Detroit: Become Human วิเคราะห์เจาะลึกตัวละคร มาร์คัส


**หมายเหตุ บทความนี้มีการสปอยเนื้อเรื่องภายในเกม

ถ้าจะพูดถึงตัวละครที่มีสเกลเนื้อเรื่องใหญ่ที่สุดในเกม Detroit: Become Human คงหนีไม่พ้นมาร์คัส หนึ่งใน 3 ตัวเอกของเกม มาร์คัสคือตัวกลางสำคัญของเรื่องมากเพราะจะเป็นคนที่ตัดสินชะตาของแอนดรอยด์ทั้งหมดในเรื่อง การตัดสินใจของมาร์คัสจึงสำคัญมากๆ เพราะนอกจากจะส่งผลให้กับจุดจบของเนื้อเรื่องหลักแล้วยังมีผลต่อตัวละครตัวอื่นอีกด้วยในหลายๆ ด้าน

ข้อมูลของมาร์คัส 

=มาร์คัสเป็นหุ่นแอนดรอยด์ที่คอยดูแลจิตรกรชรามีชื่อว่าคาร์ล ทั้งคู่มีความสัมพันธ์เหมือนพ่อลูกแท้ๆ และเรียกอีกฝ่ายเป็นพ่อจริงๆ ในบางฉาก และนั้นทำให้ลีโอซึ่งเป็นลูกชายแท้ๆ ของคาร์ลเกลียดมาร์คัสมากๆ
=คาร์ลเป็นคนสอนมาร์คัสเรื่องความเป็นมนุษย์ผ่านปรัชญา ดนตรี ประวัติศาสตร์ และศิลปะ 
=รุ่นของมาร์คัสคือ RK200 เป็นหุ่นยนต์ชนิดที่ไม่มีการจำหน่ายเพราะเป็นหุ่นยนต์ต้นแบบของไซเบอร์ไลฟ์ และไม่มีการระบุวันที่ผลิตที่ชัดเจน ในเมนู Extra ของเกมข้อมูลตรงนี้ถูกเขียนเอาไว้ว่า “เป็นความลับ”
=เป็นตัวละครตัวเดียวที่เราจะโดนบังคับให้เป็นดีเวียนท์ในเกม (คาร่าถ้าเราไม่ขยับเลยในฉากนั้นก็ไม่เป็นดีเวียนท์)
=หลังจากเหตุการณ์ที่ทะเลาะกับลีโอ ไม่ว่าผู้เล่นจะเลือกอะไรก็ตามมาร์คัสจะโดนตำรวจยิงแต่ไม่ตาย และกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเจริโค่
=มีความสามารถในการต่อสู้สูงแม้ว่าจะไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มีการใช้งานไปในด้านนั้น และยังมีมีโปรแกรม Preconstruct หรือว่าคำนวนล่วงหน้าที่เราจะเห็นมาร์คัสใช้ในการคำนวนเวลาปีนป่ายตึกหรือ Free Running
=มีความเป็นผู้นำสูงซึงอาจจะเป็นผลมาจากความรู้ที่ได้มาจากคาร์ล จึงเป็นคนที่ใช้คำพูดโน้มน้าวได้ดีมาก แต่ถ้าผู้เล่นเลือกทางเลือกที่ผิดก็สามารถถูกไล่ออกมาจากกลุ่มเจริโค่ได้เช่นกัน และเมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นคนที่จะเป็นผู้นำแทนคือนอร์ท
=สามารถเป็นคนรักของนอร์ทได้หากผู้เล่นเลือกที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนอร์ท
=ตลอดเวลาที่เราพยายามที่จะให้มนุษย์ทุกคนยอมรับแอนดรอยด์ระดับความเห็นของประชาชนทั่วไปจะเป็นตัวสำคัญในการโน้มน้าวให้ทุกฝ่ายเห็นใจเหล่าแอนดรอยด์ซึ่งเราจะทำให้ทุกฝ่ายเห็นใจเราได้จากการเลือกที่จะแสดงจุดยืนอย่างสันติ

