Trials of Mana 25 ปีที่รอคอย ศึกศิลามานาและความคลาสสิคที่ยังคงอยู่
อีก 1 ไตเติ้ลที่เป็นตำนาน RPG ของทาง Square Enix อย่างซีรี่ส์ของ Mana ที่ได้ถูกนำกลับมาปัดฝุ่น Remake ใหม่อีกเกมกับ Trials of Mana หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ Seiken Densetsu 3 นั่นเองครับ แน่นอนว่าผมเองก็เป็นแฟนเกมนี้เช่นกัน จึงไม่พลาดที่จะนำมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันว่าในเวอร์ชั่นนี้จะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง หรือการรีเมคครั้งนี้คุ้มมั้ยกับเงินจำนวน 1,590 บาทที่ต้องจ่ายไปครับ
เกริ่นกันซักนิดก่อนละกันครับเผื่อใครไม่ได้ติดตามเกมนี้มาแต่แรก Trials of Mana เป็นภาคที่ 3 ของซีรี่ส์ Mana (ภาค 2 ที่ชื่อ Secret of Mana มีภาษาไทยด้วยนะ) เป็นเกมแนว Action RPG จาก Square Enix จากยุคปี 1995 บนเครื่อง Super Famicom ที่ถูกนำมา Remake ใหม่ ตัวเกมจะให้เราได้เลือกรับบทเป็นผู้กล้า 3 คน จากทั้งหมด 6 คนด้วยกัน ได้แก่ Duran, Angela, Kevin, Charlotte, Riesz และ Hawkeye สามารถเลือกเล่นได้อย่างอิสระ ซึ่งก็จะมีเนื้อเรื่องแตกต่างกันไปเล็กๆ น้อยๆ แต่ทั้งหมดจะถูกเซทอัพด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับ ต้นไม้มานาที่คอยให้พลังแก่ศิลามานาในการดูและโลกนี้กำลังค่อยๆ หมดพลังลง เหล่าปิศาจที่ต้องการครอบครองโลกใบนี้ก็ฉวยโอกาสในการก่อกำเนิดสงครามระหว่างอาณาจักรต่างๆ เพื่อยึดพลังมานามาเป็นของตนเอง ศึกชิงดาบแห่งมานาจึงเริ่มต้นขึ้นผ่านการเล่าเรื่องของ 3 ตัวละครที่เราได้เลือกมานั่นเองครับ
การเลือกตัวละคร 3 คนนั้นก็ยังมีผลเกี่ยวกับเนื้อเรื่องของเกมอยู่เหมือนเดิมครับ การจับคู่ตัวละครที่มีศัตรูแบบเดียวกันก็มีบทสนทนาและรายละเอียดของเนื้อเรื่องเพิ่มเติมเข้ามาเช่นเดิม แต่ด้วยความที่ว่าครั้งนี้ตัวเกมได้ใส่เสียงพากย์ Full Voice เข้ามาและหน้าตาท่าทางตัวละครที่เห็นได้ชัดยิ่งขึ้นวก่าสมัยก่อน ทำให้เราสามารถอินกับเนื้อเรื่องได้มากขึ้นพอสมควรครับ ส่วนตัวเนื้อเรื่องเองยังคงเหมือนกับต้นฉบับเกือบจะ 100% เลยทีเดียว ถึงฉากสำคัญก็จะตัดเข้าคัทซีนพูดคุยของตัวละครให้ได้นั่งดูกันเล็กน้อย (แต่ไม่มี CG พิเศษอะไรนะ) เมืองต่างๆ ก็จะมีไอเทมซ่อนอยู่ตามมุมเพิ่มขึ้น แต่ยังมีไว้เป็นที่แค่พักผ่อน สลับกลางวัน/กลางคืน ซื้อไอเทม ซื้อของส่วมใส่ที่เพิ่ม Stat ขึ้นไปเรื่อยๆ เท่านั้นครับ ตัวดันเจี้ยนก็จะมีจุดเซฟให้ก่อนถึงบอสเสมอ เรียกว่าก็ยังคงความคลาสสิคเก่าๆ ไว้เช่นเดิม
