**บทความนี้มีการสปอยล์เนื้อหาเกม Uncharted: The Lost Legacy ชนิดหมดเปลือก ใครไม่อยากโดนสปอยล์ก็กดปิดไปก่อนนะครับ**
เป็นเวลา 1 ปีให้หลังนับจากเหตุการณ์ในเกมภาค 4 โคลอี้ เฟรเซอร์ (Chloe Frazer) สาวนักล่าสมบัติได้ทำการว่าจ้าง เนดีน รอสส์ (Nadine Ross) ทหารรับจ้างสาวมือฉมัง เพื่อให้ช่วยเธอออกตามหางาของพระพิฆเนศ (Tusk of Ganesh) สมบัติในตำนานของอินเดีย โดยตามตำนานเก่าแก่ของฮินดูได้เล่าลือกันว่า พระพิฆเนศเป็นบุตรของพระศิวะ ที่มีร่างกายเป็นมนุษย์แต่มีศีรษะเหมือนช้าง แต่มีอันต้องสูญเสียงาไปข้างนึงในขณะที่ปกป้องวิหารของพระบิดา ทั้งนี้ โคลอี้เคยมีความหลังในอดีตเกี่ยวกับพ่อของเธอที่เคยพัวพันกับสมบัติชิ้นนี้ และก็ต้องจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของพวกโจรที่บุกมาเพื่อหวังชิงสมบัติไป ส่วนเนดีนเองก็ต้องการส่วนแบ่งที่จะได้จากจ๊อบนี้ไปกอบกู้ ชอร์ไลน์ (Shoreline) หน่วยทหารรับจ้างที่นางเคยดูแลกลับมา โดยโคลอี้ได้แฝงตัวผ่านกลุ่มกองกำลังต่อต้านรัฐบาลเพื่อไปพบกับเนดีนที่จุดนัดพบ ก่อนที่ทั้งคู่จะลักลอบเข้าไปในห้องทำงานของ อซาฟ (Asav) ผู้นำของกองกำลังดังกล่าวที่กำลังต้องการงาของพระพิฆเนศเช่นกัน ซึ่งอซาฟนั้นมีแผนที่จะนำงาของพระพิฆเนศไปใช้ปลุกระดมผู้คนให้ก่อการปฏิวัติกับรัฐบาล ทว่าในที่สุดโคลอี้กับเนดีนก็สามารถฉกเอาแผนที่ขุมทรัพย์ของอาณาจักรฮอยซาลา (Hoysala Empire) พร้อมกับตราที่เป็นกุญแจสำหรับใช้เปิดประตูอาณาจักรโบราณที่ว่าออกมาได้สำเร็จ
เกร็ดความรู้
– อาณาจักรฮอยซาลาเป็นดินแดนโบราณที่มีชื่อเสียงในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10-14 ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย และในปัจจุบันสถานที่ดังกล่าวได้อยู่เขตของรัฐกรณาฏกะ (Karnataka) ซึ่งตลอดช่วงระยะเวลา 317 ปีของการสถาปนาอาณาจักรแห่งนี้ก็ได้มีกษัตริย์ปกครองสืบต่อกันมายาวนานถึง 11 พระองค์ ก่อนที่จะล่มสลายไปในปี ค.ศ. 1343 ครับ
– ชุดที่โคลอี้กับเนดีนสวมใส่ในช่วงแรกของเกม เรียกว่าชุดกูรติ (Kurti) เป็นชุดลำลองที่ชาวอินเดียนิยมใส่กันครับ ซึ่งถ้าเป็นของผู้ชายจะเรียกว่าชุดกูรตะ (Kurta) โดยเริ่มมีการใส่ชุดนี้กันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 ปัจจุบันชุดนี้ได้รับความนิยมในแถบเอเชียใต้ ได้แก่ อินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ เนปาล และศรีลังกา ผู้คนมักจะใส่คู่กับกางเกงผ้าหรือไม่ก็กางเกงยีนส์เพื่อความคล่องตัวและตามสมัยนิยมกัน