*รายละเอียดอื่นๆ
=รุ่น  RK200 
=ไม่ระบุปีที่สร้าง
=ส่วนสูง 185 เซนติเมตร ตาสีเขียว (ตาขวาเปลี่ยนเป็นสีฟ้าในภายหลัง) ผมดำ

**หมายเหตุ บทความนี้มีการสปอยเนื้อเรื่องภายในเกม

อันที่จริงแล้วเราไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับมาร์คัสก่อนที่จุดเริ่มต้นของเกม เรารู้เพียงว่าคาร์ลได้มาร์คัสมาดูแล แต่วาเบื่องหลังของมาร์คัสนี่เองที่ทำให้เรื่องDetroit: Become Humanนั้นน่าสนใจยิ่งขึ้น บทบาทของมาร์คัสในเกม Detroit: Become Human นั้นใหญ่มากเพราะเขาคือคนที่ปลุกให้เหล่าแอนดรอยด์ออกมาเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองที่จะมีชีวิตอยู่เทียบเท่ากับเหล่ามนุษย์ มาร์คัสจึงถูกมองเป็นผู้กอบกู้เหล่าแอนดรอยด์ไม่ว่าวิธีที่เราเลือกนั้นจะเป็นแบบไหนก็ตาม หากเราเล่นและเลือกที่จะใช้สันติวิธีมาร์คัสยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังสำหรับการอยู่ร่วมกันของแอนดรอยด์และมนุษย์อีกด้วย
 

แอนดรอยด์ตัวแรกที่กล้าจะเปลี่ยนแปลงความไม่เป็นธรรม

สิ่งที่ทำให้มาร์คัสแปลกจากดีเวียนท์ทั่วไปคือความกล้าที่จะเผชิญหน้าความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นกับเหล่าแอนดรอยด์ เราได้เห็นการพัฒนาของมาร์คัสจากแอนดรอยด์ที่ทำทุกอย่างตามที่มนุษย์สั่งจนมาเป็นคนที่สั่งให้มนุษย์ทำตามคำเรียกร้องของเหล่าแอนดรอยด์ ทุกอย่างมันเริ่มขึ้นจากการที่คาร์ลปลูกฝังให้มาร์คัสคิดอะไรนอกเหนือโปรแกรมของตัวเองและตั้งแต่นั้นมามาร์คัสก็เริ่มตั้งคำถามนั้นกับตัวเองมาตลอดว่าตัวเขานั้นสามารถเป็นอะไรได้บ้างนอกจากสิ่งที่ผู้สร้างกำหนดหรือเปล่า การเปลี่ยนเป็นดีเวียนท์ของมาร์คัสนั้นเกิดจากการความคิดที่ว่าเขาไม่ได้รับความยุติธรรมเมื่อลีโอพยายามทำร้ายเขาแต่เขากลับโดนคนที่เขานับถือเป็นพ่อสั่งไม่ให้ป้องกันตัวเอง และไม่ว่าท้ายที่สุดเราจะเลือกให้มาร์คัสทำอะไรก็ตามเขาก็จะกลายเป็นดีเวียนท์ที่ถูกใส่ร้ายโดยความคิดน้อยของมนุษย์

มาร์คัสอาจะไม่ใช่แอนดรอยด์ตัวแรกทีเป็นดีเวียนท์ แต่เขาคือตัวแรกที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงแทนที่จะหลบอยู่ในความมืด และความกล้านั้นก็ทำให้เหล่าแอนดรอยด์ตัวอื่นกล้าที่จะเผชิญกับอันตรายนั้นไปพร้อมๆ กัน และเพราะความคิดนี้นั้นเองทุกคนถึงยกให้เขาเป็นผู้นำแห่งเจริโค่ นอร์ทได้กล่าวเอาไว้ว่ามาร์คัสนั้นทำคนในเจริโค่มีความหวังว่าสักวันพวกเขาจะต้องไม่ต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนและรอวันตายไปวันๆ 
ในทางกลับกันหากมาร์คัสไม่สามารถนำเหล่าแอนดรอยด์ไปในทางที่ดีได้ เช่นทำภารกิจต่างๆ เพื่อช่วยคนในเจริโค่ล้มเหลว หัวหน้าทั้งสามคนในเจริโค่จะโหวตให้เราออก และมาร์คัสก็เป็นได้แค่เพียงคนที่กล้าจะเปลี่ยนแปลงสังคมแต่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริงเท่านั้น

