คำว่า ความพยายามไม่ทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ อาจจะเข้าข่ายเกมเมอร์สายล่าโทรฟี่อย่าง Hakoom ก็เป็นได้ครับ เพราะนับตั้งแต่ที่เจ้าตัวเริ่มตกเป็นที่รู้จักในฐานะผู้พิชิตแพลตินัมโทรฟี่บนแพลตฟอร์ม PlayStation มากที่สุดในโลกแล้ว หลายๆ สื่อก็ทยอยเข้าหาเขามากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ PlayStation สาขาภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลาง ที่เล็งเห็นความมุมานะของ Hakoom จนดึงตัวมาสัมภาษณ์เพื่อทำคลิปสารคดีความยาวกว่า 6 นาที สำหรับทำแคมเปญโปรโมท PlayStation Plus เป็นการเชิดชูวีรกรรมของเจ้าตัวที่ไล่ล่าโทรฟี่มาเป็นเวลานานถึง 11 ปีกันเลย
เพื่อนๆ สามารถชมสารคดีเส้นทางชีวิตของ Hakoom ที่จัดทำโดย PlayStation สาขาภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้ที่คลิปด้านล่างครับ (มีซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษ)
คำแปลคร่าวๆ จากซับไตเติ้ล
- เจ้าตัวมีชื่อจริงว่า อับดุล ฮาคาม (แต่ชื่อจริงที่นำมาใช้ในเฟซบุ๊คส่วนตัว รวมถึงบทสัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นคือ ฮาคาม คาริม) และใช้ชื่อไอดีใน PlayStation Network (PSN) ว่า Hakoom
- ณ วันที่อัดรายการสารคดี เขาพิชิตโทรฟี่เกมต่างๆ จาก 3 แพลตฟอร์ม (PS3, PS4 และ PS Vita) รวมกันได้ 77,000 ถ้วยแล้ว และในจำนวนนั้น ก็เป็นแพลตินัมโทรฟี่ทั้งหมด 1,970 ถ้วย เท่ากับว่าเขาเล่นเกมจนพิชิตเงื่อนไขต่างๆ ครบไป 1,970 เกมแล้วนั่นเอง
- Hakoom เริ่มเส้นทางชีวิตเป็นนักล่าโทรฟี่บนแพลตฟอร์ม PlayStation มาตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งตอนนั้นเป็นยุคของเครื่อง PS3 อยู่ และปัจจุบันเขาได้รับการบันทึกสถิติลงกินเนสเวิลด์เรคคอร์ดมาแล้วถึง 3 ครั้ง ซึ่ง 1 ในนั้นคือสถิติที่บ่งบอกว่าเขาเป็นผู้พิชิตแพลตินัมโทรฟี่บนแพลตฟอร์ม PlayStation ได้มากที่สุดในโลก โดยเขาเองพยายามที่จะทำสถิติเพิ่มอีก 4 อย่าง (ยังไม่บอกว่าเป็นสถิติอะไร) ถ้าหากสถิติใหม่เหล่านั้นได้รับการยอมรับและบันทึกหมด เขาก็จะเป็นผู้ครองสถิติกินเนสเวิลด์เรคคอร์ดถึง 7 รายการเลยทีเดียว
- ปกติแล้วเด็กๆ หรือเยาวชนจะสนใจการเล่นวิดีโอเกมกัน ส่วนพ่อแม่ของแต่ละครอบครัวก็จะไม่ค่อยสนับสนุนเท่าไหร่นัก เช่นเดียวกับในประเทศบาห์เรนที่ Hakoom อาศัยอยู่ และพ่อแม่ของ Hakoom ก็ไม่เคยปลื้มที่ Hakoom มีความชื่นชอบในการเล่นวิดีโอเกม กระทั่งเวลาผ่านไป พ่อแม่ของเขาก็เริ่มเปิดใจยอมรับได้