มาดูที่ระบบการต่อสู้ของเกมกันต่อครับ แม้ว่าจะเป็น Action RPG เหมือนเดิม แต่ของเก่าจะเป็นแบบ 2D และเมื่อโจมตีก็จะมีการรอจังหวะเหมือนมีคูลดาวน์ถึงจะทำการโจมตีต่อได้ แต่ในเวอร์ชั่น Remake ตัวเกมได้เปลี่ยนเป็น Action เต็มรูปแบบแล้ว กดโจมตีคอมโบได้ตลอด ต้องกลิ้งหลบสกิลต่างๆ ด้วยตัวเอง และด้วยความเป็น 3D ทำให้ศัตรูที่บินก็ต้องกระโดดโจมตีรวมไปถึงการโจมตีที่ต้องโจมตีให้ถูกทิศทางด้วย ส่วนพวกการร่ายเวท และสกิลของคลาสและสกิลของมอนสเตอร์ต่างๆ นั้น จะไม่ได้บังคับโดนเหมือนของเก่าแล้ว แต่จะเป็นพื้นสีแดงขึ้นมาบอกอาณาเขตโจมตีแทน เราจะต้องทั้งเล็งให้โดนเองและหลบเอาเองครับ ทำให้มอนสเตอร์หลายตัวมีการโจมตีที่กว้างขึ้นเพื่อให้เราหลบยากขึ้นแทนที่จะบังคับโดนครับ ดังนั้นบางตัวจะเก่งขึ้น และบางตัวก็จะอ่อนลงตามลักษณะของสกิลถ้าเทียบจากของเดิม แม้ว่าตัวเกมจะเปิดให้เราสามารถบังคับตัวละครเองได้ทั้ง 3 ตัวแล้ว แต่ว่า AI ของเพื่อนเราค่อนข้างที่จะแย่มากเลยทีเดียว ทั้งการไม่หลบการโจมตีต่างๆ การไม่ทำเมคานิคบอสจนโดนความเสียหายแรงๆ ทำให้หลายครั้งผมปล่อยให้เพื่อนเรานอนไปเลยตัวนึงครับ ไม่งั้นเปลืองของ แต่เรื่องการใช้สกิล ใช้ไอเทม เราสามารถตั้งค่าได้ และถือว่าทำมาโอเคดีครับ
สิ่งใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในภาคนี้ที่เกี่ยวกับการเล่นก็คือเรื่องของการอัพ Stat ครับ เมื่อก่อนคือการอัพ Stat เพื่อเพิ่มค่าพื้นฐานต่างๆ ทางด้านนั้นให้เก่งขึ้น แต่ในเวอร์ชั่นนี้ เมื่ออัพ Stat ถึงระดับหนึ่งก็จะได้รับความสามารถต่างๆ มาไม่ว่าจะเป็น Abilities ที่เป็นเหมือน Passive ติดตัว บาง Abilities สามารถแชร์ให้ตัวละครอื่นใส่ได้ด้วย หรือแม้กระทั่ง Moves ต่างๆ ที่เป็นสกิลกดใช้ก็ต้องอัพ Stat เพื่อปลดล็อคเช่นกัน ดังนั้นการอัพ Stat ค่อนข้างส่งผลเยอะในการเล่นมากๆ แล้ว โดยที่ค่าสูงสุดของ Stat จะตันอยู่ที่ 67 หน่วย/stat เลยทีเดียวครับ ส่วนการเปลี่ยนสายอาชีพนั้นยังเหมือนเดิมก็คือมีการเปลี่ยนแบบสาย Light/Dark ที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือ Class 4 นั่นเองครับ ซึ่งจะเปลี่ยนได้ตอนเนื้อเรื่องพิเศษและล็อคคลาสตามสาย Light/Dark ที่เปลี่ยนมาครับ อ้อ แล้วก็จะมี Abilities ตามสายอาชีพเพิ่มเข้ามาที่เรียกว่า Locked Abilities ด้วย
