กลับมากันอีกครั้งสำหรับซีรี่ส์เปิดได้ก็รีวิวในเกม Genshin Impact ครับ คราวนี้ก็เป็นคิวของตัวละครใหม่ว่าที่สามีแห่งชาติของชาว Genshin Impact อย่าง Zhongli นั่นเองครับ ต้องบอกก่อนด้วยว่าเป็นตัวละครนึงที่แอบมีเสียงแตกในระดับหนึ่งว่าเก่งหรือไม่ เอาเป็นว่าเราลองไปดูกันก่อนเลยดีกว่าครับว่าเทพแห่งเมือง Liyue ทำอะไรได้บ้าง
Trailer ตัวละคร Zhongli
Zhongli
ธาตุ – ดิน
อาวุธ – หอก
นักพากย์ญี่ปุ่น – Maeno Tomoaki (คนพากย์ นาโอซึกุ เรื่อง Log Horizon, ฟุคุโทมิ เรื่อง Yowamushi Pedal, Squalo เรื่อง JoJo’s Bizarre Adventure: Golden Wind)
รายละเอียดสกิล
การโจมตีปกติ Rain of Stone
ใช้หอกโจมตีปกติ 6 ครั้ง ช่วงครั้งที่ 5 จะเป็นการเตะหอกที่มีจำนวนการโจมตี 4 ฮิท (ก็จะเป็นทั้งหมด 9 ฮิท)
สกิลธาตุ Dominus Lapidis
ถ้ากดใช้งานปกติจะเป็นการสร้างเสา Stone Spine สร้างความเสียหายธาตุดินรอบๆ เสา และถ้ามีวัตถุอื่นที่เป็นธาตุดิน (เช่น โอ่งกับเศษหินของตัวละครหลัก หรือกระจกหนิงกวง) ก็จะทำให้วัตถุนั้นสร้างความเสียหายธาตุดินตามไปด้วย ส่วนเสาที่สร้างขึ้นมานับเป็นวัตถุหนึ่ง สามารถปีนได้ ใช้ป้องกันการโจมตีได้ระดับหนึ่ง สามารถสร้างได้แค่ 1 เสาเท่านั้น
ถ้ากดค้างเพื่อใช้งาน จะเป็นการระเบิดพลังรอบๆ สร้างความเสียหายธาตุดิน และสร้าง Jade Shield ที่จะเป็นโล่ป้องกันความเสียหายส่วนหนึ่งตามปริมาณเลือดสูงสุดของ Zhongli รวมไปถึงสามารถดูดกลื่นพลังธาตุดินจากศัตรูได้สูงสุด 2 ตัว (สามารถสลายพวกโล่หินได้ดี ขุดแร่ก็ได้)
ท่าไม้ตาย Planet Befall
เรียกดาวตกลงมาสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง พร้อมทำให้เป้าหมายติดสถานะแข็งเป็นหิน ไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือโจมตีได้
พรสวรรค์ติดตัว Resonant Waves – เมื่อ Jade Shield ได้รับความเสียหาย ตัวโล่จะแข็งแกร่งขึ้น 5% สามารถซ้อนทับได้ 5 ครั้ง (ก็ 25%) อยู่ต่อเนื่องจนกว่า Jade Shield จะหายไป
พรสวรรค์ติดตัว Dominance of Earth – Planet Befall จะสร้างความเสียหายเพิ่มเติมเท่ากับ 33% ของเลือดสูงสุดของ Zhongli
พรสวรรค์ติดตัว Arcanum of Crystal – เมื่อสร้างอาวุธประเภทหอก มีโอกาสจะได้แร่คืน 15%
อีก 1 ตัวละครที่มีแฟนๆ รอคอยพร้อมเปย์กันมากที่สุดสำหรับ Zhongli ด้วยท่าโจมตีปกติที่ครั้งที่ 5 เป็นการเตะหอกสุดเท่ ท่าไม้ตายการกอดอกเรียกอุกกาบาตสุดคูล และบุคคลิกที่ดูขรึมแต่มีความตลกเบาๆ พอได้ลองเล่นดูแล้วก็เป็นตัวหนึ่งที่ผมค่อนข้างสนใจเลยทีเดียวครับ ถ้าให้ผมจำแนกวิธีเล่นด้วยตัวผมเอง ผมก็จะขอแยกสายของ Zhongli ออกด้วยกัน 3 สายได้แก่
