Review: Fairy Tail: Dragon Cry
“ยามมังกรคำรามลั่น นั่นคือสัญญาณที่จะปิดฉากยุคสมัย”
ชื่อของ Fairy Tail นั้นเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างอยู่แล้วไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศก็ได้รับความนิยมล้นหลามในฐานะการ์ตูนแอคชั่นพลังมิตรภาพที่ดังที่สุดเรื่องวหนึ่งในช่วงหลายปีผ่านมานี้ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันผลงานของ Hiro Mashima เรื่องนี้จะไม่ได้อยู่ในจุดที่ความนิยมพีคสุดอีกต่อไปแต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อของ Fairy Tale ยังคงการันตีความเป็นแอคชั่นสไตล์โชเน็นขั้นสุดและมีสาวกที่ติดตามอยู่ในจำนวนไม่น้อยเลยครับ
สำหรับ Fairy Tail: Dragon Cry นั้นเป็นภาพยนตร์ฉายโรงตัวที่ 2 ของซีรีส์ครับ ซึ่งจะเป็นเนื้อเรื่องที่เป็น Original ไม่มีในมังงะ ทว่าในขณะเดียวกัน Dragon Cry คือภาคที่จะเล่าเรื่องเสริมและเป็นอารัมภบทก่อนที่ตัวซีรีส์มังงะจะเดินหน้าเข้าสู่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่จะปิดฉากเรื่องราวทั้งหมดนั่นเองครับ ซึ่งนี่คือ 1 เหตุผลหลักๆ ที่แฟนๆ มังงะ Fairy Tail ไม่สมควรพลาดชมภาพยนตรืเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง
Fairy Tail: Dragon Cry นั้นถูกนำเข้ามาฉายโดย DEX ร่วมกับบริษัท สตาดิโอ จำกัดซึ่งอยู่ในเครือ ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ครับผม และมีกำหนดเข้าโรงภาพยนตร์ในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมาก็ได้่มีการฉายรอบพิเศษแบบที่ชาวไทยได้ชมพร้อมญี่ปุ่นเลยที่พารากอน ซินีเพล็กซ์ ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนครับ และทาง OS เราก็ได้รับเชิญจากทาง DEX ให้เข้าชมด้วยเช่นกัน งานนี้ต้องขอขอบคุณทาง DEX มากๆ ครับ
เอาล่ะเรามาเข้าเรื่องกันสักที! อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ๆ ต้นๆ ว่า Fairy Tail: Dragon Cry จะเป็นอารัมภบทก่อนจะเข้าสู่เนื้อเรื่องช่วงสุดท้ายของซีรีส์ ซึ่งงานนี้เป็นเนื้อเรื่อง Original ที่มีเฉพาะเวอร์ชั่นภาพยนตร์เท่านั้นครับ ใครรออ่านมังงะก็อาจจะมีพูดถึงหน่อยๆ แต่บอกเลยว่าตอนนี้น่าจะไม่มีการวาดลงมังงะค่อนข้างแน่นอนครับ ดังนั้นใครที่เป็นแฟน Fairy Tail จึงสมควรตีตั๋วเข้าไปรับชมอย่างยิ่ง เพื่ออรรถรสในการแง่การเสพย์เนื้อเรื่องที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นครับ แถมมีค่ายนำเข้ามาฉายในไทยแบบที่ห่างจากญี่ปุ่นแค่ครึ่งเดือนคืออยากให้ไปอุดหนุนกันจริงๆ ครับ
