รู้จักกับเกม Onimusha 2 มหากาพย์ซามูไรหน้าไม่หล่อ … แต่เร้าใจ

ช่วงต้นปีที่ผ่านมา Capcom ได้มีการนำเกม Onimusha ภาคแรกมารีมาสเตอร์และวางจำหน่ายให้แฟนๆ หายคิดถึงกันไปแล้วนะครับ ซึ่งก็ทำเอาแฟนๆ เรียกร้องให้ Capcom หยิบซีรีส์นี้มารีเมคใหม่ดูบ้าง ตรงนี้ก็ได้แต่รอกันไป แต่ก่อนอื่นทีมงานก็อยากจะขอพูดถึงเกม Onimusha 2: Samurai’s Destiny กันบ้าง โดยเป็นภาคต่อที่กระแสตอบรับของเกมเมอร์ในไทยแตกออกไปเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรกนั้นก็คือคนที่รับไม่ค่อยได้กับการที่เปลี่ยนตัวพระเอกจากซามาโนะสึเกะผู้มีใบหน้าอันหล่อเหลา (ต้นแบบคือ ทาเคชิ คาเนชิโระ) มาเป็น จูเบ ที่ใช้โมเดลใบหน้าจากอดีตนักแสดงที่เป็นหน้าสไตล์ญี่ปุ่นโบราณเลย กับอีกกลุ่มคือคนที่ยังรับได้กับการเปลี่ยนแปลงนี้ ว่าแล้วเรามาย้อนอดีตไปกับเรื่องราวของเกมนี้กันสักหน่อยดีกว่าครับ

(ล่าง) ภาพหน้าปกเกม Onimusha 2: Samurai’s Destiny


การพัฒนาและความเป็นมา

– ยูซากุ มัตสึดะ ผู้เป็นแบบของตัวละครยางิว จูเบในภาคนี้ เป็นอดีตนักแสดงซึ่งได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 1989 ด้วยโรคมะเร็งที่กระเพาะปัสสาวะ ทั้งนี้ ผลงานภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของมัตสึดะเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดที่มีชื่อว่า Black Rain ซึ่งฉายเมื่อปี 1989 แสดงนำโดยไมเคิล ดั๊กลาส และ แอนดี้ การ์เซีย โดยมัตสึดะแสดงเป็นตัวร้ายของเรื่องที่มีชื่อว่า ซาโต้ อย่างไรก็ตาม มัตสึดะถูกตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งปัสสาวะตั้งแต่เมื่อปี 2531 และเป็นช่วงที่กำลังจะเริ่มถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Black Rain แต่เจ้าตัวปฎิเสธที่จะเข้ารับการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัด (คีโม) โดยให้เหตุผลว่าอาจมีผลต่อการแสดง

(ล่าง) โฉมหน้าของคุณยูซากุ มัตสึดะ เมื่อครั้งยังมีชีวิต

– สำหรับใบหน้าของยูซากุ มัตสึดะนั้น บรรดาเกมเมอร์ในไทยที่เห็นโฉมหน้าของเขาในฐานะยางิว จูเบ พระเอกในเกม Onimusha 2 ต่างก็กล่าวว่าเจ้าตัวมีความละม้ายคล้ายกับคุณสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย นั่นจึงเป็นที่มาของการล้อเลียนว่าพระเอกเกมนี้หน้าเหมือนสมรักษ์นั่นเอง

– จากรายงานยอดขายล่าสุดของ Capcom เมื่อเดือนกันยายน 2018 พบว่าเกม Onimusha 2 มียอดขายรวมทั้งสิ้น 2.1 ล้านชุด ซึ่งมาจากแพลตฟอร์ม PS2 ทั้งหมด (เกมนี้ไม่มีการลงให้กับแพลตฟอร์มอื่นเลย)