- สายกายภาพ – เป็นสายที่เน้นการโจมตีปกติที่เป็นการสร้างความเสียหายเลขสีขาวครับ สำหรับสายนี้วิธีการเล่นก็จะเป็นการโจมตีปกติกับชาร์จโจมตีเป็นหลักครับ โดยการโจมตีปกติของ Zhongli จะมีทั้งหมด 6 ครั้ง แต่ครั้งที่ 5 ที่เป็นการเตะหอกโจมตีทั้งหมด 4 ฮิทด้วยกัน วิธีการเล่นหลักๆ ก็คือการโจมตีปกติไปจนถึงครั้งที่ 5 ที่เตะหอกนี่แหละครับ แล้วให้แคนเซิลด้วยการแดชหรือกระโดดก็ได้ เพื่อลดอนิเมชั่นตัวละคร เพราะครั้งที่ 6 ท่าจะออกค่อนข้างช้า และได้ความเสียหายที่ไม่คุ้มเท่าไหร่ ส่วนสกิลธาตุก็เน้นใช้การกางโล่เพื่อป้องกันความเสียหายเป็นหลักดีกว่า และท่าไม้ตายก็ใช้เพื่อการหยุดการเคลื่อนไหวตัวละครเอาครับ อาจจะเล่นทีม 2 ดิน 2 ไฟ เพื่อความเสียหายที่มากขึ้นได้ แต่ข้อเสียของสายนี้ก็คือความรุนแรงที่ได้มันไม่ค่อยต่างกับ Xiangling ที่เป็น 4 ดาวเท่าไหร่ แถมไม่ได้ใช้โบนัสอัพเลเวลของตัวละครด้วย
- สายความเสียหายดิน – เป็นสายที่เน้นการใช้สกิลธาตุและท่าไม้ตายเป็นหลักครับ สำหรับสายนี้ Zhongli จะไม่ได้กลายเป็น Main DPS แบบสายกายภาพแล้วครับ แต่จะเปลี่ยนเป็น Support DPS ที่คอยออกมาโยนสกิลแล้วสลับตัวออกแทน ซึ่งความเสียหายหลักของสายนี้ก็จะอยู่ที่ท่าไม้ตายอย่าง Planet Befall ที่มีการสร้างความเสียหายครั้งเดียวอย่างรุนแรงมากในระดับ Nuker ที่ดี พร้อมทั้งความสามารถในการสาปเป็นหินหยุดการเคลื่อนไหวศัตรูได้ด้วย ส่วนสกิลธาตุที่เป็นการสร้างเสาแล้วสร้างความเสียหายรอบๆ อาจจะดูเบา แต่ก็มีการสร้างความเสียหายต่อเนื่อง และสามารถคอมโบกับวัตถุต่างๆ ที่เป็นธาตุดินได้ด้วย ถ้าให้ผมแนะนำก็จะเป็นตัวละครหลักธาตุดินที่สามารถคอมโบได้ดีมากๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นการวางโอ่ง หรือท่าไม้ตายที่เป็นกำแพงหิน ก็จะสามารถคอมโบกับเสาและสร้างความเสียหายวงกว้างอย่างต่อเนื่องได้เรื่อยๆ ครับ ข้อเสียของสายนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องของการที่เราจะล็อคอีกตัวนึงเป็นธาตุดินเพื่อทำคอมโบและช่วยในการเก็บพลังงานจะได้ใช้ท่าไม้ตายต่อเนื่อง และสกิลธาตุจริงๆ ก็ไม่ได้แรงมากนัก เหมือนมีไว้เพื่อใช้ปีนเสากับกางโล่มากกว่า
