ย้อนกลับไปในสมัย PS1 ที่วงการเกมในไทยยังเป็นยุคมืดอยู่ จะหันมองไปทางไหนก็เจอแต่คนเล่นแผ่นผี แผ่นเถื่อนกันทั่วปฐพี ในขณะที่ชาวต่างประเทศเขาจะนิยมเล่นแผ่นแท้กัน และด้วยความที่แผ่นแท้มีราคาสูง (ซึ่งสูงเสมอในสายตาคนเล่นสายเถื่อน) คนต่างชาติเลยมักจะเลือกซื้อเกมที่น่าสนใจจริงๆ เท่านั้น ทำให้เกมพระรองจำนวนไม่น้อยได้ถูกมองข้ามไป ซึ่งนอกจากปัจจัยด้านราคาแล้ว ยังมีปัจจัยด้านคะแนนรีวิวที่หลายสำนักให้คะแนนบางเกมซะต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ทว่าพอได้เล่นจริงๆ แล้วกลับไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น ด้วยเหตุนี้ทีมงาน OS จึงขอเสนอเกม PS1 บางส่วนที่เกมเมอร์ต่างประเทศไม่ค่อยจะเหลียวแลมาให้ชมกัน ตามนี้ครับ
Fighting Force
ผู้พัฒนา – Core Design
Fighting Force เป็นเกมแนวแอ็กชั่นสไตล์เดินหน้าอัดลูกเดียว (Beat’ em Up) อารมณ์ประมาณเกม Final Fight หรือ Streets of Rage ที่ทาง Core Design หมายมั่นว่าจะเป็นซีรีส์บุกเบิกเกมแนวนี้ด้วยกราฟิกแบบโพลิกอน 3D ให้ได้ ตัวเกมจะมีตัวละครให้เลือกทั้งหมด 4 คน ซึ่งแต่ละคนก็จะมีค่าพลังและความสามารถแตกต่างกัน และเมื่อเลือกตัวละครแล้วก็ต้องออกไปลุยกับฝูงศัตรูที่จะมารุมเราเป็นระลอก โดยที่ระหว่างต่อสู้ในฉากก็จะมีไอเทมฟื้นพลังหรืออาวุธทุ่นแรงให้เก็บด้วย
อนึ่ง ในขณะนั้นด้วยความที่เกมแนวนี้ที่เป็นกราฟิกแบบ 3D ยังมีตัวเลือกไม่มาก เกมเมอร์ชาวไทยก็เลยหันมาเล่นเกมนี้เอาเพลินๆ แล้วก็ติดกันงอมแงมในเวลาต่อมา ซึ่งสวนทางกับคะแนนรีวิวจากสำนักดังๆ ทั่วโลก อาทิ IGN ที่ให้คะแนนเกมนี้เพียง 5.5 / 10 หรือแม้แต่ GameSpot ก็ยังให้แค่ 5.3 / 10 แถมยอดขายก็เรียกได้ว่าผ่านเกณฑ์ได้ทำภาคต่อแบบหวุดหวิด สุดท้ายซีรีส์นี้ก็ไปไม่รอดและจอดเพียงแค่ภาค 3 บนเครื่อง PS2 กับ Xbox ไปโดยปริยาย แต่เกมเมอร์ไทยหาได้แคร์ไม่ เมื่ออยู่ในยุคแผ่นผีเรืองอำนาจซะขนาดนั้น โดยเกมนี้น่าจะเข้าข่ายเมืองนอกมองข้ามเพราะคุณภาพเกมไม่สมกับราคากระมัง
Rival Schools
ผู้พัฒนา: Capcom
Rival Schools เป็นเกมแนวไฟท์ติ้งสุดแหวกแนวที่ใช้ธีมการประลองกันระหว่างนักเรียนต่างสถาบัน ที่นักสู้แต่ละคนก็จะมีศิลปะวิชาป้องกันตัวสุดแพรวพราว ยิ่งตัวละครหญิงเวลาใช้ท่าเตะสูงหรือเตะกวาดก็จะมีช็อตเซอร์วิสให้เห็นเป็นพักๆ ทั้งนี้ ระบบการต่อสู้จะค่อนข้างเน้นการเข้าใจง่าย ปุ่มที่ใช้ได้มีเพียง 4 ปุ่มก็จริง แต่พอเอามาเล่นด้วยกันกับเพื่อนๆ แล้วบันเทิงมาก โดยระหว่างสู้ ผู้เล่นต้องคอยเก็บเกจ Vigor ให้เต็มเพื่อที่จะสามารถใช้ท่าไม้ตายแจ่มๆ ไว้พลิกสถานการณ์ได้ ซึ่งในต่างประเทศจะไม่ค่อยได้ให้ความสนใจกับเกมนี้นัก เพราะ Capcom เองก็มีซีรีส์หลักอย่าง Street Fighter ที่หากินได้ตลอดศกอยู่แล้ว ไหนจะมี Tekken จากค่าย Namco เข้ามาเป็นตัวเลือกอีก ทว่ายุคนั้นพี่ไทยเราก็บ่ยั่นครับ พอเป็นสายปลิง ก็เลยได้มีโอกาสเล่นและรู้จักเกมนี้เยอะขึ้นนั่นเอง