แผนที่ที่พวกโคลอี้ขโมยมาได้นั้นได้นำทางสองสาวมาถึงเขตลุ่มน้ำทางตะวันตกของอินเดีย ซึ่งพวกนางได้ตามรอยจนพบกับโบราณสถานหลายแห่งที่ตกแต่งด้วยสัญลักษณ์อาวุธในตำนานของศาสนาฮินดู นั่นก็คือ ตรีศูลของพระพิฆเนศ (Ganesh’s Trident), คันศรของพระศิวะ (Shiva’s Bow) และขวานของปรศุราม (Parashurama’s Axe) ต่อมาเบาะแสก็เริ่มนำพวกเธอไปสู่เมืองหลวง 2 แห่งของนครฮอยซาลา อันได้แก่เมืองฮาเลบิดู (Halebidu) ที่ซึ่งตามตำนานมีระบุไว้ว่าจักรพรรดิองค์สุดท้ายได้ปล่อยให้เมืองนี้ถูกพวกกองทัพจากเปอร์เซียยึดครองไปเพื่อให้พวกเขาคิดว่าได้รับชัยชนะแล้ว อย่างไรก็ตาม โคลอี้ก็พบความจริงว่าจักรพรรดิได้ทิ้งเบาะแสลวงเอาไว้ จริงๆ แล้วงาพระพิฆเนศถูกซ่อนอยู่ในเมืองเบลัวร์ (Belur) ที่เป็นเมืองหลวงอีกแห่ง ทว่าระหว่างที่กำลังจะมุ่งหน้าไปยังที่นั่น โคลอี้กับเนดีนก็ถูกอซาฟบุกโจมตี แม้ว่าพวกนางจะหนีรอดมาได้หวุดหวิด แต่ก็ต้องเสียตรากุญแจให้กับอซาฟไป
เกร็ดความรู้
– ปรศุรามคือร่างอวตารปางที่ 6 ของพระนารายณ์ โดยชื่อเต็มๆ นั้นมาจากคำว่า ปรศุรามาวตาร ที่สามารถจำแนกออกมาได้เป็น 3 คำ ได้แก่ “ปรศุ” ที่แปลว่า ขวาน, “ราม” ที่แปลว่า อันเป็นที่รัก และ “อวตาร” ที่สื่อถึงการลงมาจุติของเทวดา ซึ่งปรศุรามจะมีรูปลักษณ์เป็นพราหมณ์ถือขวานเพชรที่ได้รับมาจากพระศิวะนั่นเอง
ขณะที่โคลอี้กับเนดีนวางแผนที่จะชิงตรากลับมา เนดีนก็พลันได้เห็น แซม เดรค (พี่ชายของ เนธาน เดรค พระเอกใน Uncharted ภาคหลัก) ถูกอซาฟจับตัวมา เลยรู้ว่าที่แท้แล้วอซาฟน่าจะทราบข้อมูลเกี่ยวกับอาณาจักรฮอยซาลามาจากแซมนั่นเอง ซึ่งส่วนตัวเนดีนนั้นมีความแค้นกับแซมมาตั้งแต่เหตุการณ์ในภาค 4 แล้ว เพราะเนธานกับแซมคอยขัดขวางและสังหารคนในกลุ่มชอร์ไลน์ของเนดีนตายไปเกือบเกลี้ยง นางเลยหมายจะฆ่าแซมเพื่อชำระแค้นให้ได้ แต่โคลอี้ก็มาห้ามไว้ พร้อมทั้งบอกว่าเธอกับแซมกำลังร่วมงานในจ๊อบนี้อยู่กระทั่งแซมโดนจับตัวไป และนั่นก็เป็นเหตุผลที่เธอจำเป็นต้องจ้างเนดีนมาช่วยในงานนี้ พูดยังไม่ทันขาดคำ เนดีนก็สาวหมัดใส่หน้าของโคลอี้จนแทบแหก เพราะรับไม่ได้ที่ก่อนหน้านี้โคลอี้โกหกนางว่าไม่ได้รู้จักแซมเป็นการส่วนตัว ทว่าสุดท้ายทั้งสองก็ปรับความเข้าใจและกลับมาร่วมมือกันเหมือนเดิม จากนั้นทั้งคู่ก็เดินทางไปถึงด้านในของนครเบลัวร์แต่ก็พลาดท่าถูกอซาฟจับตัวได้ แล้วนำตัวไปรวมกับแซมที่ห้องโถงกลางอันเป็นที่ซ่อนของงาพระพิฆเนศ ซึ่งที่นั่นอซาฟได้บีบให้โคลอี้ต้องใช้ตราเพื่อปลดล็อคงาออกมา (โคลอี้ไขปริศนาตำนานฮินดูออกและทราบว่าจริงๆ แล้วในตอนแรกพระศิวะได้มอบขวานให้แก่องค์ปรศุราม ส่วนพระพิฆเนศก็ยอมให้ปรศุรามใช้ขวานสับงาตนเองทิ้งข้างนึง เพื่อให้ขวานได้แสดงศักยภาพของมัน มิเช่นนั้นแล้วจะเสื่อมเสียถึงพระเกียรติของพระศิวะของผู้เป็นบิดาที่มอบขวานให้ปรศุรามนั่นเอง)
เกร็ดความรู้
– ก่อนหน้าที่เนื้อเรื่องในเกมภาคนี้จะเริ่มขึ้น โคลอี้ได้วางแผนร่วมกับแซม โดยเริ่มจากให้แซมตีเนียนเข้าหาอซาฟแล้วอ้างว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญและรอบรู้เกี่ยวกับอาณาจักรฮอยซาลา พร้อมกับหลอกให้ข้อมูลแบบผิดๆ กับอซาฟ เพื่อถ่วงเวลาให้กลุ่มของอซาฟพายเรือวนอยู่ในอ่าง ช่วยให้โคลอี้สามารถแกะรอยสมบัตินำหน้าอซาฟนั่นแหละครับ ซึ่งตอนโคลอี้กับเนดีนเจออซาฟครั้งแรก อซาฟจะมีบ่นๆ ว่าผู้เชี่ยวชาญของตัวเองผลาญเวลาไปตั้งนานแล้วแต่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรคืบหน้าเลย
