เป็นเวลากว่า 20 ปีมาแล้วที่ Diablo II ได้ออกวางจำหน่ายและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเกมแนวแอ็กชั่น RPG ที่ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน เราก็ยังจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของมันในเกมแนวเดียวกันที่ต่างทยอยกันออกมาอยู่เรื่อย ๆ
ดังนั้นเมื่อ Blizzard ประกาศว่าจะรีมาสเตอร์เกมนี้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มันจึงทำให้เกิดทั้งความอยากเล่นจากแฟน ๆ ที่เคยนั่งคลิกอยู่หน้าคอมนับร้อยนับพันชั่วโมงในภาคต้นฉบับ และอาจทำให้เกมเมอร์ที่ไม่เคยได้สัมผัสมันมาก่อนต้องอยากลองว่ามันจะสนุกสมกับที่ถูกยกให้เป็นตำนานจริงหรือเปล่า
แนวเกม: Action RPG
ผู้พัฒนา: Vicarious Visions
ผู้จัดจำหน่าย: Blizzard Entertainment
แพลตฟอร์ม: PS4, PS5, XBO, XSX, NS, PC
Diablo II: Resurrected จะเป็นเกมรีมาสเตอร์ที่รวมเอาทั้ง Diablo II ตัวภาคหลักและภาคเสริมอย่าง Lord of Destruction เอาไว้ในเกมเดียว โดยเนื้อเรื่องเบื้องต้นของเกมจะกล่าวถึงข่าวลือเรื่องการกลับมาของ Diablo ภายใต้ร่างของ Dark Wanderer หรือคนพเนจรผู้ลึกลับ ผู้เล่นในฐานะของนักผจญภัยต่างถิ่นจึงต้องตามรอย Dark Wanderer และหยุดยั้งสิ่งชั่วร้ายที่ตามติดตัวเขาไปทุกหนแห่งให้ได้ ซึ่งแม้ว่าทั้งเนื้อเรื่องและเสียงพากย์ของ Resurrected จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แต่คัตซีนระหว่างเนื้อเรื่องทั้งห้าบทของเกมจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมดด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน ดังนั้นมันจึงดูสวยงามและช่วยให้เนื้อเรื่องน่าติดตามขึ้นเป็นอย่างมาก
ในด้านของภาพลักษณ์ ทีมงาน Vicarious Visions ที่เพิ่งย้ายมาสังกัดเป็นสตูดิโอภายในของ Blizzard เลือกที่จะลงแรงปั้นโมเดล 3 มิติของทั้งตัวละคร มอนสเตอร์ รวมถึงสร้างฉากขึ้นมาใหม่ทั้งหมดโดยอิงจากกราฟิกแบบพิกเซลสองมิติของภาคต้นฉบับ ซึ่งผลที่ได้คือมันทำให้เกมดูมีความสวยงามตามยุคสมัยได้โดยที่ยังคงกลิ่นอายเดิม ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเอาไว้ได้ แสงจากคบเพลิงหรือสกิลต่าง ๆ ล้วนมีผลกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ ประกอบกับเสียงบรรยากาศอย่างเช่นในป่าหรือในวิหารที่เพิ่มเข้ามาก็ไม่ขัดกับอารมณ์ของเกมภาคต้นฉบับ ทำให้มันช่วยยกระดับการนำเสนอทั้งในด้านภาพลักษณ์และเสียงประกอบของเกมได้เป็นอย่างดี
