ครบรอบ 30 ปี Game Boy กับ 7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องนี้
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมาถือเป็นวันครบรอบ 30 ปีการวางจำหน่ายของ Game Boy ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเครื่องดังกล่าวเป็นเครื่องเกมแฮนด์เฮลด์ที่นำเอาคุณสมบัติเด่นของเครื่อง Famicom กับ Game & Watch มาผนวกเข้าด้วยกัน คือการที่ตัวเครื่องสามารถถอดเปลี่ยนตลับเกมได้ (Famicom) และ สามารถพกพาเพื่อนำไปเล่นนอกบ้านได้ (Game & Watch) ทั้งนี้ ตลอดช่วงวงจรชีวิตของ Game Boy ตั้งแต่ปี 1989 จนเปลี่ยนผ่านไปยัง Game Boy Color ที่เป็นเครื่องแฮนด์เฮลด์เจเนอเรชั่นถัดมา 1998 หรือราวๆ 9 ปีเต็ม เจ้าเครื่องนี้ได้มอบความสุขและความทรงจำแก่เหล่าเกมเมอร์มามากมาย และในโอกาสนี้ทีมงานจึงขอพาเพื่อนๆ ไปชม 7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Game Boy กันสักหน่อยครับ
1. Game Boy เป็นเครื่องเกมพกพาที่ถือกำเนิดมาในเจเนอเรชั่นที่ 4 ของวงการเกมคอนโซล ซึ่งในยุคดังกล่าวทาง Game Boy ก็มีคู่แข่งอีกรายที่น่าจับตามองคือ Game Gear ที่ผลิตโดย Sega แถมยังข่มประสิทธิภาพด้วยการแสดงผลแบบจอสี แต่ไปๆ มาๆ ความนิยมหลังวางจำหน่ายกลับเป็น Game Boy ที่ครองตลาดแบบม้วนเดียวจบด้วยยอดขายที่มากถึง 118.69 ล้านเครื่อง (นับรวมกับ Game Boy Color) ในขณะที่ Game Gear ทำยอดขายได้แค่เพียง 11 ล้านเครื่องเท่านั้น
2. สายการผลิตของ Game Boy ก่อนจะไปสู่รุ่น Game Boy Color มีการแตกไลน์ออกมาอยู่ 2 รุ่นด้วยกัน นั่นก็คือ Game Boy Pocket ที่มีขนาดเล็กลงและเปลี่ยนมาใช้ถ่านขนาด AAA จำนวน 2 ก้อน (Game Boy รุ่นปกติใช้ถ่าน AA จำนวน 4 ก้อน) กับ Game Boy Light ที่เพิ่มไฟแบ็คไลท์เข้ามา ทำให้สามารถนำไปเล่นในที่มืดได้ ทว่า Game Boy Light จะมีวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น
3. หนึ่งในบรรดาอุปกรณ์เสริมของ Game Boy ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้น Super Game Boy ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่นำไปเสียบกับช่องใส่ตลับของเครื่อง Super Famicom ทำให้เราสามารถเล่นเกมของ Game Boy โดยแสดงผลผ่านจอทีวีปกติได้
4. เกมที่ขายดีที่สุดบนเครื่อง Game Boy คือเกม Tetris ที่เป็น 1 ในเกม Launch Title ที่วางจำหน่ายวันเดียวกับเครื่อง Game Boy นั่นเอง ซึ่งทำยอดขายไปได้ประมาณ 35 ล้านตลับ โดยมี Pokemon Red / Green / Blue ตามมาเป็นอันดับ 2 ที่จำนวน 31.3 ล้านตลับ
5. สายการผลิตของแบรนด์ Game Boy ถูกแบ่งออกเป็น 3 รุ่นใหญ่ๆ ลากยาวตั้งแต่เจเนอเรชั่นที่ 4-6 ของวงการเกมคอนโซล ก่อนที่จะเปลี่ยนไลน์การผลิตเป็น Nintendo DS ในเจเนอเรชั่นที่ 7 ซึ่งมีเพียง Game Boy Color ที่อยู่ในเจเนอเรชั่นที่ 5 เท่านั้นที่ไม่มีการปล่อยเครื่องรุ่นย่อยออกมาละลายทรัพย์แฟนๆ เพิ่มเติม ขณะที่ Game Boy Advance จะมีการทำออกมา 3 รุ่น ได้แก่ Game Boy Advance, Game Boy Advance SP และ Game Boy Micro โดย Game Boy Advance SP ถือเป็นเครื่องแฮนด์เฮลด์รุ่นแรกของ Nintendo ที่ยกเลิกการใช้ถ่านอัลคาไลน์มาเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมแทน
6. ชื่อรุ่นของ Game Boy ตัวแรกมีรหัสโมเดลว่า DMG-01 แต่ทว่าชื่อนี้กลับไม่ค่อยได้รับความนิยมในหมู่พนักงานของ Nintendo ในประเทศญี่ปุ่น ณ เวลานั้น เพราะคำว่า DMG สามารถแผลงออกมาได้เป็นคำว่า DameGame ซึ่งคำว่า Dame ในภาษาญี่ปุ่นดันมีความหมายไปในเชิงลบ ดูไม่เป็นมงคลนั่นเอง (แต่ยอดขายกลับพุ่งกระฉูดนะเออ)
7. แม้วงจรชีวิตของ Game Boy รุ่นแรกจะมีอายุเพียง 9 ปีก่อนจะเปลี่ยนยุคสู่ Game Boy Color แต่กว่าที่ Game Boy รุ่นแรกจะถูกยุติสายการผลิตอย่างถาวรก็ปาเข้าไปวันที่ 23 มีนาคม 2003 ที่เป็นยุคของ Game Boy Advance เข้าไปแล้ว นั่นก็เพราะว่ามีเกมเมอร์จำนวนไม่น้อยยังคงพยายามหาซื้อมาเก็บสะสม อีกทั้งดีไซน์ของ Game Boy รุ่นแรกมีความคลาสสิคอย่างบอกไม่ถูกด้วย
เครดิต
https://www.dualshockers.com/game-boy-turns-30-today/