- สายซัพพอร์ทเต็มตัว – เป็นสายที่กลายร่างตัวเองเป็น Support แบบเต็มสูบครับ หน้าที่ของการเล่นสายนี้ก็คือการสร้างโล่ Jade Shield เป็นหลักครับ เพื่อป้องกันความเสียหายจากศัตรูต่างๆ ให้กับตัวละครอื่นๆ ของเราในปาร์ตี้ รวมไปถึงการสร้างสถานะแข็งเป็นหินหรือสาปหินจากท่าไม้ตายเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของศัตรูด้วยเช่นกัน ทำให้สายนี้จะคล้ายๆ กับสายด้านบน แต่การใช้สกิลธาตุหลักๆ จะออกมากดค้างเพื่อสร้างโล่เสียมากกว่า รวมไปถึงความรุนแรงของการโจมตีต่างๆ จะเบามากๆ ด้วยครับ แต่ถ้าใครที่ลงทุนปลดดาวไปถึง C6 ก็จะเป็นตัวที่ซัพพอร์ทได้เก่งมากๆ ตัวหนึ่งเลยทีเดียวเพราะ Jade Shield เองสามารถฟื้นฟูเลือดเมื่อโดนโจมตีระหว่างที่มีโล่ได้ด้วย (แต่กว่าจะปลด 6 ดาวก็เยอะอยู่นะ) ก็น่าจะเป็นสายที่ตรงกับตัวละครที่สุดแล้วหล่ะมั้งถ้าดูจากการปลดดาวแต่ละดาวแล้วไม่ได้มีดาวไหนที่ช่วยเพิ่มความเสียหายเลยยกเว้นดาวที่เพิ่มเลเวลสกิลเท่านั้นเอง
อาวุธที่ใช้
สำหรับอาวุธที่ใช้นั้นเอาพื้นฐานก่อนละกันครับสำหรับใครที่เป็นสายเปิดกาชาจนได้อาวุธของตัวละครอย่าง Vortex Vanquisher อันนี้คือสามารถใช้ได้กับสายดาเมจครับ เอาจริงๆ หอก 5 ดาวนี่สามารถใช้ได้ทั้ง 3 อันครับ จะมี Skyward ที่เหมาะกับสายเน้นซัพพอร์ทมากกว่าอันอื่นที่เป็นสายดาเมจที่ดีกว่า (แต่ก็ใช้ได้หมดแหละ) ส่วนถ้าหอก 4 ดาวนั้น สายกายภาพจะแนะนำ Crescent Pike ที่เป็นหอกคราฟท์ครับ เพราะออพชั่นมันเพิ่มความเสียหายกายภาพโดยตรง หรือใครที่กดหอก Battle Pass มาก็ใช้ได้ดีทั้งสายกายภาพและสายโจมตีธาตุหินเช่นกันครับ ส่วนคนที่เล่นสายซัพพอร์ทอาจจะต้องการฟื้นฟูพลังงานก็สามารถใช้ Favonius Lance หรือไม่ก็หอกคราฟท์อย่าง Prototype Grudge ก็ใช้งานได้ดีเช่นกันครับ ส่วนใหญ่ก็จะใช้วนๆ กันอยู่แถวๆ นี้นะ
อาร์ติแฟกต์ที่ใช้
- สายกายภาพ – สายนี้แน่นอนว่าเราเน้นไปที่ความเสียหายกายภาพหรือเลขดาเมจสีขาวครับ ดังนั้นอาร์ติแฟกต์ที่แนะนำก็จะเป็น Bloodstained 2 ชิ้นเพื่อเพิ่มความเสียหายกายภาพ 25% ครับ ส่วนอีก 2 ชิ้นอาจจะใส่เป็น Gladiator เพื่อเพิ่มความเสียหายโดยรวมได้ หรือถ้าใครที่ขาดอัตราคริอยู่ก็สามารถใส่ 2 Berserker ไปก่อนได้เช่นกันครับ (แต่มันมีแค่สีม่วง สุดท้ายเราต้องเปลี่ยนอยู่ดีนะ) ตรงตำแหน่งถ้วยเราก็จะใส่ออพชั่นหลักเป็นโบนัสความเสียหายกายภาพ ส่วนตำแหน่งหมวกก็ใส่เป็นอัตราคริหรือความแรงคริแล้วแต่ว่าขาดอะไรมากกว่ากันหรืออันไหนเข้าเซ็ทพอดีครับ
- สายความเสียหายดิน – สายนี้หลักๆ เราจะต้องหาอาร์ติแฟกต์ Archaic Petra 2 ชิ้นเพื่อเพิ่มความเสียหายธาตุหิน 15% แน่นอน แต่อีก 2 ชิ้นสามารถเลือกได้ 2 แบบก็คือ Gladiator ที่เพิ่มความเสียหายโดยรวม หรือ Noblesse ที่จะเน้นเพิ่มความเสียหายท่าไม้ตายให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น เพราะตัว Planet Befall มีความเสียหายที่รุนแรงมากในการโจมตี 1 ครั้ง (หรือที่เรียกกันว่า Nuke) ตำแหน่งถ้วยก็ใช้โบนัสความเสียหายหินเป็นหลัก หมวกก็ใส่อัตราคริกับความแรงคริเหมือนเดิมครับ
