ทีมงาน Online Station ขอขอบคุณบริษัท Bandai Namco Entertainment ที่เอื้อเฟื้อโค้ดเกม Code Vein เพื่อใช้ในการรีวิวมา ณ ที่นี้ด้วย
รีวิวเกม Code Vein
แพลตฟอร์ม: PS4, Xbox One และ PC (ทีมงานรีวิวจากเวอร์ชั่น PS4)
ผู้พัฒนา: Bandai Namco
Code Vein เป็นเกมแนวแอ็กชั่นกึ่ง RPG แบบฮาร์ดคอร์ที่ใช้ระบบหลักๆ เหมือนกับเกมซีรีส์ Dark Souls ภายใต้การพัฒนาโดยทีมผู้สร้างซีรีส์ God Eater ที่เป็นแนวแอ็กชั่นล่ามอนสเตอร์ความเร็วสูง และมีจุดขายอยู่ตรงตัวละครที่เป็นสไตล์อนิเมะญี่ปุ่น ดังนั้นหลายคนจึงมองว่ามันเป็นเกม Dark Souls แบบกลิ่นอายอนิเมะ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มันก็เป็นอย่างที่เขาว่านั่นแหละครับ แต่ว่าเมื่อเราเล่นไประยะหนึ่งก็จะพบกว่าตัวเกมก็มีเอกลักษณ์เฉพาะของตนเองที่น่าสนใจอยู่ด้วย กอปรกับเมื่อเรารู้เนื้อเรื่องของเกมที่ปะติดปะต่อกันแล้ว มันก็จะทำให้เราไม่อยากกดข้ามช่วงเล่าเรื่องไปสักตอนเลย
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวของ Code Vein จะดำเนินผ่านมุมมองของตัวเอกที่เป็นตัวละครที่เราสร้างขึ้น ซึ่งเมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองสูญเสียความทรงจำและไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว แต่เป็นพวก Revenant ซึ่งเป็นมนุษย์ที่เคยเสียชีวิตแต่ได้รับการฝังปรสิตชนิดหนึ่งเข้าในร่าง ทำให้ฟื้นมามีชีวิตอีกครั้งและไม่มีอายุขัย แต่ว่าจะต้องคอยดื่มเลือดมนุษย์และต้องสวมหน้ากากเพื่อป้องกันละอองพิษไม่เช่นนั้นจะเสียสติและมีอาการคลุ้มคลั่ง ซึ่งในดินแดนที่มนุษย์ธรรมดาเหลือน้อยมาก Revenant จึงต้องหันไปหาเลือดทดแทนจากผล Blood Bead ซึ่งเป็นเหมือนผลไม้ที่มีเลือดอยู่ในนั้น ตัวเอกที่ร่วมเดินทางกับหญิงสาวลึกลับ IO ก็ได้รู้ตัวว่าตนเองมีพลังพิเศษที่สามารถอ่านความทรงจำของคนที่ตายไปแล้วผ่านทางผล Blood Bead และจะได้รับความสามารถพิเศษมาจากการอ่านความทรงจำนั้นด้วย นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางตามหาอดีตของตนเองและพวกพ้อง รวมถึงความจริงของการที่ Revenant กำเนิดขึ้นมาด้วย
เกมเพลย์
ตัวเกมจะเป็นแอ็กชั่นมุมมองบุคคลที่ 3 ที่มีการเคลื่อนไหวหลักคือ โจมตีเบา โจมตีแรง กลิ้งหลบ ป้องกัน ซึ่งไม่ว่าเราจะทำอะไรก็จะทำให้เกจ Stamina ลดลง หากเกจหมดเราก็จะไม่สามารถทำอะไรได้เลย ซึ่งตรงนี้ถ้าใครเคยเล่น Dark Souls มาก่อนก็จะเข้าใจได้ง่าย เพราะเกือบทั้งหมดของเกมแทบจะเป็นระบบเดียวกัน ตัวละครของเราจะมีจำนวนไอเทมที่ใช้ฟื้น