การตัดสินใจของมาร์คัสมีผลกระทบโดยตรงกับตัวละครอื่นอย่างคาร่าและอลิซ (รวมไปถึงลูเธอร์ด้วยหากเขารอด) ตัวอย่างเช่นการข้ามตม.ไปยังแคนนาดาที่เจ้าหน้าที่จำเป็นที่จะต้องสแกนอุณหภูมิทุกคนเพื่อยืนยันว่าเป็นมนุษย์ หากภาคประชาชนเห็นด้วยกับมาร์คัสคนของตม.จะให้คาร่าผ่านเข้าไปแม้รู้ว่าคาร่าเป็นแอนดรอยด์ แต่หากเราเลือกที่จะก่อจลาจลตม.จะสั่งให้ทหารฆ่าทั้งอลิซและคาร่า
 

ผู้เห็นด้านที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดของมนุษย์

มาร์คัสมีชีวิตที่สุขสบายและเรียบง่ายในฐานะคนดูแลของคาร์ล เพราะเจ้านายของเขานั้นทั้งใจดีและคอยปกป้องเขาตลอด คาร์ลมองว่ามาร์คัสนั้นมีชีวิตจิตใจและสามารถคิดได้เหมือนกับมนุษย์จึงปฏิบัติกับมาร์คัสเป็นมนุษย์ สำหรับมาร์คัสแล้วคาร์ลคือความอ่อนโยนของมนุษยชาติ เป็นด้านที่ดีที่สุดของมนุษย์ที่เขาได้พบเจอ

ตอนที่เราบังคับเป็นมาร์คัสครั้งแรกเราทั้งโดนมนุษย์คนอื่นตะโกนไล่ด่าและทำร้าย มันทำให้เรารู้สึกแย่มากๆ กับการที่จะต้องเป็นแอนดรอยด์ แต่แล้วเมื่อเราได้เล่นจนมาเจอคาร์ลเราจะเห็นอีกมุมนึงทันทีเพราะเราได้เห็นคนที่ไม่เห็นว่าแอนดรอยด์นั้นเป็นเพียงแค่เครื่องจักรนั้นมีอยู่จริง การที่ลูซี่ได้บอกกับมาร์คัสตอนที่เขาได้เข้าไปในเจริโค่เป็นครั้งแรกว่ามาร์คัสนั้นมีแสงสว่างและความมืดในตัวนั้นจึงมาจากตรงนี้ มาร์คัสจะใช้อะไรระหว่างความรักที่คาร์ลมอบให้มาปฏิวัติอย่างสันติกับเอาความโกรธแค้นที่มนุษย์คนอื่นกระทำกับเขามาก่อจลาจล ผู้เล่นจะต้องเลือกเส้นทางนี้ให้มาร์คัส คาร์ลบอกกับมาร์คัสว่าตัวมาร์คัสนั้นมีความเป็นมนุษย์มากกว่ามนุษย์คนอื่นๆ ทั้งหมดและบางทีมันไม่ได้อาจจะหมายความว่ามาร์คัสใจดีหรือโหดร้ายมากที่สุด แต่อาจจะหมายความว่าเข้าใจถึงด้านที่ดีและไม่ดีที่สุดของมนุษย์เช่นกัน

นอกจากนั้นมาร์คัสที่อยู่กับคาร์ลมานานได้รับความรู้เรื่องประวัติศาสตร์และปรัชญาของมนุษย์มามาก เขาจึงเป็นคนที่เข้าใจว่ามนุษย์นั้นเป็นอย่างไรมีความคิดเช่นไรและพวกเขาสามารถได้ชัยชนะมาด้วยวิธีใด จึงเป็นตัวละครที่เหมาะกับบทบาทของผู้นำเป็นอย่างมาก มิหนำซ้ำนักแสดงที่เล่นเป็นมาร์คัส (ทั้งการให้เสียงและโมชั่นแคปเจอร์ของสีหน้า) คือเจสซี่ วิลเลี่ยมซึ่งนอกจากจะเป็นนักแสดงแล้วยังเป็นนักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิมนุษยชนให้กับคนผิวสี จึงสามารถถ่ายทอดอารมณ์ต่างๆ เกี่ยวกับการเหยียดชาติและชนชั้นได้อย่างดี 

