หลังจากเปิดตัวในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา เกม MMORPG ที่เคยได้รับความสนใจอย่างมากจากทั้งสื่อและเหล่าเกมเมอร์อย่าง New World ดูเหมือนจะเริ่มเสื่อมความนิยมเสียแล้ว เพราะจากข้อมูลของเว็บไซต์ Steam DB มีการระบุว่าเมื่อเทียบกับช่วงวันที่เกมเปิดตัวสองวันแรก ซึ่งมีผู้เข้าเล่นเกมพร้อมกันได้ถึงกว่า 700,000 ไอดีและพุ่งไปสูงสุดถึง 900,000 ไอดีพร้อมกันในวันที่ 30 กันยายน มาถึงตอนนี้ก็ลดลงเหลือเพียงราว 311,000 ไอดี ซึ่งลดลงไปกว่า 70% เลยทีเดียว
ซึ่งจากแหล่งข่าวระบุว่า ปัญหาที่ทำให้ผู้เล่นหายไปจากเกมนั้นเป็นเพราะความซ้ำซากจำเจของเนื้อหาและรูปแบบการเล่นนั่นเอง รวมถึงช่วงที่ผ่านมาที่มีรายงานปัญหาที่ตัวเกมทำให้การ์ดจอรุ่น GeForce RTX 3090 พังในช่วงเบต้าเกมอีกด้วย อย่างไรก็ตามแม้ว่าจำนวนผู้เล่นจะลดลงมากถึงขนาดนั้น ทางทีมพัฒนาอย่าง Amazon Games ก็ยังไม่มีแผนปรับลดราคาเกมแต่อย่างใดเพื่อรักษาฐานลูกค้าที่มีอยู่ไว้ก่อน
แม้ว่าตัวเลขผู้เล่น 3 แสนคนจะยังนับเป็นตัวเลขที่สูงเมื่อเทียบกับเกมอื่นๆ แต่ก็น่ากังวลว่า New World จะมีอัปเดตอื่นๆ เพื่อรักษาเสน่ห์ความน่าดึงดูดของเกมต่อไปได้ หรือกลายเป็นว่าผู้เล่นจะทยอยออกแล้วหันไปเล่นเกมอื่นแทน อย่างที่เคยเห็นกันมาในกรณีของเกม Crucible เกมชูตติ้งที่เปิดให้เล่นฟรีจากค่ายเดียวกัน ซึ่งปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วในปี 2020 หลังจากเปิดให้บริการเพียง 5 เดือนเท่านั้นจากกระแสตอบรับในแง่ลบและจำนวนผู้เล่นที่ย่ำแย่เช่นกัน
ปัจจุบัน New World เปิดให้เล่นแล้วบน PC (Steam) สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://store.steampowered.com/app/1063730/New_World/
เครดิต: Nichegamer