- สาเหตุที่เขาเป็นนักล่าโทรฟี่ตอนยุค PS3 ก็เพราะ Sony เพิ่งจะนำระบบโทรฟี่เข้ามาในยุคนั้นเอง และในช่วงเวลาดังกล่าว เขากำลังเล่นเกม Stardust (เกมแนวยานยิง) และ Uncharted ภาคแรกอยู่ พอเห็นป๊อปอัพที่ระบุว่าเขาได้โทรฟี่ปรากฏอยู่บนหัวมุมของหน้าจอ เขารู้สึกชอบโมเมนต์นั้นมาก (โดยเฉพาะเสียง “ติ๊ง!” ตอนถ้วยเด้ง)
- เมื่อใดก็ตามที่ผู้เล่นสามารถพิชิตเงื่อนไขทุกอย่างของเกมนั้นๆ ได้ ก็จะได้แพลตินัมโทรฟี่มาเป็นหลักฐานว่าคุณพิชิตเกมนั้นได้ครบ 100% แล้ว นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ Hakoom เลือกเดินเข้าสู่เส้นทางการเป็นนักล่าโทรฟี่ อีกทั้งผู้เล่นยังสามารถโชว์โทรฟี่ที่ตัวเองเก็บมาบนโลกออนไลน์ได้ด้วย โดยโทรฟี่ถ้วยแรกในชีวิตของ Hakoom ก็ได้มาจากเกม Stardust ที่เป็นเกมฟอร์มเล็ก ไม่มีแพลตินัมโทรฟี่ (มีสูงสุดแค่ถ้วยทอง)
- หลังจากไล่ล่าเก็บถ้วยมาสักพัก เขาก็ได้มีโอกาสเข้าไปเช็คอันดับของตัวเองใน Leaderboards ของกลุ่มนักล่าโทรฟี่ และพบว่าตัวเองมีชื่อติดอยู่ใน 10 อันดับแรก เลยเกิดความมุ่งมั่นขึ้นมาว่าจะต้องพาตัวเองขึ้นไปอยู่อันดับ 1 ให้ได้ ซึ่งในที่สุด Hakoom ก็ผงาดสู่อันดับ 1 ได้ตอนที่เขาพิชิตแพลตินัมไปแล้ว 65 เกมนั่นเอง
- พออยู่อันดับ 1 เขาก็เริ่มทำคลิปการเล่นของตัวเองลง YouTube และสร้างฐานความนิยมบนโลกโซเชียล จนมีแฟนๆ ติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งเวลาเช็คดูโทรฟี่ของตัวเองก็จะมีความสุขเวลาเห็นเลข 100% โชว์หลังชื่อเกม ที่แสดงให้เห็นว่าเขาพิชิตเกมพวกนั้นทะลุปรุโปร่งมาหมดแล้ว
- เกมแรกๆ ที่เขาเล่นออนไลน์บน PS3 คือ Resistance และ Killzone (เป็นเกม Exclusive ทั้งคู่) เขาพบว่าการเก็บถ้วยในโหมดออนไลน์มันมีความยากต่างจากเกมแนวซิงเกิลเพลเยอร์คนละแบบ เพราะในโลกออนไลน์ ผู้เล่นจากภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกจะมีสไตล์การเล่นแตกต่างกัน ไม่เป็นแพทเทิร์นตายตัวเหมือนเวลาเราสู้กับ AI