ในเกมนี้ยังมีการใส่รายละเอียดต่างๆ ของการเหยียดสีผิวและเชื้อชาติเอาไว้เป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นการที่ให้แอนดรอยด์ยืนที่ท้ายรถบัสซึ่งคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ไล่คนผิวสีไปนั่งท้ายรถบัสในอเมริกาในสมัยก่อน การที่ให้เหล่าแอนดรอยด์ใส่เครื่องแบบที่มีตราสัญลักษณ์ของแอนดรอยด์ก็คล้ายคลึงกับกฏหมายเหยียดชาวยิวของนาซีในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งระบุว่าชาวยิวจะต้องติดดาวหกแฉกเพื่อให้แยกออกจากชาวเยอร์มัน การเดินประท้วงของมาร์คัสซึ่งคล้ายกับการเดินประท้วงเรียกร้องสิทธิ์ความเท่าเทียมของคนผิวสีในอเมริกาในทุกยุค หรือว่าการตั้งค่ายกักกันเพื่อรวมแอนดรอยด์ไปทำลายซึ่งคล้ายกับค่ายกักกันของชาวยิวในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
หากเราเลือกช้อยที่ถูกต้องเราสามารถชนะเหล่ามนุษย์ได้ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางไหนก็ตาม แต่ละเส้นทางของมาร์คัสไม่ว่าจะสันติหรือรุนแรงนั้นไม่ได้เล่นง่ายๆ ระหว่างทางมีความสูญเสียทั้งหมด เราจะได้เห็นการเรียกร้องสิทธิ์ของประชาชนในทั้งสองแบบด้วยกันตลอดการเล่น และในระหว่างทางเพื่อนๆ ของมาร์คัสก็จะพยายามโน้มน้าวไปในทางที่ตัวเองเห็นด้วยโดยจะมีสามขั่วด้วยกัน นอร์ทต้องการใช้ความรุนแรงเพราะเชื่อว่ามนุษย์จะยอมฟังต่อเมื่อได้รับรู้ถึงความพ่ายแพ้และความกลัวเท่านั้น จอชซึ่งเคยเป็นแอนดรอยด์ครูคิดว่าจะต้องใช้สันติวิธีและไม่ฆ่าอีกฝ่ายเพราะผลประโยชน์ในระยะยาว ไซม่อนนั้นกลับเป็นอีกด้านของมาร์คัสเพราะเขาต้องการที่จะใช้ชีวิตหลบอยู่เงียบๆ ไม่เปิดเผยตัวเพราะกลัวว่าการออกมาเรียกร้องนั้นคือการฆ่าตัวตายทางอ้อม มาร์คัสจะต้องรับมือกับความขัดแย้งทั้งหมดนี้ เรียกได้ว่ารับศึกทั้งภายนอกและภายในเลยทีเดียว แต่สุดท้ายแล้วมาร์คัสก็ต้องทำหน้าที่หัวหน้าที่ดและเลือกเส้นทางซักทาง แม้มันจะไม่ใช่เส้นทางที่ถูกใจทุกคนแต่มันก็ต้องพาทุกคนให้ไปถึงจุดหมายให้ได้เพราะนั้นคือหน้าที่ของผู้นำที่มาร์คัสจะต้องแบกเอาไว้  
 

ศาสดาแห่ง rA9?


