รีวิว Kingdom Come: Deliverance เกมระดับมาสเตอร์พีซที่คอแอ็กชั่น RPG ต้องลองสักครา

รีวิว Kingdom Come: Deliverance
เกมระดับมาสเตอร์พีซที่คอแอ็คชั่น RPG ต้องลองสักครา

ข้อมูลเกม: http://store.steampowered.com
แพลตฟอร์ม: PS4, Xbox One, PC
ผู้พัฒนา: Warhorse Studio
ผู้จัดจำหน่าย: Steam

    หากพูดถึงเกมที่เล่นกับเนื้อเรื่องที่มีรายละเอียดและภารกิจยิบย่อย พร้อมโลกเกมที่ให้อิสระในการเล่นแบบ Open World ซึ่งก็คงมีแค่ไม่กี่เกมอย่าง Skyrim และ The Witcher 3 เป็นแน่แท้ จึงทำให้เป็นการยากที่ค่ายเกมจะกล้าลงทุนทำเกมระดับนี้ออกมา แต่แล้วก็มีเกมม้ามืดนอกกระแสที่ดังอยู่พอสมควรในขณะนี้ ที่ได้ใช้ทุนสร้างจากการระดมทุนใน Kickstarter 5 ล้านเหรียญ ใช้เวลาสร้างกว่า 4 ปี จนมาถึงปัจจุบัน ผลงานเกมแรกของค่ายเกมใหม่อย่าง Warhorse Studio ก็เผยโฉมออกมา นั้นก็คือเกม Kingdom Come: Deliverance เกมแอ็คชั่น RPG แบบ Skyrim ในธีมยุคกลาง

Story

     เรื่องราวในธีมยุคกลางช่วงปี 1403 ของอาณาจักร Bohemia บอกเล่าเรื่องราวของชายชื่อ “Henry” ลูกชายของนักตีดาบแห่งเมือง Skalitz ที่ฝันอยากเดินทางออกผจญภัยท่องโลกแต่ต้องมาประสบกับเคราะห์กรรมและเรื่องราวอันแสนเศร้าซึ่งเป็นผลพวงมาจากสงครามในการแย่งชิงดินแดนของเหล่ากษัตริย์ ซึ่งเนื้อหาในเกมนั้นต้องขอชมว่าผู้พัฒนาขัดเกลามาได้ดีมาก เพราะทั้งเนื้อเรื่องหลักและเนื้อเรื่องรองจากภารกิจย่อยต่างๆ ทำได้น่าสนใจและบางจุดที่จะใส่ความเซอร์ไพรส์มาให้เราตลอด จึงช่วยดึงดูดให้ผู้เล่นติดหนึบกับแต่ละเนื้อเรื่องไปได้จนจบเกม แต่ในบางจังหวะของเนื้อเรื่อง ตัวเกมยืดเนื้อเรื่องยาวเกินไป ก่อให้เกิดความน่าเบื่อ แต่ยังดีที่จังหวะแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ


 

Gameplay
    ระบบการเล่นของเกมนี้เป็น แอ็คชั่น Open World RPG แบบ Realism (สมจริง) ในด้านความเป็น RPG นั้นเกมนี้ทำออกมาได้ดีเกินจากมาตรฐานของเกมยุคปัจจุบัน โดยตัวเกมได้รวมเอาข้อดีจากเกมต่างๆ มาใส่ในเกมเดียวกัน อย่างการพัฒนาทักษะตัวละครในด้านต่างๆ จะเกิดขึ้นตามการกระทำของผู้เล่นแบบเดียวกับ Skyrim หากผู้เล่นฟันดาบมาก ก็จะได้ค่าความแข็งแรงหรือทักษะพิเศษ หากผู้เล่นชอบคุยกับชาวบ้าน NPC ก็จะได้ทักษะในการเจรจา ตลอดจนการทำกับข้าว ทำแผลตัวเอง หรือการทำกิจวัตรประจำวันทั่วไปอย่างการวิ่ง เดิน ขี่ม้า ก็ยังช่วยเพิ่มทักษะให้ตัวละครด้วยเช่นกัน


 

    ในส่วนระบบภารกิจ เกมนี้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นเลือกทำได้หลายแบบโดยไม่จำกัดตายตัวว่าต้องใช้วิธีอะไร เกมจะบอกแค่เป้าหมาย แต่ผู้เล่นสามารถเลือกหาวิธีเองได้เหมือนอย่าง Skyrim เช่น ภารกิจผู้เล่นต้องหนีออกจากปราสาท แต่ผู้เล่นออกไปไม่ได้เพราะมียามเฝ้าประตู ผู้เล่นอาจเลือกติดสินบนก็ได้ถ้ามีเงินพอ หรือหากไม่มีเงิน ผู้เล่นอาจจะปลอมตัวเป็นทหารพวกเดียวกันเพื่อตบตาเหล่าทหารยามที่เฝ้าอยู่ หรือถ้ามันดูวุ่นวาย ผู้เล่นจะโดดกำแพงหนีออกจากปราสาทดื้อๆ เลยก็ได้แต่ก็ต้องแลกกับถูกตามล่าและมีอาการบาดเจ็บแทน 

