รีวิว Project CARS 3 สานต่อซีรีส์เกมรถแข่งที่สมจริง!

รีวิว Project CARS 3 สานต่อซีรีส์เกมรถแข่งที่สมจริง!

วันวางจำหน่าย: 28 สิงหาคม 2563
ข้อมูล: https://www.projectcarsgame.com/three/
ราคา: 1,390 บาท (Steam)

สำหรับ Project CARS นั้นถูกเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2015 ตัวเกมนำเสนอรูปแบบการแข่งรถที่สุดสมจริงและก็ได้รับความนิยมจากนักเล่น เกมสาย Racing ทั่วโลก ก่อนจะมาปล่อย Project CARS 2 ในปี 2017 ซึ่งตัวเกมก็ยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้อย่างดี มาในปี 2020 ทางผู้พัฒนาฝีมือดี อย่าง Slightly Mad Studios ก็พร้อมที่จะจูงมือผู้เล่นสู่ประสบการณ์การเล่นเกมแข่งรถที่ถูกยกระดับไปอีกขั้นใน Project CARS 3 ซึ่งในวันนี้ทางทีมงาน Online Station จะมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันว่าตัวเกมนั้นมีข้อดี จุดเด่น หรือข้อด้อยตรงไหนบ้าง และมันน่าซื้อมาเล่นหรือไม่? ว่าแล้วไปดูรายละเอียดของเกมนี้พร้อมกันครับ

เกมเพลย์ที่สมจริง
ในโหมด Career จะพาผู้เล่นไปสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่สมจริงในรายการแข่งรถต่างๆ ซึ่งในแต่ละสนามก็มีเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป เช่น เข้าเส้นชัยตามเวลาที่กำหนดในแต่ละสนาม การดริฟต์รูปแบบต่างๆ รูปแบบการแข่งขันเหล่านี้สร้างความท้าทายให้กับ ผู้เล่นได้เป็นอย่างดี โดยแรกเริ่มเกมนั้น Project CARS 3 จะให้ผู้เล่นได้ปรับแต่งตัวละครในรูปแบบต่างๆ ตามใจชอบ ทั้งบุคคลิก เครื่องแต่งกาย หมวกและอื่นๆ จากนั้นจะเริ่มต้นการแข่งในฐานะนักแข่งหน้าใหม่ที่ต้องไต่เต้าจากการแข่งขันสนามต่างๆ เก็บคะแนน และสร้างชื่อเสียงให้โด่งดัง

ซึ่งแรกๆ ต้องขอบอกว่าผมต้องปรับตัวกับการเล่นอยู่สักหน่อย เพราะมันค่อนข้างขับยากอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อลองเล่นไปได้สักพัก รู้สักจังหวะในการเข้าโค้ง เหยียบเบรก ผ่อนคันเร่ง และเข้าเส้นชัยติดลำดับกลุ่มต้นๆ ก็รู้สึกว่าเกมมันชักจะสนุกเเล้วละ (555+) และเมื่อแข่งจบในแต่ละรายการแล้ว ผู้เล่นจะได้รับค่าประสบการณ์ เงิน ชิ้นส่วนรถเพื่อนำไปอัปเกรดหรือปรับแต่งรถของเราให้แรงขึ้นไปอีก แต่ละชิ้นส่วนทางทีมงานก็รังสรรค์รายละเอียดได้ดีและใส่รายละเอียดการปรับแต่งได้เกือบทุกส่วนของตัวรถ ไล่ไปตั้งแต่ล้อถึงเลขทะเบียนรถกันเลยทีเดียว ถ้าหากใครชอบปรับแต่งรถ ระบบในเกม Project CARS 3 ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน! สิ่งนี้เรียกว่าถูกใจขาแต่งรถอย่างผมมากๆ

นอกจากได้รับรางวัลต่างๆ หลังจากการแข่งขันแล้ว เรายังสามารถปลดล็อครถรูปแบบใหม่ๆ เพิ่ม เพื่อใช้ในการขับขี่ในสนามแข่งอื่นๆ เพิ่มได้อีกด้วย ซึ่งตรงจุดนี้มันช่วยให้ผู้พยายามกำชัยชนะเพื่อปลดล็อกรถค่ายดังๆ ในฝัน ตัวเกมภาคนี้มีจำนวนรถให้ปลดล็อกมากขึ้นกว่าภาคที่สอง นอกจากนี้ตัวเกมยังมีระดับความยากให้เลือกทั้ง 5 ระดับ สำหรับมือใหม่ที่อยากเล่นแบบชิลล์ๆ ก็เลือกเล่นง่ายสุดเลย แต่ถ้าเกมเมอร์คนไหนที่ต้องการความท้าทายก็ปรับระดับไปที่ยากสุดได้เลย

