กลายเป็นกระแสคนเล่นกันมากเลยทีเดียวสำหรับ STAR WARS Battlefront II ที่ได้มีการแจกตัวเกมฟรีบน Epic Games Store ทำให้มีผู้เล่นใหม่เข้ามามากจนเซิฟเวอร์ล่มแล้วล่มอีก แม้ตัวเกมจะมีลักษณะคล้ายกัน Battlefield ตรงเป็นสงครามใหญ่ในธีม STAR WARS แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีจุดเด่นก็คือเรื่องของเหล่า Hero (ฝั่งเจได) และ Villain (ฝั่งซิธ) ที่จะเป็นตัวละครพิเศษในแต่ละฝั่งซึ่งจะมีการเล่นที่แตกต่างออกไปจากทหารปกติ (จากนี้ขอเรียกว่า Hero อย่างเดียวเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันนะครับ)
รูปแบบของเหล่า Hero
Hero จะมีสองรูปก็คือสาย Lightsaber หรือพวกเหล่าอัศวินเจไดทั้งหลายที่ใช้อาวุธระยะประชิดในการต่อสู้ ส่วนอีกสายก็คือ Blaster หรือพวกที่ใช้ปืนเป็นหลัก จะมีเพียง Palpatine เท่านั้นที่เป็นสายพิเศษแตกต่างกับสายอื่นเล็กน้อย
ความแตกต่างระหว่างสาย Lightsaber และ Blaster
สาย Blaster นั้นจะมีลักษณะการเล่นที่ไม่ต่างจากทหารปกติเท่าไหร่นัก เพียงแค่มีสกิลพิเศษที่แตกต่างและพลังชีวิตที่มากกว่า ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ต่างกับสาย Lightsaber เช่นกัน แต่จุดที่ต่างก็คือพวกเขาจะมีค่า Stamina แทนค่า Weapon Cooling แทน โดยทุกการโจมตีที่เราทำก็จะสูญเสียค่าสตามิน่าแทน
ความพิเศษของ Hero สาย Lightsaber นั้น คือสามารถบล็อคการโจมตีจากด้านหน้าได้ด้วยการคลิกขวาค้าง ซึ่งจะสามารถป้องกันการโจมตีได้เกือบทุกอย่างและสะท้อนกระสุนของ Blaster ได้ด้วย (ยกเว้นบางคนก็ไม่สามารถสะท้อนได้) ซึ่งการบล็อคนั้นจะใช้ค่า Stamina ด้วย (ยกเว้น Palpatine ที่ไม่สามารถบล็อคการโจมตีได้)
การควบคุม Stamina ของสาย Lightsaber
Stamina นั้น เป็นหัวใจหลักของการเล่น Hero สาย Lightsaber ทั้งหลาย เพราะมันเอาไว้ใช้ในการโจมตีปกติรวมไปถึงการบล็อคการโจมตีด้วย ซึ่งตรงจุดนี้ผู้เล่นใหม่หลายคนอาจจะกดตีรัวๆ จน Stamina หมดอยู่บ่อยครั้ง และจะกลายเป็นเป้าชั้นดีต่อการโจมตีทุกประเภท แต่ Action บางอย่างก็ไม่ได้ใช้ค่า Stamina นี้เสียทั้งหมด เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
– การกดบล็อคค้างไว้โดยไม่โดนโจมตี แม้ Stamina จะไม่ลด แต่ก็ไม่ทำให้ค่า Stamina ขึ้นเช่นกัน
– การ Evade (กดกลิ้ง) จะไม่ใช้ค่า Stamina แต่ใช้ค่า Evade
– สกิลกดใช้ต่างๆ จะไม่ใช้ค่า Stamina แม้จะเป็นสกิลที่ใช้ดาบโจมตีก็ตาม
– การกระโดดค้างก็ไม่จำเป็นต้องใช้ค่า Stamina เช่นกัน
MAX HP ของฮีโร่ฟื้นได้จากการฆ่าศัตรู
ในการเล่น Hero นั้น หากเราถูกโจมตีมาในระดับหนึ่ง จะทำให้ Max HP ถูกลดลงมาด้วย ซึ่งจุดนี้เราสามารถเพิ่มมันขึ้นมาได้ด้วยการฆ่าศัตรู หรือฮีโร่บางคนก็สามารถฟื้นค่า HP สูงสุดของตัวเองได้ด้วยสกิลเช่นเดียวกัน (เจ้าหญิงเลอาเป็นต้น)
