต้องการให้เราทำอะไร และสามารถเลือกการผ่านได้หลายวิธีอยู่ ทีนี้วิธีที่ต้องใช้ทักษะอาจจะยากกว่าเล็กน้อยโดยเฉพาะเมื่อเราเล่นครั้งแรก แต่หากเล่นไปสักระยะ พอเจอเงื่อนไขรูปแบบเดิมหลายครั้งเข้าเราก็จะเริ่มรู้แนว อนึ่ง การเปิดแผนที่ไม่ใช่เรื่องบังคับครับ เราไม่จำเป็นต้องเล่นก็ได้ แต่ถ้าผ่านเราก็จะได้ของไว้อัปเลเวลและสเตตัสของโซนิคด้วย
นอกจากเกมเปิดแผนที่บนฉากแล้ว ในการผ่านเงื่อนไขของอีเวนต์ต่าง ๆ เช่นเข้าไปแฮคคอมพิวเตอร์ก็จะต้องมีอะไรให้ผู้เล่นได้ทำเสมอ เช่นจะมีมินิเกมเฉพาะให้เล่น บางเกมก็มีให้เล่นแค่ครั้งเดียวเท่านั้น โดยมินิเกมที่มีก็เช่น เล่นเครื่อง UFO Catcher เพื่อหยิบไอเทม เกมยิงสไตล์เกม Space Invader หรือเกม Pinball ซึ่งแต่ละเกมก็จะไม่ยากเท่าไหร่นัก ยกเว้นพินบอลที่รู้สึกว่าใช้เวลาเล่นนานเอาเรื่องอยู่ เพราะต้องทำคะแนนค่อนข้างสูงถึงจะผ่าน ถ้าดวงไม่ดีพออาจต้องใช้เวลาอยู่กับมันนานทีเดียว
การบังคับของเกมนี้จะมีความซับซ้อนเล็กน้อย เพราะจะใช้งานทุกปุ่มแตกต่างกัน มีทั้งการสเต็ปซ้ายขวา มีการ Parry การโจมตีของศัตรู และยังมีการเก็บแต้มแลกสกิลซึ่งก็จะเพิ่มวิธีการกดสกิลที่ได้มาเข้าไปอีก ซึ่งมีจุดที่แอบขัดใจอย่างหนึ่งคือการควบคุมเวลาสู้กับบอสบางตัวหรือเวลาเล่นด่านมินิเกมตัวเราจะถูกจำกัดการควบคุมบางอย่าง ทำให้เวลาเล่นแล้วงงได้ว่าทำไมบางช่วงกดท่านั้นท่านี้ไม่ได้
การต่อสู้กับศัตรูแต่ละตัวมีลูกเล่นน่าสนใจดี แม้แต่ศัตรูระดับลูกกระจ๊อกตามทางจนถึงพวกมินิบอสก็ยังมีวิธีการต่อสู้กับมันแบบเฉพาะทาง บางตัวต้องสังเกตพฤติกรรมของมันก่อนโจมตี หรือบางตัวก็ต้องใช้ท่าเฉพาะของโซนิคในการปราบ เป็นต้น จริงอยู่ที่การสู้กับพวกมันจะต้องใช้เวลานาน แต่มันก็มีความสนุกอยู่ในขั้นที่เชื้อเชิญให้เราลองสู้กับบอสทุกตัว ต่อให้ศัตรูหลายตัวในเกมจะไม่จำเป็นต้องสู้หรือไม่ใช่ไฟต์บังคับก็ตาม
ในทางกลับกัน การต่อสู้กับพวกบอสประจำเกาะดันไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่นัก คือจะบอกว่าฉากหน้าที่คนได้ดูเกมนี้ผ่านคลิปหรือเทรลเลอร์ต่าง ๆ อาจจะรู้สึกเหมือนน่าสนุกเพราะออกแอ๊กชั่นกันหวือหวาอลังการราวกับโซนิคปะทะดราก้อนบอล หรืออย่างบอสยักษ์ก็ราวกับเป็นเทวทูตจากเรื่องเอวานเกเลียน แต่หากมาได้อยู่ในมุมของคนเล่นจริง ๆ มันไม่ได้สนุกอะไรแบบนั้นเลยครับ เพราะการเล่นค่อนข้างจะเน้นการกดรัวปุ่มและดัก Parry ท่าบอสเอา แล้วพอโจมตีบอสได้ถึงจุดหนึ่งก็จะมีคัทซีนการกดจังหวะ ซึ่งพอสู้กับบอสหลาย ๆ ตัวก็รู้สึกว่ามันซ้ำซากน่าเบื่อเหมือนกับจะโชว์โซนิคแอ๊กท่าเท่ ๆ เป็นหลักเสียมากกว่า