แต่ด้วยความที่แก่นของมันยังคงเป็นเกมเดิมกับเมื่อ 20 ปีก่อน องค์ประกอบหลาย ๆ อย่างของ Resurrected จึงอาจดูตกยุค และไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับผู้เล่นหน้าใหม่สักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะโครงสร้างของเควสต์ที่คล้ายกันทั้งเกมแต่แค่เปลี่ยนสถานที่ไปในแต่ละบท ตลอดจนการขาดความอิสระในการเปลี่ยนสายการเล่นของตัวละคร จริงอยู่ที่เกมจะมีโอกาสให้รีเซ็ตแต้มสถานะและสกิลหนึ่งครั้งต่อความยากหนึ่งระดับ หรืออีกช่องทางผ่านการฟาร์มแบบลากเลือด แต่มันกลับเป็นตัวจำกัดแนวทางในการเล่นไปโดยปริยายว่าถ้าอยากเล่นสายไหน เราก็ต้องวางแผนการปั้นตัวละครแล้วเดินตามเส้นทางนั้นไปตั้งแต่ต้น
การควบคุมด้วยเม้าส์และคีย์บอร์ดของ Resurrected เวอร์ชั่น PC อาจให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยเพราะมันยังคงเหมือนเดิมกับภาคต้นฉบับแทบทุกประการ แต่เมื่อเทียบกับการควบคุมด้วยคอนโทรลเลอร์ที่มีอินเตอร์เฟซใหม่เฉพาะของตัวเองซึ่งผู้เล่นสามารถตั้งปุ่มสกิลเพื่อกดใช้ได้ทันทีถึง 12 ปุ่มแล้ว การควบคุมด้วยเม้าส์และคีย์บอร์ดแบบดั้งเดิมจึงดูเป็นทางเลือกที่ด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด บางคนอาจมองว่ามันเป็นข้อดีเพราะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ในเมื่อทีมงานสามารถออกแบบการควบคุมใหม่ที่สะดวกกว่ามาเพื่อคอนโทรลเลอร์ได้ หากผู้เล่นด้วยเม้าส์และคีย์บอร์ดบน PC จะมีทางเลือกให้ปรับใช้ตามความถนัดบ้างก็คงจะดีกว่านี้
อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ของความเป็นเกมรีมาสเตอร์แล้ว เกมนี้นับว่าเป็นผลงานที่ทำออกมาได้อย่างมีคุณภาพ คุณจะรู้สึกได้ถึงความตั้งใจเคารพต้นฉบับผ่านภาพลักษณ์ที่สวยงามขึ้นตามยุคสมัยแต่บรรยากาศที่ถูกถ่ายทอดออกมากลับยังคงเอกลักษณ์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี ประกอบกับการปรับปรุงเพื่ออำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกในการเก็บเงินบนพื้นโดยอัตโนมัติที่ลดการทำงานของนิ้วไปได้มาก หรือกล่องเก็บไอเทมที่แชร์ระหว่างตัวละครในแอคเคาต์ที่ไม่ต้องโยนลงพื้นแล้วเสี่ยงหายเหมือนเมื่อก่อน ก็ทำให้เกมเป็นมิตรกับผู้เล่นทั้งเก่าและใหม่มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ท่ามกลางเกมแอ็กชั่น RPG จำนวนมากที่ออกมาเรื่อย ๆ และแต่ละเกมก็มักจะมีพัฒนาการที่ทั้งสนุกและเป็นมิตรกับผู้เล่นมากขึ้นทุกวัน แก่นบางอย่างของเกมนี้ที่ยังคงเดิมมาถึง 20 ปีและมีให้เห็นอยู่ในภาค Resurrected จึงเป็นทั้งข้อดีที่ชวนให้คิดถึง และเป็นข้อเสียที่ชวนให้หงุดหงิดได้ในเวลาเดียวกัน
คะแนน 8.5/10
รีวิวโดย อาร์ม Pirawits
(ล่าง) รีวิวแบบคลิปวิดีโอ โดยทีมงาน Online Station
เพื่อน ๆ สามารถหาซื้อเกมแบบดิจิทัลดาวน์โหลดได้ตามช่องทางดังนี้
PS5 & PS4 – (คลิกที่นี่)
PC – (คลิกที่นี่)
Switch – (คลิกที่นี่)
ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ในเว็บไซต์ Online Station ได้ที่ https://www.online-station.net/