บทบาทของฮีโร่ในการเล่นโหมด Supremacy
Hero ในโหมดการเล่น Supremacy และ Galactic Assault ที่เป็นโหมดการเล่นแบบ 40 คน จะสามารถเลือกฮีโร่มาเล่นได้โดยแลกกับแต้ม Battle Point 4,000 หน่วย เสมอ ทั้งนี้ในแต่ละทีมจะไม่สามารถมีฮีโร่ซ้ำกันได้ และจะมีได้ฝั่งละ 2 คน (หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับด่าน) ทำให้ฮีโร่ค่อนข้างเป็นตัวที่สำคัญและมีแนวทางการเล่นที่แตกต่างจากทหารทั่วไปพอสมควร ซึ่งแนวทางการเล่นแบบเบื้องต้นก็มีดังนี้
ได้ชื่อว่า Hero แต่เราไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่
แม้ในหนังเราจะเห็น Anakin หรือ Yoda วิ่งลุยเข้าไปสู้กับศัตรูเป็นฝูงได้สบาย แต่ภายในเกม STAR WARS Battlefront II เราไม่ควรจะทำแบบนั้นเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้เราตายประหนึ่งกับเหล่าเจไดที่โดน Order 66 ยิงตายกันหมด พยายามเน้นวิ่งเข้าทางอ้อมตลบหลังศัตรูเป็นหลักจะดีมาก หรือหากจำเป็นต้องอยู่แนวหน้าจริงๆ ก็ค่อยๆ ใช้บล็อคช่วยป้องกันกระสุนให้กับฝ่ายเราแล้วค่อยๆ รุกคืบไปจะดีที่สุด (สำหรับสาย Lightsaber)
การบล็อคจำเป็นกว่าการฟัน (สาย Lightsaber)
แม้ภาพการเล่น Hero จะดูเหมือนว่าเราได้ลุยฟันศัตรูอย่างเมามันด้วยดาบ Lightsaber แต่ในความเป็นจริงของการเล่นนั้น การบล็อคนั้นสำคัญกว่าการโจมตีเป็นอย่างมาก อย่าวิ่งเข้าไปซึ่งๆ หน้ากับศัตรูที่กำลังยิงเราอยู่ แต่ค่อยๆ บล็อคและเดินกดดันไปเรื่อยๆ นอกจากนี้เรายังสามารถใช้บล็อคคอยบังกระสุนให้กับเพื่อนในแนวปะทะได้ดีเช่นกัน ในบางสถานการณ์แค่เราไปยืนบล็อคเฉยๆ ก็อาจจะทำให้ทีมบุกได้สำเร็จ มากกว่าจะวิ่งเข้าไปไล่ฟันจนตายแถมทีมยังแพ้อีกด้วย
Hero แต่ละตัวมีแนวทางการเล่นที่แตกต่างกัน
ในจุดใหญ่ Hero แบบ Lightsaber และ Blaster ก็มีแนวทางการเล่นที่แตกต่างกันอยู่แล้วแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นฮีโร่ในสายเดียวกันก็ยังมีแนวทางการเล่นที่ต่างกันเช่นกัน บางคนอาจจะเก่งในการเคลียร์ทหารธรรมดา แต่บางคนก็เหมาะที่จะเอามาสู้กับฮีโร่ฝ่ายศัตรูมากกว่า รวมไปถึงเรื่องของด่าน เช่นด่านที่มีเหว การเล่นฮีโร่ที่สามารถผลักให้ศัตรูตกเหวได้ ก็เป็นเรื่องดีเช่นกัน
นี่ก็เป็นเบื้องต้นของการเล่น Hero ในเกม STAR WARS Battlefront II นะครับ อีกสิ่งหนึ่งที่อยากบอกผู้เล่นใหม่คือ เวลาเลือกฮีโร่มาแล้วอย่ากลัวที่ฮีโร่จะตายมากเกินจนไม่กล้าเล่น เพราะนอกจากจะไม่เกิดประโยชน์ให้กับทีมแล้ว ยังเป็นการตัดช่องไม่ให้คนอื่นในทีมมาเล่นฮีโร่อีกด้วย ดังนั้นหากจำเป็นจริงๆ ในบางสถานการณ์ก็ควรจะสู้ตายแล้วให้คนอื่นที่มี Point มาสานต่อจะดีที่สุดนะครับ (โดยเฉพาะเวลาที่ Max HP ถูกลดลงมามากๆ จนกู้คืนยากนี่เอง)