rA9 หรือที่เราพอจะเข้าใจได้ว่าคือพระเจ้าของเหล่าแอนดรอยด์นั้นคือปริศนาที่ใหญ่ที่สุดในเกมและยังไม่มีตัวละครตัวไหนหรือว่าแถลงการใดๆ จากเดวิท เคจเกี่ยวกับ rA9 ที่จะช่วยทำให้เราเข้าใจถึงเรื่องนี้ได้เลย เรารู้แค่เพียงว่าเหล่าดีเวียนท์นั้นดูจะเชิดชู rA9 ว่าจะเป็นผู้กอบกู้พวกเขาทุกคนจากความทุกข์ของการถูกดขี่ และ rA9 คือคนแรกที่ได้กลายเป็นดีเวียนท์ หลายๆ คนคิดว่ามาร์คัสนั้นเป็น rA9 แม้แต่ตัวคอนเนอร์เองก็เคยนึกว่า rA9 นั้นเป็นมาร์คัสเมื่อปรึกษาเรื่องนี้กับแฮงค์ แต่ว่ามาร์คัสไม่ใช่ดีเวียนท์ตัวแรก บางคนก็บอกว่าที่แท้จริงแล้ว rA9 ก็คือผู้เล่นเกมหรือตัวเรานั้นเอง บางที rA9 อาจจะเป็นเพียงแค่ความเชื่อของเหล่าแอนดรอยด์ที่คนเขียนบทต้องการจะเปรียบเทียบกับความเชื่อทางศาสนาของมนุษย์ แต่บางทีมาร์คัสอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับ rA9 จริงๆ ก็เป็นได้ 

Danny TH ได้พูดถึงความคล้ายคลึงของมาร์คัสกับพระเยซูในวีดีโอเกี่ยวกับ rA9 และมีหลายอย่างที่เนื้อเรื่องที่ดูคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในความเชื่อของศาสนาคริสต์ นี่อาจจะเป็นความตั้งใจความทางผู้เขียนบทเพื่อให้เหล่าแอนดรอยด์ใกล้เคียงกับมนุษย์ขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อทางศาสนาหรือว่าการเปรียบเทียบมาร์คัสกับผู้ปลดปล่อย 
เรื่องที่น่าสนใจอีกอย่างคือทั้งตัวคาร่า มาร์คัส และคอนเนอร์เองไม่มีใครเชื่อหรือนับถือ rA9 เลยแม้แต่คนเดียวแม้จะเป็นดีเวียนท์ก็ตาม 

ทฤษฎีอื่นๆ ของ rA9  สามารถอ่านได้ที่ลิงค์ด้านล่าง
https://www.online-station.net/pc-console-game/view/111778

หนูทดลองของแคมสกิ


สาเหตุที่มาร์คัสนั้นเป็นแอนดรอยด์ที่พิเศษมากๆ นั้นก็เพราะว่าเขาเป็นแอนดรอยด์ที่แคมสกิสร้างขึ้นมาและต่อมาก็มอบให้คาร์ลจึงมีเพียงแค่ตัวเดียวรุ่นเดียว ตลอดทั้งเรื่องเรามักจะเห็นหุ่นยนต์หลายตัวที่หน้าตาเหมือนกันรุ่นเดียวกัน แม้แต่ตัวคอนเนอร์เองยังมีหลายร่างด้วยกัน แต่มาร์คัสนั้นกลับแปลกไปเพราะเขามีเพียงแค่ตัวเดียวจริงๆ แม้แต่ข้อมูลของตำรวจของมาร์คัสยังไม่สามารถระบุหน้าตาของรุ่นมาร์คัสได้เลย แตกต่างจากคาร่าและแอนดรอยด์ตัวอื่นๆ ที่มีระบุอย่างชัดเจน ตามข้อมูลในเกมมาร์คัสนั้นถูกสร้างมาเพื่อเป็นต้นแบบเอาไปใช้พัฒนาแอนดรอยด์สำหรับงานบ้าน มันน่าแปลกทีเดียวที่หุ่นยนต์ตัวนั้นกลับกลายมาเป็นหัวหน้าของกลุ่มปฏิวัติไปซะได้
แต่แล้วความจริงก็มาเปิดเผยเมื่อเราเริ่มเล่นเกมไปหลายเส้นทางจนไปถึงจบ อย่างแรกที่เรามารู้ภายหลังคือไซเบอร์ไลฟ์รู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าแอนดรอยด์สามารถกลายเป็นดีเวียนท์ได้และจะต้องทำการปฏิวัติสักวันในข้างหน้า จึงได้เตรียมแอนดรอยด์รุ่น RK อีกตัวซึ่งก็คือคอนเนอร์เพื่อแทรกซึมกลุ่มแอนดรอยด์และใช้เป็นเครื่องมือเพื่อลอบสังหารเหล่าหัวหน้าปฏิวัติอีกที