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วก็ขอเตือนไว้ก่อนว่าใครที่ยังอ่าน Fairy Tail ไม่ถึงตอนล่าสุด หากเข้าไปดูภาค Dragon Cry ก็อาจจะโดนสปอยล์หลายๆ อย่างครับ ในขณะเดียวกันใครไม่เคยอ่าน Fairy Tail มาก่อนแล้วไม่ทำการบ้านมา คุณดูเรื่องนี้ไม่รู้เรื่องแน่นอน โดย Fairy Tail: Dragon Cry จะเล่าเรื่องภารกิจชิงไม้เท้ามังกรคำรณ “ดราก้อนคราย” ของกลุ่มแก็งค์จากกิลด์แฟรี่เทลซึ่งถูกไหว้วานมาจากกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรฟิโอเร่อีกที โดยไม้เท้า “ดราก้อนคราย” นี้กล่าวกันว่าเคยเป็นของฟิโอเร่แต่ถูกช่วงชิงไป มันมีอำนาจในระดับที่สามารถทำลายล้างทั้งทวีปได้เลยทีเดียว ดังนั้นภารกิจของแฟรี่เทลในครั้งนี้ต้องบอกว่าไม่ง่ายแน่นอน
ครับ… เราก็คาดหวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น แต่นี่คือ Fairy Tail! แทบทุกอย่างสามารถคลี่คลายได้ด้วยพลังมิตรภาพ! เราจึงไม่ได้เห็นชั้นเชิงในการเล่าเรื่องราวมากมายในภาคนี้นัก เป็นสไตล์เดินเรื่องแบบมังงะที่พวกเราคุ้นเคยกันดี แบบว่าพอพวกตัวเอกเข้าขั้นวิกฤตพวกเขาจะมีก็อก 2 ก็อก 3 เสมอๆ แม้อาจจะมีเซอร์ไพรซ์ในบางจุดอยู่บ้าง แต่รวมๆ แล้วก็ยังคงความเป็น Fairy Tail ไว้อยู่ครับคือดูง่าย เสพย์ง่าย ไม่มีอะไรเยอะนี่แหละ
อย่างไรก็ตามในแง่ตุณค่าของมัน Dragon Cry ก็ไม่ใช่ภาคหนังโรงที่มีขึ้นส่งๆ เสียทีเดียวครับ เพราะได้ Hiro Mashima มาคุมงานสร้างเอง ทำให้มุขตลกและจังหวะเดินเรื่องมีความไหลลื่นครับ ด้วยว่าสถานะเจ้าของผลงานก็ทำให้รู้ว่าต้องใส่หรือเติมอะไรลงไปตรงไหนนั่นเอง ถึงอย่างนั้นก็ฉากต่อสู้นี่ผมดันรู้สึกไม่อิ่มชอบกล มันมีเรื่องของการที่ “จู่ๆ ก็ชนะง่ายๆ โดยอาศัยพลังฮึด” และความรู้สึกที่ว่าเอฟเฟกต์ความอลังในการปล่อยท่าไม่เยอะเท่าทีควร คือมันก็ไม่ใช่ว่าฉากต่อสู้มันน้อยนะ ในทางกลับกันต้องบอกว่านอกจากมุขตลกกับเซอร์วิสสาวๆ แล้ว เรื่องนี้มีอะไรนอกจากการต่อสู้อีก? ซึ่งจุดนี้คือจุดติหลักๆ ที่ผมมองว่าควรจะสุดกว่านี้อีกสักหน่อยครับ
แต่ก็อย่างที่บอกครับ ถึงจะมีจุดติแต่ Dragon Cry ก็ไม่ใช่อนิเมที่ทำส่งๆ แต่อย่างใด ผมยังคงโอเคไปกับธีมเรื่องและงานภาพที่ดูดีกว่าแบบซีรีส์ สนุกสนานไปกับมุขตลกและคาแรคเตอร์ของแต่ละตัวละครที่มีสีสันมีชีวิตชีวา (มันมีตัวใหม่ตัวนึงครับที่พี่แกออกทีไรได้ฮาทุกที) สำคัญที่สุดเซอร์วิสตัวละครสาวๆ ซึ่งถูกใส่มาได้อย่างพอดี! แถมสาวๆ เรื่องนี้ทรงโตทุกคนครับ! มันเยี่ยมไปเลยนะ!
Erza is da best girl!
Fairy Tail: Dragon Cry แม้จะเป็นภาพยนตร์อนิเมะที่อาจจะขาดๆ ล้นๆ ไปบ้าง ทั้งยังไม่เหมาะกับทุกคนเพราะอย่างน้อยที่สุดคุณต้องรู้จักคาแรคเตอร์และลักษณะนิสัยของแก๊งค์แฟรี่เทลเสียก่อนจึงจะดูได้เต็มอรรถรสขึ้น กระนั้นมันก็ยังจัดว่าเป็นงานที่แฟนๆ Fairy Tail ควรต้องรับชมเป็นอย่างยิ่งเพราะนี่คือลำนำสู่การต่อสู้บทสุดท้ายของเรื่องราวที่ล่าสุดทางผู้เขียนคุณ Hiro Mashima ก็ประกาศออกมาเองแล้วครับว่า Fairy Tail จะจบลงในการรวมเล่มอีก 2 เล่มนั่นเอง โดยเฉพาะฉาก End Credit ซึ่งน่าจะเรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร เพราะเป็นการโยนไม้ส่งต่อเรื่องราวให้กับมังงะได้อย่างน่าติดตามครับ
