ยุคปัจจุบันนี้ คงปฏิเสธไม่ได้นะครับว่าระบบ Microtransaction ได้เข้ามามีบทบาทและเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมหลายอย่างในวงการเกมไปมาก โดยระบบนี้มีทั้งการนำไอเทมในเกมมาขายด้วยสกุลเงินจริง มาสู่ระบบการนำ Loot Box มาขายให้ผู้เล่นได้เสี่ยงดวงเพื่อลุ้นไอเทมกันอีกที ซึ่งไม่แปลกนักหากจะบอกว่าเกมได้หันเข้าหาความเป็นเชิงพาณิชย์มากกว่าแต่ก่อน
ทว่าเพื่อน ๆ เชื่อหรือไม่ครับว่าในความเป็นจริง ระบบ Microtransaction ไม่ได้เพิ่งจะมีในช่วง 10 ปีหลังแต่อย่างใด ซึ่งทาง GamingBible ที่เป็นเว็บไซต์สื่อเกมของต่างประเทศได้โชว์หลักฐานให้เห็นว่าระบบดังกล่าวเคยมีให้เห็นมาก่อน อย่างน้อยก็ประมาณ 31 ปีแล้ว ก็คือเกม Double Dragon 3: The Rosetta Stone บนแพลตฟอร์มตู้เกมอาเขตนั่นเอง
อนึ่ง เกม Double Dragon 3 เป็นเกมแนวแอ็กชั่นสไตล์ Beat ’em Up โดยเวอร์ชั่นตู้เกมอาเขตเคยมีติดตั้งให้เล่นกันตั้งแต่ปี 1990 หรือ 31 ปีก่อน ซึ่งระหว่างที่ผู้เล่นกำลังลุยอยู่ในแต่ละด่าน จะมีร้านไอเทมหรือร้านอาวุธให้สามารถเข้าไปซื้อของในนั้นได้
ทางด้านไอเทมที่มีขายก็จะช่วยเพิ่มคุณสมบัติติดตัวผู้เล่นแบบชั่วคราว (จบด่านปุ๊บ ไอเทมหรือความสามารถที่ซื้อมาก็จะหายไปทันที) อาทิ เพิ่ม Max HP ของตัวละครเรา, เพิ่มความเร็วในการโจมตี, ปลดล็อคท่าไม้ตายมาใช้ได้ทันที หรือซื้ออาวุธมาถือติดตัวเป็นเครื่องทุ่นแรง เป็นต้น
ด้วยความที่เมื่อ 31 ปีที่แล้วโลกเรายังไม่มีระบบ iBanking ที่หักเงินในบัญชีเวลาจับจ่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ได้ ตัวเกมเลยให้ผู้เล่นสามารถเปย์ผ่านการหยอดเหรียญเพิ่มเข้าไปในตู้เกมที่เล่นนี่แหละครับ หากเราอยากได้ไอเทมพิเศษชิ้นไหนก็หยอดเพิ่มไปเลย 1 เหรียญ (ถ้าเป็นของไทยอาจจะเป็นเหรียญ 5 บาท เหรียญ 10 บาท หรือถ้าของญี่ปุ่นก็หยอดเหรียญ 100 เยน ขึ้นอยู่กับประเทศนั้น ๆ)
จะเห็นได้ว่าวัฒนธรรมการเปย์เพื่อซื้อความสะดวกสบายในเกมนั้นมีมาอย่างน้อยก็กว่า 3 ทศวรรษครับ เพียงแต่ว่ายุคนั้นมนุษย์เรายังไม่มีโซเชียลเน็ตเวิร์ค และการเปย์ก็ยังใช้แค่เงินจำนวนไม่มากนัก แถมการร้องเรียนของแฟนเกมก็ทำได้เพียงโทรไปบ่น หรือส่งจดหมายไปหาเท่านั้น
ถ้าเกมเมอร์ยุคนู้นมาเจอลูกเล่นการโกยเงินของค่ายเกมยุคนี้คงอุทานดังไปไกล 3 บ้าน 7 บ้านกันแน่ ๆ (ฮา)
เครดิต: GamingBible
ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ Online Station ได้ที่ https://www.online-station.net