- เมื่อตัวเองค้นพบความสุขของเกมบน PS3 ไม่ว่าจะออนไลน์หรือออฟไลน์ เขาก็เลยตัดสินใจสมัครสมาชิก PlayStation Plus (PS Plus) เพื่อสนับสนุนบริษัท Sony ที่เขารัก นอกจากนี้เขายังชอบนโยบายของ PS Plus ที่มักจะแจกเกมฟรีทุกเดือน หรือไม่ก็ส่วนลดพิเศษของสมาชิก PS Plus ในการซื้อเกมต่างๆ ใน PlayStation Store ตลอดจนสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น Cloud ที่มีประโยชน์เวลาเขาต้องเล่นเกมที่มีฉากจบหลายแบบ และต้องสำรองเซฟไว้เพื่อเล่นให้เจอฉากจบทุกแบบจนครบ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้มาก เพราะไม่ต้องเล่นซ้ำรอบเพื่อเจอฉากจบแบบอื่น
- Hakoom มองว่าวิดีโอเกมทุกวันนี้เป็นมากกว่างานอดิเรก เนื่องจากมันสามารถประยุกต์ให้เป็นงานแบบฟูลไทม์ได้เลย ปัจจุบันมียูทูบเบอร์และสตรีมเมอร์มากมายที่เล่นเกมแล้วอัดคลิปโชว์ ไม่ก็เล่นแล้วไลฟ์สดไปพร้อมๆ กัน มีเม็ดเงินหมุนเวียนจากวงการแคสเกมหรือสตรีมมิ่งเป็นหลักหลายล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ควรให้การสนับสนุนบุตรหลานหากเขามีความสนใจหรือรักชอบในวิดีโอเกม ลองสนับสนุนเขาดู หรือสมัครเปิดช่องยูทูบให้เขาลองทำคลิปมาลงเอง ไม่ก็ลองไปนั่งเล่นเกมกับลูกเลย เดี๋ยวนี้เด็กวัย 10 กว่าปีก็สามารถทำเงินจากการเล่นเกมหรือแคสเกมได้มากมายแล้ว เขาเลยอยากแนะนำให้เกมเมอร์ลองหาช่องทางทำเงินจากการเล่นเกมดูบ้าง แล้วหมั่นพัฒนาตัวเอง ตักตวงประโยชน์จากการเล่นเกมมาให้มากที่สุด
- เจ้าตัวฝากถึงทุกคนที่ดูสารคดีของเขาว่า ถ้าคุณชอบเล่นเกม ก็เล่นไปเลย อย่าไปสนว่าใครจะคิดยังไง ลองเล่นแล้วตัดสินใจเอาเองว่าเกมที่เล่นมันดีหรือไม่ยังไง อยากเล่นเกมไหนก็เล่นไป และถ้าอยากจะมาเป็นนักล่าโทรฟี่แบบเขา ก็อย่าไปฟังที่คนชอบพูดกันว่า “เล่นเกมที่มันยากๆ สิ อย่าเล่นแต่เกมง่ายๆ เกมยากๆ สนุกกว่าเยอะ” เพราะนักล่าโทรฟี่เขาสนแต่จำนวนแพลตินัมโทรฟี่ ดังนั้นจะเกมแนวไหนก็ต้องเล่นมันให้หมด ยิ่งเป็นเกมที่เก็บแพลตินัมโทรฟี่ได้ง่ายก็ยิ่งต้องเล่น เราลิขิตเส้นทางของเราได้ว่าเราจะเล่นอะไร อย่าให้คำพูดคนอื่นมามีอิทธิพลกับเรา และสุดท้ายคือ ใช้ชีวิตให้สนุก จงสนุกกับสิ่งที่ทำ อย่าให้ใครมาชี้นำเราได้
(ล่าง) เกมต่างๆ ที่ Hakoom เก็บสะสมไว้บนชั้นวางภายในบ้าน ซึ่งเกมพวกนี้เจ้าตัวพิชิตแพลตินัมโทรฟี่มาได้หมดแล้ว พร้อมกับแปะเทปที่มีข้อความระบุว่าเกมไหนใช้เวลาเท่าไหร่ในการเก็บแพลตินัมโทรฟี่ด้วย
(ล่าง) ภาพ Hakoom ที่ได้ลงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ในฐานะผู้สร้างสถิติโลกแก่วงการเกม
เครดิต: Hakoom Fanpage