- สายซัพพอร์ทล้วน – สายนี้แนะนำให้ใส่ Noblesse 4 ชิ้นครับ เนื่องจากเวลาที่เราใช้ท่าไม้ตายออพชั่น 4 ชิ้นของ Noblesse จะทำให้ตัวละครทีมเราได้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 20% เป็นเวลา 12 วินาที ซึ่งมันเท่ากันกับคูลดาวน์ของท่าไม้ตาย Planet Befall พอดีๆ (จริงๆ ไม่ต้องเป๊ะขนาดนั้นก็ได้นะ) รวมไปถึงตัวละคร Main DPS เราตัวอื่นที่ถ้าหากเราเล่น Zhongli สายนี้ เราสามารถให้ตัวอื่นเราใส่ Retracing Bolide 4 ชิ้นได้เหมือนกันครับ เพราะเมื่อเรากาง Jade Shield แล้วสลับมาตัวที่ใส่อาร์ติแฟกต์นี้ ก็จะทำให้ตัวโล่แข็งแกร่งขึ้นพร้อมทั้งเพิ่มความเสียหายการโจมตีปกติและชาร์จโจมตีถึง 40% ด้วยครับ สำหรับตำแหน่งถ้วยและหมวกก็อาจจะใส่เป็นพลังชีวิตได้เพราะตัว Jade Shield เองจะเพิ่มความหนาตามเลือดสูงสุดของ Zhongli หรือส่วนหมวกเราอาจจะใส่ฟื้นฟูพลังงานบ้างสำหรับคนที่อยากเอาชัวร์ว่าจะใช้ท่าไม้ตายได้อย่างต่อเนื่อง (และไม่ได้มีตัวธาตุหินอีกตัวไว้คอยช่วยฟื้นฟูพลังงาน)
สรุปสุดท้ายนี้ เนื่องจาก Zhongli เองเป็นตัวละครนึงที่มีเสียงวิพากย์วิจารณ์แตกต่างกันอย่างมาก มีทั้งคนบอกว่าเก่งมากๆ OP จัดๆ ไปจนถึงคนที่บอกว่าตัว 4 ดาวยังเก่งกว่า ไม่คุ้มค่าเปิด ถ้าคุณอวยตัวละครนี้แบบผม เปิดหาไปเถอะครับ ได้เล่นอย่างมีความสุข สามารถปั้นมาเป็น Main DPS ในทีมได้แน่นอน แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องความเก่งตัวละครมากๆ Zhongli จะไม่ค่อยเหมาะในการสร้างความเสียหายจริงจังเท่าไหร่ แต่จะไปเหมาะกับการนำมาเป็นตัวอรรถประโยชน์มากกว่า เอามากางโล่ Jade Shield เพื่อป้องกันความเสียหายให้ตัวละครอื่น เอามาโยนอัลติเพื่อสาปหินเป็นกลุ่มซักหน่อยอะไรงี้ เอาจริงๆ ผมชอบ Jade Shield มากเลยนะ มันป้องกันความเสียหายได้เยอะดี เอาจริงๆ ตอนนี้ที่ประเทศจีนเขาก็มีดราม่ากันว่า Zhongli ที่เป็นเทพดินตัวแทนแห่งเขตประเทศจีนดูอ่อนแอกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งที่ค่ายเกมก็เป็นของจีนด้วยครับ ส่วนผมบอกเลยว่าผมชอบตัวละครนี้มากๆ เพราะงั้นก็จะใช้ต่อไปครับ ฮ่าๆ
Genshin Impact สารจากผู้พัฒนา พร้อมเผยระบบใหม่ใน 1.2: https://www.online-station.net/pc-console-game/338590/