HP ได้จำกัดครั้ง ถ้าไปถึงจุดเซฟได้ก็จะได้รับไอเทมฟื้นพลังคืนมา แต่ศัตรูตามทางที่เราเคยกำจัดไปแล้วก็จะฟื้นกลับมาด้วย วิธีการเล่นก็คือในแต่ละฉากผู้เล่นต้องพยายามสำรวจแผนที่เพื่อหาจุดเซฟจุดถัดไปในฉากให้พบในช่วงที่ไอเทมฟื้นพลังยังเหลืออยู่ ซึ่งฉากที่ค่อนข้างยาวบางครั้งก็จะมีลูกเล่นให้เราค่อยๆ เปิดทางลัดต่างๆ เช่นเลื่อนบันไดลงหรือปลดล็อคประตู เพื่อจะย่อระยะทางให้เราใช้ไอเทมฟื้นพลังที่มีจำกัดช่วยเราเดินทางไปได้ไกลขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอจุดเซฟใหม่ อนึ่ง เมื่อเราพลาดตายในการต่อสู้ ค่า Shard ที่เราได้รับจากการกำจัดศัตรูที่มีไว้ใช้อัพเลเวลและใช้แทนเงินก็จะร่วงตกลงตรงจุดที่เราตาย หากเป็นเช่นนั้นเราจะต้องเดินทางจากจุดเซฟล่าสุดกลับมาเก็บกลับคืนให้ได้โดยไม่ตายซ้ำอีกครั้งมิฉะนั้นก็จะเสีย Shard ไปถาวร ตรงนี้ก็เป็นความยากที่ท้าทายซึ่งคนที่เคยเล่น Dark Souls รู้ซึ้งดี
ส่วนการใช้เวทย์ซึ่งในเกมนี้เรียกว่า Gift นั้นจะมีทั้งใช้ยิงโจมตีตรง ใช้บัฟเสริมพลังให้ตัวละคร หรืออำนวยความสะดวกอื่นๆ โดยการใช้แต่ละครั้งจะเสียค่า Ichor ไป ยิ่ง Gift ที่ทรงพลังก็ยิ่งเสีย Ichor มาก ซึ่งค่านี้จะฟื้นได้จากการโจมตีศัตรูด้วยอาวุธประชิดเป็นจำนวนหลายครั้ง หรือใช้ท่า Drain Attack ที่เป็นการใช้เสื้อคลุมที่เราใส่อยู่เปลี่ยนรูปร่างเป็นอาวุธเข้าโจมตีศัตรู การจะใช้ Drain Attack ได้นั้นหลักๆ จะมี 4 วิธีคือ กดปุ่มโจมตีค้าง / ขณะที่โจมตีธรรมดาอยู่ให้กดปุ่ม R1 + วงกลม พร้อมกัน / เข้าแทงศัตรูจากด้านหลัง และ บล็อคการโจมตีของศัตรูด้วยปุ่ม L1 ในจังหวะที่อาวุธของศัตรูกำลังจะถึงตัวเราพอดี ถ้าเราทำ Drain Attack สำเร็จจะได้รับ Ichor ฟื้นกลับคืนมาเยอะ แถมยังจะเพิ่มปริมาณ Max Ichor ที่มีได้เป็นเวลาชั่วคราวด้วย
การอัพเลเวลในเกมนี้จะต่างจากซีรีส์ Dark Souls ตรงที่เราไม่สามารถอัพ Status ได้เอง การอัพเลเวลจึงเป็นแค่เพิ่มค่าพื้นฐานบางอย่างเช่น HP เท่านั้น แต่เราจะปรับ Status ตัวละครของเราได้จากระบบการเปลี่ยนอาชีพที่เรียกว่า Blood Code โดยแต่ละคลาสจะมีความถนัดในการใช้อาวุธต่างกัน ซึ่งจะมีบอกที่อาวุธแต่ละชิ้น เช่นอาวุธที่ต้องการ STR ขั้นต่ำเป็น B แต่เราเลือกคลาสที่มี STR แค่ C ก็จะไม่สามารถใช้งานได้ และค่าการเคลื่อนที่ก็จะมีความช้าเร็วต่างกันด้วย ถ้าเราถืออาวุธเบาและใช้คลาสที่จู่โจมรวดเร็วก็จะได้การเคลื่อนไหวแบบ Quick ที่ทำให้การกลิ้งหลบเปลี่ยนเป็นแดชหลบที่ไกลและเร็วกว่า ในทางกลับกัน ถ้าเราเลือกใช้อาวุธหนักและเลือกคลาสที่ช้าก็จะทำให้เป็น Slow ที่จะกลิ้งหลบได้ช้าลง ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้มีผลอย่างมากต่อแนวทางการเล่น