– อซาฟนั้นมีความคล้ายคลึงกับ โซรัน ลาซาเรวิช (Zoran Lazarevic) ตัวร้ายใน Uncharted 2 อยู่สองอย่างครับ อย่างแรกก็คือทั้งคู่ล้วนมีกองกำลังเป็นของตัวเอง โดยฝั่งลาซาเรวิชนั้นจะเป็นกองกำลังส่วนตัวของเขาเอง ส่วนของอซาฟจะเป็นกลุ่มกองกำลังกบฎ และอย่างที่สองก็คือทั้งคู่มีบทที่ได้จับกุมตัวเอกของเกมเอาไว้ พร้อมทั้งขู่ให้ตัวเอกเปิดทางสู่ขุมทรัพย์ด้วยการใช้เพื่อนๆ ของตัวเอกเป็นตัวประกัน ดังเช่นในภาค 2 ที่ลาซาเรวิชบังคับให้เนธานไปเปิดประตูสู่แชมบาล่า โดยมีเอเลน่ากับโคลอี้เป็นตัวประกัน ในขณะที่ภาค The Lost Legacy ทางอซาฟก็ขู่ให้โคลอี้ไขปริศนาเพื่อเอางาพระพิฆเนศออกมา โดยมีชีวิตของแซมกับเนดีนเป็นตัวประกัน
พออซาฟได้งาพระพิฆเนศมาอยู่ในมือ ก็จัดการระเบิดผนังของห้องโถงทิ้งเพื่อให้น้ำทะลักเข้ามาท่วมโคลอี้ เนดีน และแซมให้ตายไปพร้อมกัน แต่โคลอี้ได้ใช้วิชาสะเดาะกุญแจพาตัวเองกับเนดีนและแซมหนีออกมาได้อย่างทุลักทุเล ต่อมาทั้งสามก็ตามล่าอซาฟไปติดๆ ไม่นานนัก เนดีนก็ต้องช็อคเมื่อทราบความจริงว่าอซาฟนั้นได้ดีลธุรกิจกับสมาชิกกลุ่มชอร์ไลน์ที่หลงเหลืออยู่ นำโดย ออก้า (Orca) อดีตสมุนของเนดีนที่ตอนนี้กลายเป็นคนคุมชอร์ไลน์แทนเนดีนไปแล้ว ซึ่งอซาฟได้นำงาพระพิฆเนศมาแลกเปลี่ยนกับอะไรบางอย่างที่มีขนาดมหึมาแล้วลำเลียงมันขึ้นไปบนรถไฟที่วิ่งเข้าสู่ตัวเมือง เมื่อรู้ดังนั้นแล้ว พวกโคลอี้เลยบุกเข้าไปปราบออก้าสำเร็จ และเค้นข้อมูลจากออก้าได้ว่า สิ่งที่อซาฟได้ไปก็คือระเบิดไซส์ยักษ์ที่เจ้าตัวหวังจะปล่อยให้มันระเบิดที่ใจกลางเมืองหลวงเพื่อจุดชนวนให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น เมื่อพูดจบ ออก้าอาศัยจังหวะที่เนดีนเผลอแล้วจะชักปืนออกมายิง แต่แซมช่วยเนดีนไว้ได้ทัน เนดีนเลยรัวปืนกลับไปใส่ออก้าจนตายคาที่ จากนั้นโคลอี้เลยพยายามโน้มน้าวให้เนดีนกับแซมช่วยเธอในการยับยั้งเหตุวินาศกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
ทั้งสามพยายามหาทางหยุดรถไฟของอซาฟ ซึ่งแซมกับโคลอี้สามารถไปดักหน้าแล้วสลับรางให้รถไฟเปลี่ยนเส้นทางไปยังสะพานที่ชำรุดแทนได้ทันท่วงที โคลอี้รีบตามไปสมทบกับเนดีนที่รออยู่บนรถไฟและบุกไปถึงห้องเครื่องยนต์ที่ติดตั้งระเบิดไว้ พร้อมกับประจัญหน้ากับอซาฟที่รออยู่แล้ว ในที่สุดสองสาวก็จัดการรุมอัดอซาฟเละตุ้มเป๊ะ แถมขาของอซาฟก็ถูกระเบิดทับจนขยับไปไหนไม่ได้ด้วย และแล้วโคลอี้กับเนดีนก็หนีจากขบวนรถไฟได้ทันก่อนที่รถไฟจะตกสะพานลงสู่เบื้องล่าง เมื่อรอดมาได้ โคลอี้กับเนดีนตัดสินใจที่จะร่วมงานกันต่อในอนาคต ในขณะที่แซมแอบเซ็งที่รู้ว่าทั้งสองคิดจะส่งมอบงาพระพิฆเนศคืนให้กับรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของอินเดีย เพราะแน่นอนว่าอดได้เงินแหงๆ