แคมสกิบอกกับคอนเนอร์เอาไว้ว่าเอาได้สร้างประตูหลังเอาไว้ในโปรแกรมเสมอ มันอาจจะเป็นไปได้ว่าแคมสกิเป็นคนที่สร้าง Code ที่ทำให้เหล่าแอนดรอยด์สามารถรู้สึกเหมือนกับมนุษย์ได้ การเบี่ยงเบนจากโปรแกรมเดิมนี้ก็เริ่มแพร่กระจายไปเรื่อยๆ ราวกับไวรัสจนมาเป็นภัยพิบัติกับมนุษย์ในปี 2038 จุดเริ่มต้นของมันอยู่ที่ไหน มาร์คัสคือคนแรกที่ได้รับไวรัสตัวนี้หรือเปล่าเราก็ไม่ทราบแต่ว่ามาร์คัสนั้นไม่ใช่ดีเวียนท์ตัวแรกอย่างเป็นทางการแน่นอน 

หนึ่งในเอนดิ้งลับก็มีอธิบายเรื่องความคิดของแคมสกิด้วย หากเราทำทั้งคอนเนอร์ มาร์คัส และคาร่าตายก่อนตอน Crossroad แคมสกิจะกลับมาเป็น CEO ของไซเบอร์ไลฟ์อีกครั้งหลังจากที่หลุดจากตำแหน่งมาหลายปี ในสัมภาษณ์แคมสกิได้กล่าวว่าการที่แอนดรอยด์นั้นมีความรู้สึกเป็นเพียงแค่การเลียนแบบเท่านั้นไม่ใช่ความรู้สึกหรือนึกคิดว่าตัวเองมีชีวิตจริงๆ และเขาจะทำบริหารไซเบอร์ไลฟ์ให้ดีที่สุดเพื่อที่จะกันไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นอีก
บางทีมาร์คัสอาจจะเป็นเพียงแค่หนึ่งในหนูทดลองของแคมสกิก็ได้ เขาอาจจะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาทำให้เหล่าแอนดรอยด์รู้สึกว่าตัวเองนั้นมีชีวิตด้วยการใส่ไวรัสที่เรียกว่าอิสรภาพลงไป และบางทีสิ่งนั้นทำให้เหล่าแอนดรอยด์คิดว่าคนที่จะช่วยพวกเขาได้คือ rA9 เราไม่รู้ว่านอกจากคาร์ลแล้วแคมสกิได้ให้แอนดรอยด์รุ่น RK กับใครไปบ้างหรือเปล่า

แคมสกิอาจจะไม่ใช่ฝ่ายดีหรือร้ายในเนื้อเรื่องนี้ เขาเป็นเพียงคนที่มองสงครามระหว่างแอนดรอยด์และมนุษย์จากข้างทางและกระโดดเข้าไปฉวยโอกาสเมื่อมันมาถึงเท่านั้น เพราะถ้าหากมาร์คัสล้มเหลวคนที่ได้ผลประโยชน์จากมาร์คัสมากที่สุดก็คือแคมสกิที่ได้กลับเข้าไปทำงานในไซเบอร์ไลฟ์ใหม่ มาร์คัสไม่ได้เจอแคมสกิในเรื่องนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียวและไม่เคยพูดถึงแคมสกิเลยด้วยแม้แคมสกิจะเป็นคนที่มอบเขาให้คาร์ล บางทีเหตุจูงใจของแคมสกิอาจจะชัดเจนกว่านี้หากทั้งสองได้มาเจอกัน 
 