โดยในช่วงเริ่มเกมเราจะได้ Blood Code พื้นฐานมาไม่กี่อย่างคือ Fighter ที่เป็นสายโจมตีประชิด, Caster ที่เป็นสายใช้พลังโจมตีระยะไกล และ Ranger ที่เป็นสายใช้อาวุธยิงและรวดเร็ว แต่ในเกมนี้จะมี Blood Code ทั้งหมดประมาณ 30 คลาส ซึ่งนอกจากอันที่ได้ตามเนื้อเรื่องหรือได้จากการกำจัดบอสประจำฉากแล้วยังมีตกอยู่ตามฉากด้วย ในระหว่างการเดินทางเราจะต้องพยายามสำรวจแผนที่ให้ทั่วเพราะจะมีก้อนผลึกสีแดงที่เป็น Blood Code ของผู้คนตกอยู่ตามที่ต่างๆ ในฉาก เมื่อรวบรวมมาได้ครบเซ็ตแล้วก็จะสามารถเข้าไปในห้วงความทรงจำของคนนั้นได้ โดยจะเป็นฉากความทรงจำในอดีตให้เราเดินช้าๆ ดูว่าในอดีตมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แล้วก็จะได้รับ Blood Code มา ทั้งนี้ Blood Code แต่ละคลาสนอกจากจะมี Status ต่างกันแล้วยังจะมีสกิลที่เรียกว่า Gift แตกต่างกันด้วย โดยขั้นต่ำจะมีคลาสละ 4 Gift ขึ้นไป ซึ่ง Gift ก็มีทั้งแบบ Passive ที่จะมีผลอัตโนมัติ หรือ Active ที่ต้องกดใช้แล้วจะเป็นท่าพิเศษที่ต้องเสียค่า Ichor ด้วยการกำจัดศัตรูจำนวนหนึ่งเราสามารถอัพเกรด Gift ให้เต็มได้ ซึ่งเราสามารถติดตั้ง Gift พร้อมกับเวลาใช้ Blood Code อื่นได้ กลายเป็นการผสมผสานรูปแบบการเล่นที่เหมาะกับตัวเอง
เนื่องจากเกมนี้ถือว่าศัตรูจะเก่งกว่าซีรีส์ Dark Souls ในระดับนึงเลย เช่นระยะการโจมตี หรือรัศมีการโจมตีของลูกน้องตามฉาก หรือท่าโกงๆ ของบอสแต่ละตัว ดังนั้นเกมจึงมีตัวช่วยมาให้ก็คือ ตัวละคร NPC ที่เป็นเพื่อนตามเนื้อเรื่องที่จะร่วมเดินทางไปกับเราตลอดตั้งแต่ฉากแรกจนถึงจบเกมเลย โดยแต่ละคนก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันไป ถ้าเราเลือกตัวละครให้เหมาะแล้ว บางครั้งลำพังแค่เพื่อนเราก็จะช่วยกำจัดบอสให้ได้เลยโดยเราแค่ช่วยสนับสนุนก็พอ ที่สำคัญคือถ้าเราพลาดท่าตายไปเพื่อนเราก็จะใช้ Gift ส่ง HP เพื่อชุบชีวิตเราได้ด้วย ในทางกลับกันเราก็สามารถชุบเพื่อนที่ตายได้ด้วยเหมือนกัน แล้วค่อยใช้ไอเทมฟื้นพลังตัวเอง แต่ว่าทั้งเราทั้งเพื่อนก็จะมีไอเท็มฟื้นพลังที่จำกัดรวมทั้งท่าส่ง HP นี้ก็จะมีระยะเวลาคูลดาวน์หลังการใช้งานด้วย ดังนั้นเราจึงไม่อาจตายอย่างต่อเนื่องได้