สำหรับในการทดสอบการเล่นเกม Project CARS 3 นั้น ผมได้ลองใช้จอยพวงมาลัย Thrustmaster TMX Force Feedback ซึ่งช่วยเพิ่มอรรถรสในการขับขี่ภายในเกมได้เป็นอย่างดี คือเหมือนกับว่าเราได้นั่งหลังพวงมาลัยแข่งอยู่ในสนามจริงๆ เชื่อว่าถ้าใครเป็นแฟนเกมสาย Racing ต้องจัดจอยพวงมาลัยแจ่มๆ เอาไว้ใช้งานกันสักตัว

มีรถและสนามแข่งให้เลือกเล่นมากมาย
ต้องขอบอกว่าภายในเกม Project CARS 3 นั้นมีรถแข่งให้เลือกเล่นหลายค่ายดังระดับโลก ไล่ไปตั้งแต่ Ferrari, Ford, Jaguar, Lamborghini, McLaren, Mercedes-Benz, Porsche, Audi, BMW, Chevrolet Corvette นอกจากนี้ยังมีค่ายดังในเอเซียอย่าง Honda, Mitsubishi Motors, Toyota และ Nissan และแต่ละแบรนด์ก็มีก็มีรถอยู่หลายรุ่นแยกย่อยออกไปต่างหาก แบบว่ามีให้ผู้เล่นได้เลือกขับขี่กันอย่างจุใจ (มากกว่า 200 คันเลยทีเดียว) ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าดีมากๆ ที่ทำให้ผู้เล่นได้ลองขับขี่รถในหลากหลายค่าย และได้รับประสบการณ์การเล่นที่แตกต่าง โดยรถแต่ละคันก็มีสมรรถนะการขับขี่ที่แตกต่างกัน ตัวเกมยังมีระบบการปรับแต่งรถให้มากอีกด้วย มันช่วยให้มีการเล่นที่ลุ่มลึกมากไปอีกขั้น

ส่วนสนามแข่งก็มีอยู่มากมายเช่นเดียวกัน เช่น ตัวสนามแข่งนั้นมีมากกว่า 120 สนามทั่วโลก ทั้ง Brands Hatch, Cadwell Park ในประเทศอังกฤษ หรืออย่างสนาม Rouen-Les-Essarts ในประเทศฝรั่งเศส เป็นต้น ทำให้ Project CARS 3 ดูสมจริงมากๆ

กราฟิกสวยงามและระบบเสียงสุดสมจริง
ในส่วนของกราฟิกต้องขอขอบคุณlสุดยอดเอนจิ้นที่รังสรรค์องค์ประกอบต่างๆ ภายในเกมได้อย่างสมจริงในทุกด้าน เกมเพลย์ที่ยกระดับความสนุกไปอีกขั้น สภาพแวดล้อมต่างทั้งสนามแข่งและองค์ประกอบต่างๆ ของตัวรถ ผู้คนที่เชียร์บริเวณชอบสนามหรือบนอัฒจันทร์ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเกมแข่งรถที่มีระบบกราฟิกไม่น้อยหน้าเกมไหนเลย และที่น่าประทับใจคือระบบสภาพอากาศภายในเกมที่ทีมงานรังสรรค์ออกมาได้อย่างสมจริง เช่น การแข่งขันในสนามที่มีฝนตก เราจะได้เห็นฝุนละอองน้ำบริเวณล้อบดไปกับพื้นถนน หยาดฝนบนกระจกหน้า การเข้าโค้งหักมุมที่ต้องระวังกว่าเดิม เสียงเครื่องยนต์ที่คำรามบดสนาม และรู้สึกว่ามันจะขับยากกว่าเดิมต้องกะจังหวะเข้าโค้งหรือเหยียบเบรกให้ดีๆ ไม่งั้นได้ชนกับรถแข่งคันอื่นแน่

ถือว่าสภาพอากาศในสนามแข่งเป็นตัวแปรวัดฝีมือการขับขี่ได้เป็นอย่างดี สิ่งต่างๆ เหล่านี้ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นได้เป็นอย่างดี แบบว่าเหมือนตัวเราเข้าไปนั่งขับรถแข่งจริงๆ ก็ไม่ผิดนัก เรียกว่าทางทีมงานเก็บองค์ประกอบต่างๆ ได้ละเอียดมากๆ ส่วนการแข่งรถในช่วงเวลากลางคืน สภาพเเวดล้อมต่างๆ แสงสีจากตัวรถหรือภายในสนาม, จากตึกสูงๆ หรือป้ายโฆษณาต่างๆ ก็ถูกรังสรรค์ออกมาได้อย่างลงตัว สมจริง