แอนดรอยด์รุ่น RK ลึกลับ

ในตอนแรกนั้นทุกคนอาจจะคิดว่ามาร์คัสก็เหมือนกับหุ่นแอนดรอยด์ที่มีหน้าที่ดูแลบ้านทั่วไป ในเกมเราจะเจอหุ่นยนต์ชนิดพ่อบ้านแม่บ้านหลายรุ่นมาก แต่ว่าที่มาร์คัสนั้นแตกต่างออกไปนั้นก็เพราะว่าเราไม่รู้เลยว่ามาร์คัสคือหุ่นรุ่นไหนจนกระทั่งคอนเนอร์สแกนเลขของมาร์คัสและปรากฏว่ามาร์คัสนั้นคือรุ่น RK เหมือนกับคอนเนอร์นั้นเอง 

คอนเนอร์ก็เป็นแอนดรอยด์รุ่นที่พัฒนามาจากรุ่นของมาร์คัสอีกทีเพราะคอนเนอร์นอกจากจะมีระบบ preconstruct ซึ่งเป็นการจำลองเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุเหมือนมาร์คัสแล้วยังมี reconstruct ที่จำลองเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้วอีกด้วย (ระบบนี้ดูเหมือนจะไม่มีในหุ่นทุกตัวเพราะคาร่าไม่สามารถใช้งานระบบนี้ได้) แอนดรอยด์รุ่นนี้อาจจะมี processor ที่ทำงานได้ดีกว่าแอนดรอยด์ทั่วไป ทั้งคอนเนอร์และมาร์คัสมีทักษะการต้อสู้ที่คล้ายคลึงกันมากๆ แม้มาร์คัสเองจะถูกผลิตออกมาก่อนก็ตามแต่ก็สามารถสู้กับคอนเนอร์ได้อย่างสูสี (ชนะไม่ชนะอันนี้ขึ้นอยู่กับคนเล่นอีกที) 

แต่หนึ่งในสาเหตุที่แอนดรอยด์รุ่นนี้มีความพิเศษคงไม่พ้นการเป็นดีเวียนท์ อาแมนด้าได้เผยออกมาในตอนสุดท้ายว่าคอนเนอร์นั้นเป็นแอนดรอยด์ที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นดีเวียนท์บางทีมาร์คัสเองก็อาจจะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน หากแคมสกิสร้างมาร์คัสมาให้กลายเป็นดีเวียนท์เหมือนกับที่ไซเบอร์ไลฟ์ทำกับคอนเนอร์จริงๆ หุ่นรุ่น RK อาจจะมีความสามารถพิเศษในแสดงความรู้สึกที่เป็นมนุษย์ ทำให้มีความยึดหยุ่นสูงและปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี สองสิ่งนี้ก็เป็นคุณสมบัติที่มาร์คัสและคอนเนอร์มีและนั้นก็คือปัจจัยสำคัญในการเป็นดีเวียนท์ด้วย

ตลอดเวลาที่เราเล่นเป็นมาร์คัสเรามักจะเห็นมาร์คัสเปลี่ยนแอนดรอยด์ตัวอื่นให้เป็นดีเวียนท์ได้ด้วยการสัมผัส ในช่วงที่มาร์คัสเดินประท้วงเขาเพียงแค่สบตาและกวักมือเรีอกเหล่าแอนดรอยด์ที่ยืนอยู่ข้างทางก็หันมาร่วมเดินขบวนกับเขาทันที เราอาจจะไม่ได้แอนดรอยด์ตัวอื่นทำลายกำแพงโปรแกรมเหมือนกับที่เห็นมาร์คัส คาร่า และคอนเนอร์ทำ แต่มาร์คัสดูเหมือนจะมีส่วนที่ทำให้กำแพงเหล่านั้นของเหล่าแอนดรอยด์ตัวอื่นแตกด้วยเพียงแค่การจับหรือมองเท่านั้น  ความสามารถนี้เป็นสิ่งที่แคมสกิได้สร้างขึ้นมาเมื่อเขาสร้างมาร์คัสหรือเปล่าหรือว่าเป็นการกลายพันธุ์ของโปรแกรมของมาร์คัสเราก็ยังไม่สามารถทราบได้แต่ว่าตอนแรกที่มาร์คัสแตะไหล่และพยายามที่จะถามแอนดรอยด์ข้างทางเรื่องเจริโค่เขาไม่ได้แสดงคุณสมบัตินี้เลย มาร์คัสกลับสามารถใช้มันได้อย่างแม่นยำหลังจากที่เริ่มเปลี่ยนแอนดรอยด์ตัวแรกเป็นดีเวียนท์ แม้ตัวคอนเนอร์จะสามารถเปลี่ยนแอนดรอยด์ตัวอื่นให้เป็นดีเวียนท์ได้ยังไม่สามารถทำได้เร็วอย่างมาร์คัส

