รวม 5 เควสต์แนะนำในอีเวนท์ Summer Twilight Festival ของ Monster Hunter World

เกม Monster Hunter World ของ Capcom เป็นเกมที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม โดยหลังจากที่เริ่มวางขายแล้วทางผู้สร้างก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาพัฒนาและเพิ่มมอนสเตอร์เข้าไปในเกม นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมให้ผู้เล่นได้สนุกกันเป็นระยะๆ อีกด้วย ล่าสุดทาง Capcom ก็ได้ปล่อยอีเวนท์ครั้งที่ 2 หลังจากปล่อยเกมออกมาให้ผู้เล่นได้สนุกกัน อีเวนท์นี้มีชื่อว่า Summer Twilight Festival ซึ่งได้เริ่มขึ้นแล้ววันนี้และจะดำเนินไปถึงวันที่ 26 กรกฎาคมนี้เท่านั้น และทาง Capcom ก็ได้เปิดให้ผู้เล่นทุกคนได้มีโอกาสออกล่าในทุก Event Quest ของเกม Monster Hunter World แต่อีเวนท์มีระยะเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น เราจึงคัดสรรเลือกเควสต์ที่ผู้เล่นทุกคนควรเล่นในอีเวนท์นี้ เรียกได้ว่าเป็นเควสต์ที่ห้ามพลาดเลย


1. USJ Gold Star Treatment

เควสต์นี้เดิมเป็นเควสต์ที่มีให้เฉพาะผู้เล่นในโซนญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ในอีเวนท์ทาง Capcom ได้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกคนได้ โดยเควสต์นี้ผู้เล่นจะต้องจัดการ Jagras ทั้งหมด 3 ตัวที่มีขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ เมื่อผู้เล่นเอาชนะได้ก็จะได้รับ Azure Star Shard เพื่อไปนำไปสร้าง Azure Star Blade ดาบยาวสุดเท่ที่สามารถอัพเกรดขึ้นด้วยวัตถุดิบจากอีกเควสต์หนึ่งของ USJ ที่คาดว่าจะตามมาภายหลังหรือจะนำไปสร้างชุดเกราะของน้องแมวก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ผู้เล่นยังจะได้มงกุฎจากการฆ่ามอนสเตอร์ตัวใหญ่สุดและเล็กสุดแน่นอนอีกด้วย เควสต์นี้ถือว่าเป็นเควสต์ที่พลาดไม่ได้เลยทีเดียว


2. Every Hunter’s Dream

ในเควสต์นี้ผู้เล่นจะต้องล่า Paolumu และ Rathalos ใน Arena เพื่อที่จะเอาไอเทม Master Craftman’s Blueprint มาใช้สร้าง Wyvern Ignition Steel ดาบใหญ่ติดจรวดผลงานการออกแบบที่ชนะการประกวด Capcom’s community Weapon Design Contest จนได้นำมาในเกม ดาบใหญ่นี้สามารถอัพเกรดเป็น Wyvern Ignition Impact โดยใช้ Master Craftman’s Blueprint เช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นดาบใหญ่ที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งในเกมที่ถึงแม้คนที่ไม่เคยเล่นดาบใหญ่เลยก็ต้องมีติดไว้ทีเดียว


3. Code Red

ผู้เล่นจะต้องฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมดภายใน Arena ได้แก่ Anjanath, Odogaron, Rathalos, Teostra เควสต์นี้อาจจะดูยากแต่ที่จริงแล้วมันง่ายกว่าที่คิดเลยเพราะว่ามอนสเตอร์จะค่อยๆ โผล่มาทีละตัวและแต่ละตัวก็จะมีพลังชีวิตน้อยมากๆ เพราะว่าพลังชีวิตถูกหารแบ่งระหว่างมอนสเตอร์ทั้ง 4 ตัว หลังจากที่ผู้เล่นชนะเควสต์นี้แล้วก็จะได้ไอเทม Red Orb เพื่อนำไปสร้าง ชุดเกราะของ Dante จากเกม Devil May Cry และ Dante’s Devil Sword ชาร์จเบลดที่ได้แรงบันดาบใจมาจากเกม Devil May Cry เช่นกัน โดยเกราะของ Dante นี้สามารถใส่แยกเฉพาะส่วนได้ทำให้เป็นชุดเกราะหนึ่งที่มีประโยชน์มากๆ และชาร์จเบลดเองก็ยังเท่และมีเอกลักษณ์เพราะไม่มีโล่เหมือนอันอื่นแต่จะเป็นรูนแทน


4. A Whisper of White Mane

เควสต์นี้คือ Event Quest ล่าสุดที่ทาง Capcom ปล่อยออกมา โดยมีการเสนอมอนสเตอร์ในระดับใหม่ที่เรียกว่า Arch-Tempered ซึ่งจะโจมตีแรงกว่าเดิมและยังมีท่าใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาอีกด้วย ถือว่าเควสต์นี้ออกมาเพื่อเอาใจแฟนๆ ที่ชอบความท้าทายเลยทีเดียว ทั้งนี้ ในเควสต์ดังกล่าว ผู้เล่นมีหน้าที่จะต้องจัดการ Arch-Tempered Kirin ใน Coral Highland ครับ และหากใครสามารถเอาชนะมันได้ละก็ ก็จะได้รับ Kirin Ticket เพื่อไปสร้างเกราะแกมม่าของ Kirin ที่จะมีสกิลมากขึ้นกว่าเบต้าและอัลฟา และยังมีช่องไว้ให้ใส่เพชรเพื่อเพิ่มสกิลมากขึ้น และยังใช้ทำชุดคลุม Blossom ได้ด้วย แฟนมอนฮันตัวจริงที่คิดถึงความยากสุดโหดห้ามพลาดเควสต์นี้เลยทีเดียว


5. The Deathly Quiet Curtain

เควสต์นี้เป็นอีกเควสต์หนึ่งที่ Capcom ได้ปล่อยออกมาซึ่งมี Arch-Tempered มอนสเตอร์อยู่ แต่คราวนี้จะเป็น Arch-Tempered Vaal Hazak แทน ในคราวนี้ดาเมจจากท่า Effuvial ของมันจะแรงขึ้นมากๆ และท่าพ่นควันของมันยังอัดนักล่าตายได้ในทีเดียวด้วย ทำให้เควสต์นี้เป็นความท้าทายสำหรับผู้เล่นทั้งมือโปรและมือใหม่ หลังจากชนะเควสต์นี้แล้วผู้เล่นก็จะได้ Vaal Hazak Ticket ไปทำชุดเกราะแกมม่าของ Vaal Hazak เช่นเดียวกับ Kirin และยังสามารถนำไปทำชุดคลุม Dead Stench ได้อีกด้วย ใครคิดว่าตัวเองเก่ง แน่แค่ไหนก็ไปลองล่าเหล่ามอนสเตอร์ Arch-Tempered ทั้ง Kirin และ Vaal Hazak กันเลย

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้