      ในส่วนของระบบต่อสู้นั้น อาวุธในเกมนี้ใช้ระบบที่เหมือนได้แรงบันดาลใจจาก For Honor ในรูปแบบมุมมองบุคคลที่ 1 ที่มีการตั้งท่าทางตามตำแหน่งต่างๆ ซึ่งให้อิสระแก่ผู้เล่นในการออกอาวุธตามทิศทางต่างๆ ด้วยตัวเอง โดยการขยับเมาท์หรือแกนคอนโทรลเลอร์ไปในทิศทางที่ต้องการจากนั้นก็กดโจมตีไปตามปกติ และเมื่อคุณต้องดวลดาบกับศัตรู ทักษะที่ใช้เล่นเกม For Honor จะมีประโยชน์อย่างมาก เพราะผู้เล่นจะต้องเดาใจว่าศัตรูจะตั้งการ์ดมาในทิศทางไหน และจะหลีกเลี่ยงอย่างไร 

    และด้วยความที่เกมเน้นความสมจริง การปัดป้องและการโจมตีรูปแบบต่างๆ จะอิงกับค่า Stamina ด้วย จึงต้องมีความไหวพริบในการวิเคราะห์ด้วย ใครที่เล่น Dark Soul จะรู้เลย ซึ่งระบบนี้ที่กล่าวมา ผู้เล่นต้องอาศัยความคุ้นเคยและฝึกฝนพอสมควร จึงจะเล่นได้ดีจริงๆ โดยเฉพาะธนู ที่เกมนี้ไม่มีเป้าให้เล็งนะ ต้องกะระยะด้วยตาเปล่า และลูกธนูก็ยังโดนลมพัดปลิวออกนอกทิศทางได้อีกด้วย 

    แต่ใช่ว่าตัวเกมจะไม่มีข้อเสียเลยนะ ข้อเสียที่จะกล่าวถึงเรื่องแรกเลยคือ ในส่วนช่องเก็บของและการแสดงรายละเอียดของตัวละครยังคงทำออกมาได้ไม่ดีนัก รวมไปถึงการเจรจาต่อรองราคา นอกจากทักษะต้องสูงแล้ว เรายังต้องคิดวิเคราะห์ว่าทำยังไง เลือกหัวข้อไหนถึงจะเจรจาสำเร็จ และระบบสะเดาะกุญแจเรียกได้ว่ายาก ถ้าใครใจไม่นิ่ง อาจทำให้หัวร้อนหลายตลบได้


 

    1. เนื้อเรื่องดีงาม ให้อิสระในการเลือกเส้นทางเยอะ ชวนติดตาม มีทั้งดราม่าจนน้ำตาเกือบไหล มุกตลกตามสไตล์หนังในธีมยุคกลาง การเล่าเรื่องและผูกปมช่วยทำให้เนื้อเรื่องน่าสนใจตลอดเวลา

    2. ประเภทของอาวุธและพัฒนาทักษะตัวละครที่มีให้เลือกหลากหลาย ทำให้มีวิธีเล่นได้หลายรูปแบบไม่ซ้ำกัน ระบบการต่อสู้ทำออกมาสมจริงดีมาก ทั้งการตีเป็นคอมโบ, การโต้กลับ, การหลอกล่อ 

    3. ตัวเกมมีส่วนผสมหลายๆ เกมรวมกัน ซึ่งเป็นการผสมที่ลงตัว และทำให้เกมดูสนุก ควรค่าแก่การเล่นซ้ำ

    4. กราฟิกสวยงามตามเกมยุค Next Gen มีความอิสระสูงระดับหนึ่ง ระบบของเกมมีความเป็น RPG ที่เน้นสมจริงมาก

 

จุดด้อย

    1. การ Optimize ทำมาไม่ดี เฟรมเรตค่อนข้างแย่ในหลายช่วง รวมถึงบั๊กเล็กๆ น้อยๆ แต่ยังพอแก้ไขให้เล่นผ่านไปได้ ตอนนี้ผู้พัฒนากำลังปล่อยแพตช์อัพเดตเพื่อให้เกมดีขึ้น

    2. ตัวละครจะทำอะไรแต่ละอย่างดูแข็งมาก ทุกตัวละครทำท่าองศาเดียวกัน โดยเฉพาะท่าวิ่งที่ทำเหมือนกับเป็นหุ่นยนต์ 

สรุป

    ถ้าตัดปัญหาเรื่อง Optimize และบัคจุกจิกออกไปแล้ว Kingdom Come: Deliverance นั้นถือเป็นเกมระดับมาสเตอร์พีซเทียบเท่าพอๆ กับ Skyrim อีกเกมหนึ่งเลย หากใครที่ลังเลจะซื้อ ให้นึกถึง The Witcher 3  ซึ่งในวันที่วางจำหน่ายครั้งแรกตัวเกมก็เจอปัญหาและข้อผิดพลาดมากมาย กระนั้นปัญหาต่างๆ ก็ไม่สามารถบิดเบือนคุณภาพที่เกมมันมีอยู่เต็มเปี่ยมได้ หากเพื่อนๆ คนไหนอยากลองสัมผัสกับสมจริงในธีมยุคกลางแล้วล่ะก็ เกมนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสุดๆ 

คะแนน 8.0

เรื่อง: คุณแว่นหมาป่า

 

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้