สำหรับ End Game ของเวอร์ชั่น Remake ก็คือเนื้อเรื่องใหม่ที่เพิ่มเติมหลังจากที่เรากำจัดบอสใหญ่ตามเนื้อเรื่องซึ่งจะมีทั้งหมด 6 Chapter ถ้าเล่นแบบเส้นตรงไม่ได้ฟาร์ม ไม่ได้แวะอะไรมาก (ซึ่งภาคนี้ไม่จำเป็นต้องแวะเท่าไหร่) ก็จะอยู่ที่ราวๆ 20 ชั่วโมงบวกลบนิดหน่อยต่อรอบครับ หลังจากนั้นเราก็จะเข้าสู่ Chapter 7 ที่เป็นเนื้อเรื่องพิเศษสำหรับภาคนี้ ซึ่งเนื้อเรื่องจะพาให้เราไปหาไอเทมเปลี่ยน Class 4 และไปสู้กับบอสตัวใหม่ และมีการเพิ่มดันเจี้ยนใหม่ของบอสตัวนี้เข้ามาให้เล่นกัน รวมๆ แล้วก็จะกินเวลาไปอีกราวๆ 2 ชั่วโมงได้ครับสำหรับเนื้อเรื่องบทนี้ก็จะเป็นอันจบและปลดล็อคโหมดใหม่ก็คือ New Game+ นั่นเอง อย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่าเกมนี้จะเล่นให้จบสมบูรณ์ต้องเล่นอย่างน้อย 3 รอบ New Game+ คือคำตอบที่จะทำให้การเริ่มรอบใหม่ไวขึ้น เพราะว่าทุกอย่างจะตามเรามาหมดเลยยกเว้นแค่ Key Item เท่านั้นเองครับ แถมยังมีการปลดล็อค Chain Ability พิเศษตามตัวละครให้เราได้ใช้ด้วย รวมไปถึงการล่ากระต่ายดำ Black Rabite เพื่อเก็บบอสให้ครบก็ยังมีอยู่เช่นเคย
โดยรวมก็จะประมาณนี้ครับสำหรับ Trials of Mana ในฐานะแฟนเกมนี้คนนึงก็ถือว่าเป็นการ Remake ที่ทำออกมาได้ให้แฟนๆ หายคิดถึงและอินกับมันมากยิ่งขึ้น ทั้งการทำเกมให้ออกมาเป็น Action RPG แบบยุคปัจจุบัน ภาพกราฟิกที่สวยงามสไตล์แฟนตาซีจ๋าๆ ระบบการเล่นต่างๆ ที่มีลูกเล่นเพิ่มขึ้นให้ได้สนุกสนานมากขึ้น มีเนื้อเรื่องใหม่เพิ่มขึ้นมาให้ได้ท้าทายกัน รวมไปถึงการเล่นแบบโหมด New Game+ สำหรับการเล่นเก็บให้ครบทั้ง 3 สายครับ แต่ข้อเสียใหญ่ๆ เลยก็คือภาคนี้ไม่สามารถเล่น 2 คนแบบภาคเก่าได้แล้ว จะใช้เป็นคนเดียวบังคับได้ทุกตัวแทน ตัวที่ไม่ได้บังคับอยู่จะใช้ AI ซึ่ง AI ก็ค่อนข้างแย่มากในการหลบสกิลต่างๆ และการทำเมคานิคของบอส จนถึงขั้นตายรัวๆ เลยก็มี มุมกล้องที่มีปัญหาตอนเข้ามุมในบางครั้ง ระบบการล็อคเป้าที่พอกดให้เปลี่ยนเป้าหมายแล้วมันเด้งกลับไปตัวเดิม ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ภาพรวมก็ถือว่าแฮปปี้มากๆ ครับ คุ้มราคา 1,590 บาทจ้า