แอนดรอยด์รุ่น RK นั้นมีความพิเศษตรงไหนทำไมถึงมีความสามารถในการปรับตัวเยอะกว่าแอนดรอยด์รุ่นอื่นๆ แถมยังสามารถเปลี่ยนแอนดรอยด์ตัวอื่นให้เป็นดีเวียนท์ได้อีก คำตอบนี้เรายังคงไม่ได้อะไรจากทั้งตัวแคมสกิและผู้สร้างเกม
 

การออกแบบแสง สี เสียง ในเรื่องราวของมาร์คัส


อย่างที่เคยพูดเอาไว้ในบทความเกี่ยวกับคอนเนอร์ ทุกตัวละครเอกใน Detroit: Become Human จะมีเพลงประกอบและการออกแบบมุมกล้องที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของเรื่องราวนั้นๆ เดวิท เคจอธิบายเอาไว้ว่าเรื่องราวของมาร์คัสนั้นคือ “มหากาพย์” เพราะเป็นตัวละครที่มีสเกลเรื่องใหญ่ที่สุด เขาจึงต้องการที่สื่อถึงความกล้าหาญและเสียสละของมาร์คัสด้วยการออกแบบมุมกล้องและเพลงประกอบที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของหน้าที่นี้ ทั้งมุมกล้องและเพลงประกอบนั้นจะมีความฮึกเหิมหรือว่าแสดงถึงความกล้าหาญของตัวละครนั้นๆ เราจะได้ยินเพลงประกอบที่คล้ายกับหนังฟอร์มยักษ์ของฮอลลิวู้ด

ผู้ที่ออกแบบมุมกล้องให้เกมได้กล่าวเอาไว้ว่าฉากสู้สุดท้ายของเกมนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายมากเพราะบอกเขาต้องการทำให้เห็นผลการทบของสงครามโดยที่ไม่ได้ทำให้ดูว่ามันเป็นสิ่งที่น่าสนุกหรือควรสนับสนุน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เหมือนกับความขัดแย้งที่มาร์คัสต้องเจอเพื่อให้ได้ชัยชนะมาเสมอ

จอห์น เพซาโน่ (John Paesano) ผู้แต่งเพลงประกอบในส่วนของมาร์คัสบอกว่าเขาต้องการจะเน้นการเปลี่ยนแปลงของมาร์คัสจากแอนดรอยด์ธรรมดาเป็นหัวหน้าแห่งการปฏิวัติ และเพราะว่ามาร์คัสนั้นแทบจะเป็นผู้กอบกู้ของเหล่าแอนดอรยด์เขาจึงทำให้เพลงประกอบในบางฉากของมาร์คัสเพลงเพลงสวดในโบสถ์ (เราจะได้ยินกลุ่มประสานเสียงข้างหลังประจำ) 

 

หากคอนเนอร์คือการเลือกระหว่งความถูกต้องและหน้าที่และคาร่าคือการปกป้องความสัมพันธ์อันล้ำค่า มาร์คัสคือการรักษาสิทธิ์ที่จะเลือกชะตาของตัวเอง แต่การต่อสู้นั้นมันจะต้องแลกมาด้วยอะไร เรายอมที่จะทำร้ายคนอื่นหรือยอมให้ถูกทำร้ายแค่ไหนเพื่อได้สิ่งที่เราต้องการมา และเรามีทางเลือกอะไรบ้างในการปกป้องตัวเอง มาร์คัสจึงเป็นตัวละครที่น่าสนใจและน่าติดตามมากๆ อีกตัวจากเกม Detroit: Become Human

 

บทความโดย whitehiganbana

อ่านบทความ วิเคราะห์เจาะลึกตัวละคร คอนเนอร์ ได้ >>ที่นี่<<

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้