สำหรับระบบมัลติเพลเยอร์ในเกมนี้ถือเป็นระบบช่วยเหลือสุดท้ายที่เหมาะจะใช้เวลาผ่านบอสประจำฉากไม่ได้แล้วจริงๆ โดยเราจะสามารถเปิดหน้าจอเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้เล่นคนอื่นได้ 1 คน และเมื่อมีคนเข้ามาแล้วก็จะสามารถช่วยกันรุมบอสร่วมกับเพื่อนในเกมที่เป็น NPC กลายเป็น 3 รุม 1 และนั่นก็ทำให้เกมง่ายขึ้นมาก แถมเรายังกดยืนค้นหาความช่วยเหลือที่จุดหน้าทางเข้าไปสู้บอสแต่ละฉากได้ด้วย ซึ่งถ้าเราเอาชนะได้สำเร็จและไม่พลาดตายเสียก่อนก็จะได้รับรางวัลตอบแทนด้วย
กราฟิกและการนำเสนอ
กราฟิกตัวละครเป็นเป็นสไตล์อนิเมะแบบ God Eater ราวกับว่าทีมพัฒนาพยายามทำให้ผู้เล่นคิดว่าทั้งสองซีรีส์นี้มีอะไรเชื่อมต่อถึงกันโดยที่ไม่บอกเราตรงๆ ตัวละครมีความโดดเด่นโดยเฉพาะตัวละครหญิงที่ออกไปในแนวเซ็กซี่อย่างชัดเจน ในขณะที่สิ่งก่อสร้างและฉากหลังก็ทำได้งดงามไม่แพ้เกมอื่นๆ ที่เป็นแนวเดียวกันเลย ส่วนที่น่าชื่นชมก็น่าจะเป็นช่วงที่เราได้เดินทางในความทรงจำในอดีตของผู้คนหลายต่อหลายครั้ง มันเป็นฉากนิ่งที่ให้เราเดินช้าๆ แต่กลับทำให้ไม่อยากจะกดข้ามไปเลย
จุดเด่น
- เนื้อเรื่องมีความโดดเด่นและน่าสนใจมาก เริ่มมาแบบไม่รู้อะไรเลยแล้วค่อยมาดูความทรงจำของคนปะติดปะต่อกัน
- ตัวเกมมีระบบการสร้างตัวละครด้วยตัวเองที่มีรายละเอียดให้ปรับได้เยอะมาก
- แม้บอสในเกมจะค่อนข้างยาก แต่ก็ยังพอมีตัวช่วยในการต่อสู้ทั้งเหล่า NPC และระบบออนไลน์ ทำให้ไม่รู้สึกตึงมือและเหงาเกินไป
- บรรดาท่าไม้ตายต่างๆ มีสไตล์การโจมตีที่ดูแล้วหวือหวาแบบอนิเมะญี่ปุ่น แม้ว่าบางท่าอาจไม่ได้ดีเลิศเท่าที่คิดก็ตาม
- ตัวละครสาวๆ สุดเซ็กซี่และบ่ออาบน้ำร้อนที่จะเข้าไปตอนไหนก็ได้ เป็นจุดเซอร์วิสผู้เล่นชั้นดีเลย
จุดด้อย
- การอัพเลเวลของเกมไม่ค่อยจะมีอะไรพิเศษนัก ต่อให้เราอัพเลเวลสูงขึ้นไปเป็นร้อย แต่พอสู้จริงกลับไม่ได้มีความสำคัญกับเราขนาดนั้น
- พวกไอเทมที่น่าจะหาซื้อได้ง่ายๆ กลับทำให้มีจำนวนการขายที่จำกัดหรือต้องไปหาไอเทมมาแลกเท่านั้น
- มีเงื่อนไขในภารกิจต่อไปบอกไว้ที่ฐานของเรา แต่เอาเข้าจริงๆ มันแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย
- เอฟเฟ็กต์เวลาโจมตีในการต่อสู้ยังไม่ค่อยมีอิมแพ็คมากพอ
สรุป
- สำหรับคนที่ชื่นชอบเกมสไตล์ Dark Souls แม้ว่าคุณจะไม่ใช่คนที่ชอบภาพสไตล์อนิเมะก็ตาม แต่ Code Vein ก็ถือเป็นเกมทดแทนที่อยากแนะนำเกมนึง ทั้งระบบเกมและเนื้อเรื่องถือว่าผ่านมาตรฐาน ส่วนผู้ที่ชอบภาพแนวนี้รวมทั้งเคยเล่น God Eater มาก่อน ถ้าคิดว่ารับมือกับความฮาร์ดคอร์ไหวก็แนะนำให้ลองเล่นครับ ช่วงแรกๆ อาจจะรู้สึกเนือยๆ แต่พอเริ่มได้เพื่อนครบและมี Gift ใหม่แล้วแล้วจะสนุกขึ้นมาก