พล็อตเรื่องและเกมเพลย์

– เนื้อเรื่องของ Onimusha 2 ได้เล่าว่า หลังจากที่ Fortinbras บอสใหญ่ของภาคแรกได้ถูกซามาโนะสึเกะสังหารไป โนบุนากะก็ได้นำทัพอสูรเก็นม่าบุกยึดครองแผ่นดินญี่ปุ่น พร้อมกับสั่งการให้เหล่าสมุนออกกวาดล้างทุกคนที่คิดเป็นปรปักษ์กับตน ซึ่งก็รวมถึงผู้คนในหมู่บ้านยางิวด้วย ต่อมา จูเบ ที่ออกไปทำภารกิจนอกเมืองก็ได้กลับมาพบกับสภาพของหมู่บ้านที่เพิ่งโดนทำลายยับเยิน เลยบุกตามไปล้างแค้นให้ทุกคนในหมู่บ้าน แล้วก็ได้พบกับ ทาคาโจ ยักษ์หญิงที่อ้างตนเป็นว่าแม่แท้ๆ ของจูเบ โดยเธอนั้นได้เล่าถึงแผนร้ายของโนบุนากะ พร้อมกับปลดปล่อยพลังแห่งยักษ์ให้กับจูเบ เพื่อใช้ปราบเก็นม่าและโนบุนากะ

– ทางด้านเกมเพลย์ของภาคนี้ ถือเป็นภาคแรกที่เริ่มนำระบบแปลงกายเป็นยักษ์มาใช้ โดยเมื่อผู้เล่นสังหารศัตรูบางตัวได้ มันจะดรอปวิญญาณสีม่วงออกมา ซึ่งเมื่อเราเก็บสะสมวิญญาณสีม่วงได้ครบ 5 ดวง ก็จะแปลงร่างเป็น Oni ได้โดยอัตโนมัติ และระหว่างที่เป็นยักษ์ ตัวเราก็จะเป็นอมตะชั่วครู่ พร้อมกับมีพลังโจมตีที่สูงขึ้นด้วย

– ภาคนี้จูเบจะมีเพื่อนร่วมผจญภัยอยู่หลายคนครับ ซึ่งก็มีทั้งแบบเพื่อนที่บังคับได้และไม่ได้ปะปนกัน และบรรดาเพื่อนๆ เหล่านี้ต่างก็มีชื่อที่เพื่อนๆ น่าจะคุ้นเคยกันดีหากติดตามประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมาบ้าง เช่น อังโคะคุจิ เอย์เคย์ (อังโคะคุจิเป็นชื่อวัดหนึ่งจากอนิเมะเรื่องอิกคิวซัง), มาโกอิจิ ไซกะ และ ฟุมะ โคทาโร่ เป็นต้น


ความลับต่างๆ ของเกม

– ถ้าผู้เล่นเคลียร์มินิเกมที่มีชื่อว่า Team Oni สำเร็จ ก็จะปลดล็อคระดับความยาก Issen ของโหมดเนื้อเรื่องได้ โดยในระดับ Issen นี้เราจะสร้างความเสียหายกับศัตรูและบอสได้ด้วยการใช้ท่าเคาท์เตอร์เท่านั้น (โจมตีแบบติดคริติคอล)

– ช่วงกลางเกม เราจะเจอตึกที่อยู่ใกล้กับสะพานข้ามน้ำ และจะมีวาร์ปสีเขียวอยู่ใกล้ๆ ให้เรากดใช้ไอเทม Green Wedge ที่บริเวณนั้น จะเป็นการเปิดทางเข้าสู่ Green Realm ในนั้นจะเป็นดันเจี้ยนลับที่เต็มไปด้วยศัตรูเก่งๆ มากมาย หากผ่านได้ก็จะได้รับไอเทม Red Necklace เป็นรางวัล คุณสมบัติของมันคือลดปริมาณการเสีย MP จากการใช้ท่าไม้ตายของอาวุธครับ

– เช่นเดียวกับข้อข้างบน หากผู้เล่นลุยไปถึงชั้นบนสุดของปราสาทกิฟุ ก็จะเจอวาร์ปสีม่วง ให้เรากดใช้ไอเทม Purple Wedge แล้วจะสามารถเปิดทางเข้าสู่ Purple Realm ได้ และถ้าผ่านดันเจี้ยนในนั้นสำเร็จก็จะได้ดาบไฟเป็นรางวัล โดยดาบนี้ก็คือดาบไฟเล่มเดียวกับที่ซามาโนะสึเกะเคยใช้ในภาคแรกนั่นเอง

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้