Parasite Eve II
ผู้พัฒนา: Squaresoft (หรือ Square Enix ในปัจจุบัน)
ขณะที่ Resident Evil กับ Silent Hill กำลังโกยกระแสความนิยมของเกมแนวสยองขวัญในยุค PS1 ทาง Squaresoft ที่เป็นตัวพ่อแห่งแนวเกม RPG จากฝั่งญี่ปุ่นก็อยากจะเข้ามาแบ่งเค้กกับเขาบ้าง ด้วยการผุดซีรีส์ Parasite Eve เข้ามาประชัน แต่ก็ยังไม่วายใส่องค์ประกอบของความเป็น RPG เข้ามาเสริมในเกมเพลย์ด้วย ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับไปในทางที่ดี รวมถึงยอดขายด้วยเช่นกัน
จากนั้น เมื่อทางทีมพัฒนาได้ออกภาค 2 ตามมา ตัวเกมได้เปลี่ยนโฉมมาเน้นแนวแอ็กชั่นมากขึ้น พร้อมกับตัวอายะ นางเอกของเรื่องก็ได้ลาออกจากตำรวจนิวยอร์คมาอยู่ในหน่วยงานที่ปราบปรามพวกอาวุธชีวภาพโดยตรง ระบบต่างๆ ของเกมค่อนข้างเอื้อให้อายะมีลูกเล่นในการโจมตีที่หลากหลาย ไม่เอนไปที่การใช้ปืนเป็นหลักเหมือนภาคแรก แต่เหมือนแฟนๆ ที่ชื่นชอบภาคแรกจะไม่ค่อยปลื้มกับภาคนี้นัก ยอดขายก็เลยร่วงจนดูไม่จืดไปเลย
The Misadventures of Tron Bonne
ผู้พัฒนา: Capcom
ภาคสปินออฟของซีรีส์ Rockman Dash ที่เราจะได้สวมบทบาทเป็น Anti-Hero สาวนามว่า Tron Bonne ซึ่งความพิเศษของเธอคือการใช้กองทัพหุ่นส่วนตัวในการช่วยผจญภัยและไขปริศนาได้ โดยตัวเกมจะมีภารกิจมากมายให้ทำเพื่อนำเงินไปสะสางหนี้จำนวนมหาศาลที่ครอบครัว Tron Bonne เผชิญอยู่ และวิธีการหาเงินก็ไม่ได้จำกัดแค่การทำเควสต์ หากแต่วิธีผิดกฎหมายอย่างขโมยของก็ยังทำได้เช่นกัน น่าเสียดายที่ว่าตัวเอกของเกมดันไม่ใช่ร็อค วอลนัท ภาคนี้ก็เลยไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าที่ควร และด้วยระบบเกมที่พอเล่นเอาเพลินๆ ได้ เลยดูโหดร้ายไปหน่อยที่จะไม่มีเกมเมอร์เหลียวแลภาคนี้เท่าไหร่นัก
Chocobo Racing
ผู้พัฒนา: Squaresoft (หรือ Square Enix ในปัจจุบัน)
ภาพลักษณ์ของเกม Chocobo Racing นั้นมีองค์ประกอบหลายๆ อย่างที่เหมือนเป็นการนำ Final Fantasy ที่เป็นซีรีส์เรือธงของตัวเองมาผสมผสานกับ Mario Kart ซีรีส์แข่งรถโกคาร์ทชื่อดังจากค่าย Nintendo และก็แน่นอนว่าเมื่อเกมนี้วางจำหน่าย มันย่อมถูกนำไปเปรียบเทียบกับ Mario Kart อย่างช่วยไม่ได้ ซ้ำร้ายที่นักรีวิวในตะวันตกต่างรุมสับว่าเกมนี้เป็นเกมที่มีสีสันแต่ดูหยาบในด้านกราฟิก แถมดีไซน์รูปแบบสนามแข่งก็ไม่มีชั้นเชิง หรือแม้แต่การบังคับก็ยังสู้ Mario Kart ไม่ได้เลย ด้วยเหตุนี้ยอดขายในตะวันตกจึงออกมาต่ำมาก ขนาดที่ว่ายอดขาย 3 แสนชุดในญี่ปุ่นก็ยังไม่อาจช่วยพยุงหน้าตาให้เกมนี้ไว้ได้ แต่ดูเหมือนคำวิจารณ์และยอดขายในเมืองนอกจะไม่ค่อยสะเทือนกับเกมเมอร์ชาวไทยครับ เพราะตามร้านเช่าเล่นเครื่อง PS1 ในสมัยนั้นจะพบเห็นเด็กวัยเกรียนนั่งเล่นเกมนี้กันจนชินตาเลยล่ะ