แม้ว่าตัวเกมจะมีรายละเอียดที่สวยงามสมจริง แต่ Project CARS 3 กลับไม่ได้กินสเป็คคอมพิวเตอร์มากนัก คอมพ์ในระดับปานกลางก็เล่นเกมนี้ได้อย่างเต็มอรรถรส เรียกว่านี่คืออีกหนึ่งข้อดีของเกมนี้เลยละครับ

การเล่นออนไลน์ร่วมกับผู้เล่นทั่วโลก
ระบบการเล่นออนไลน์นั้นท้าทายไม่แพ้กัน คุณจะได้เผชิญหน้ากับนักแข่งคนอื่นๆ ในรูปแบบการแข่งที่สนุกและหลากหลาย และแบ่งออกเป็นโหมด Quick Playม Scheduled Event และ Custom Lobby แน่นอนว่าเมื่อได้ชัยชนะย่อมจะได้รับแต้มเอาไว้ใช้อัปเกรดและปลดล็อกชิ้นส่วนต่างๆ ของรถได้ด้วย จะมีข้อเสียหน่อยคือบางทีใช้เวลานานมากในการแข่งกับผู้เล่นคนอื่นๆ

ข้อเสียเล็กๆ ที่พบเจอ
Project CARS 3 นั้นไม่รองรับระบบการเล่นข้ามแพลตฟอร์ม ทำให้เราไม่สามารถเล่นเกมนี้่ร่วมกับเพื่อนๆ ที่อยู่คนละแพลตฟอร์มได้ เช่น อีกคนหนึ่งเล่นบน PC อีกคนเล่นบนเครื่องคอนโซลก็จะไม่ได้เล่นร่วมกันนั่นเอง อีกทั้งเกมนี้ยังไม่รองรับระบบ Ray Tracing หรือการแสดงผลทางด้านแสงเงาระดับสูงที่มีอยู่ในการ์ดจอค่าย NVIDIA ด้วย ทำให้เกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์บางคนอาจจะไม่ได้รับอรรถรสเท่าที่ควร

บทสรุป
ต้องขอบอกว่าเกม Project CARS 3 ช่วยสร้างประสบการณ์การแข่งขันที่น่าประทับใจ ตัวเกมมีจุดเด่นทั้งในเรื่องของเกมเพลย์ที่เล่นได้สนุก ระบบกราฟิกที่สวยงาม สมจริง ต้องขอขอบคุณทางทีมผู้พัฒนา Slightly Mad Studios ที่ใส่ใจ รวมถึงโหมดการเล่นหลากหลายระบบการแต่งรถที่มีชิ้นส่วนให้อัปเกรดเยอะมากๆ หากเพื่อนๆ คนไหนที่ในตอนนี้กำลังมองหาเกมแข่งรถที่สวยงามสมจริง เน้นทุกรายละเอียดผมอย่างบอกว่า Project CARS 3 คือคำตอบสุดท้ายครับ

ความต้องการระบบ
ขั้นต่ำ:
ระบบปฏิบัติการ: Window 10 (+ speficic versions of 7)
หน่วยประมวลผล: 3.5 GHz Intel Core i5 3450 or 4.0 GHz AMD FX-8350
หน่วยความจำ: แรม 8 GB
กราฟิก: GTX680 or equivalent
DirectX: เวอร์ชัน 11
หน่วยบันทึกข้อมูล: พื้นที่ว่างที่พร้อมใช้งาน 50 GB
การ์ดเสียง: Direct X compatible sound card
หมายเหตุเพิ่มเติม: For VR or triple screen use, GTX980 or equivalent

แนะนำ:
ระบบปฏิบัติการ: Windows 10
หน่วยประมวลผล: Intel i7 8700k or AMD Ryzen 7 2700X
หน่วยความจำ: แรม 16 GB
กราฟิก: Nvidia RTX 2070 or AMD RX5700
DirectX: เวอร์ชัน 11
หน่วยบันทึกข้อมูล: พื้นที่ว่างที่พร้อมใช้งาน 50 GB
การ์ดเสียง: DIrectX compatible sound card
หมายเหตุเพิ่มเติม: For VR or triple screen use, RTX 2080 or equivalent