เกมนี้จะมีบางจุดที่ให้เราเล่นตกปลาได้ ซึ่งแว้บแรกที่ทีมงานได้เห็นก็คิดว่ามันคงเป็นมินิเกมให้ได้เล่นแบบขำ ๆ แต่พอลองเล่นดูแล้วปรากฎว่าของรางวัลที่แลกได้มันเป็นอะไรที่ครบเครื่องมาก ๆ โดยวิธีการคือถ้าเราตกปลาได้จะมีแต้มตามความยากของปลาที่ตกได้ให้สะสมไว้ใช้ในการแลกของ และของที่เราแลกได้นั้นมีให้เลือกสารพัดสิ่ง ตั้งแต่เกียร์ที่ใช้ในการเข้า Cyber Space, กุญแจที่เอาไว้ไขเก็บเพชร หรือของที่เอาไว้เพิ่มระดับเลเวลของโซนิค ฯลฯ เรียกว่ามีเกือบทุกอย่างยกเว้นเพชรแลกกุญแจที่ต้องตามเก็บเอาเอง นอกจากนี้ ในการตกปลาเรายังจะมีโอกาสตกได้ตำราที่ไว้ใช้ทำ Fast Travel ของเกาะนั้น ๆ อีกด้วย เรียกว่าถ้าเอาดีทางตกปลาอย่างเดียวก็แทบจะได้ทุกอย่างแล้ว เหลือแค่เดินทางไปตามหาเพื่อนกับปราบบอสประจำเกาะก็พอ
มุมกล้องหลายจุดของเกมนี้ เชื่อว่าผู้เล่นหลายคนอาจจะรู้สึกรำคาญกันได้ง่าย ๆ เพราะในหลาย ๆ ช่วงเกมจะปรับมุมกล้องให้เอง เช่นเวลาโซนิคใช้ท่ายิงโจมตีระยะไกล มุมกล้องจะบังคับเป็นมุมเฉียงจนแทบมองไม่เห็นศัตรู และเวลาอยู่ในโลก Cyber Space จะมีบางจังหวะที่เราพยายามจะหาหรือเก็บเหรียญแดงให้ครบ มุมกล้องก็จะเปลี่ยนกะทันหันเองเมื่อเราเดินผ่านจุดที่กำหนด ทำให้เก็บเหรียญยากหรือบางทีก็พลาดตกเหวไปเลย
โดยรวมแล้วก็ต้องถือเป็นก้าวใหม่ที่น่าสนใจของซีรีส์ โดย Frontiers ได้ประยุกต์ใช้ทั้งรูปแบบ 2D และ 3D สลับกันไปมาให้เกิดความสนุกในระดับที่โอเค แม้ว่าการต่อสู้จะยังไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก แต่ลูกเล่นในการแก้กลไกและแก้ปริศนาต่าง ๆ ถือว่ากำลังดี ไม่ยากไม่ง่ายจนเกินไป เรายังสามารถใช้เวลาสนุกกับการวิ่งผจญภัยได้ตลอดราว ๆ 20 ชั่วโมงของการเล่น นับว่าเป็นเกมที่เล่นได้ยาวคุ้มราคาอีกเกมครับ
จุดเด่น
- แม้สเกลของเกมจะเป็นโอเพ่นเวิลด์ขนาดกลาง แต่กลับออกแบบฉากและสภาพแวดล้อมชวนให้รู้สึกกว้างใหญ่สวยงามได้อย่างน่าอัศจรรย์
- เพลงและซาวด์ประกอบมีความโดดเด่น โดยเฉพาะเพลงร็อคที่บรรเลงตอนสู้กับบอสขนาดยักษ์ก็ปลุกเร้าอารมณ์ได้ดี
- ตัวละครต่าง ๆ ในเกมทั้งหน้าเก่าและใหม่ทำออกมาได้น่าสนใจทั้งแง่ของดีไซน์และมิติของตัวละคร
- มีมินิเกมให้เล่นหลากหลายรูปแบบ ไม่ค่อยจำเจนัก
จุดด้อย
- ในระหว่างเดินทางบนเกาะ เรามักจะหลุดเข้าไปมินิเกมหรือเส้นทางที่ไม่ต้องการอยู่บ่อย ๆ ทำให้เสียอารมณ์และขาดความต่อเนื่องไปดื้อ ๆ
- ตำแหน่งมุมกล้องหลายจุดชวนหงุดหงิด
- มินิบอสหลายตัวแอบน่าเบื่อและจัดมาถี่เกินไป
คะแนน 7
ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ https://www.online-station.net